ถามมา-ตอบไป กับ Joseph Lubin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum | Techsauce

ถามมา-ตอบไป กับ Joseph Lubin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum

Session ที่เป็นที่พูดถึงและได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในงาน WebSummit เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ Session ถามตอบของ Joseph Lubin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum และผู้ก่อตั้ง ConsenSys

Lubin เปิดประเด็นด้วยการถามทุกคนที่เข้าร่วมว่า “มีใครบ้างที่มีเงินดิจิทัล?” เกือบทุกคนในห้องนั้นต่างยกมือขึ้น หลังจากนั้นเขาจึงถามต่อว่า “แล้วมีใครบ้างที่ใช้เงินดิจิทัล” แต่กลับไม่มีใครยกมือในครั้งนี้

Lubin ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างเงินธรรมดากับเงินดิจิทัลในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเงินดิจิทัลยังใหม่มากและยังไม่เคยถูกนำมาใช้ในแบบที่เราใช้เงินสดกันอยู่ แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเราจะวัดความสำเร็จของมันจากการเทียบกับเงินที่เราใช้กันในปัจจุบัน เพราะเขากล่าวว่า เป้าหมายหลักของการสร้างนวัตกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้นั้น มันไม่ได้เกิดจากการพัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น แต่มันคือการสร้างสิ่งใหม่ที่ดีกว่า

เขาแสดงความเห็นเรื่องที่ JP Morgan บอกว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นฟองสบู่ แต่ดันกลับกลายเป็นผู้ที่ลงทุนมหาศาลเพื่อศึกษาเกี่ยวกับ Blockchain และหาทางจะใช้ประโยชน์จากมัน ซึ่งเขาคิดว่ามันออกจะย้อนแย้งในตัวเอง

โดย Lubin มองว่าตอนนี้เงินดิจิทัลยังเป็นฟองสบู่ที่ดีอยู่ ด้วยเทคโนโลยี Blockchain ที่ยัง support และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่มากขึ้นกว่าแต่ก่อน เขามั่นใจว่า Blockchain กำลังจะเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างและบริษัทด้านเทคโนโลยีควรจะออกมาจากโลกเดิมๆ หรือวิถีแบบเดิมๆ เพราะถึงเวลาแล้วสำหรับการยอมรับสิ่งใหม่ ๆ

เป้าหมายของ Ethereum คือ?

ถ้าพูดถึง Bitcoin มันถูกสร้างขึ้นเพื่อทดลองทฤษฎีทางการเงินและถูกโปรแกรมให้เป็นที่เก็บการทำธุรกรรมเท่านั้น แต่ Ethereum ถูกสร้างมาเพื่อเป็นแพลตฟอร์มกระจายศูนย์กลางที่สามารถใส่โปรแกรมและพัฒนาต่อได้ โดยเรามอง Ether เป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบกระจายศูนย์บนโลกออนไลน์

ทั้ง Bitcoin และ Ether อยู่ในสภาวะที่ผันผวนได้ง่าย คุณคิดว่ายังไง?

ใช่ token พวกนี้ค่อนข้างผันผวน เนื่องจากฐานเงินมีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับฐานเงินหรือสินค้าอื่นๆ แต่ Ether เป็นสิ่งที่จำเป็นและทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนระบบ

คุณมองอนาคตของเงินดิจิทัลไว้ว่ายังไง?

ผมไม่รู้เกี่ยวกับอนาคตที่แน่ชัด แต่มีผู้คนมากมายใน New York ที่มอง Bitcoin เป็นเหมือนกับทอง ซึ่งนั้นแปลว่าเทคโนโลยีนี้ถูกสร้างมาเพื่ออนาคต ส่วน Ethereum จะต้องใช้เวลาในการเติบโตและขยายให้เป็นที่รู้จักและใช้งานได้จริง ตอนนี้เรากำลังร่วมกับ Santander เพื่อพัฒนาการเชื่อมต่อเครือข่ายระหว่างประเทศด้วยการเชื่อมระบบธนาคารและระบบ Blockchain และการใช้เหรียญ token เข้าด้วยกัน

คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับการตีความเงินดิจิทัลของหน่วยงานกำกับดูแล และมันจะมีผลต่อ ICO อย่างไร?

ในฐานะผู้สร้าง token เวลาที่เราจะทำอะไรก็ตาม เราต้องศึกษากฎหมายอย่างหนัก ซึ่งตอนนี้กำลังเริ่มมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการกำกับดูแลมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เราก็ต้องรอดูว่าสุดท้ายแล้วผลจะออกมาเป็นยังไง ผมคิดว่ามันจะมีทางออกที่น่าสนใจมาก

ที่มาของภาพ Computerworld

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

‘Yindee’ แชตบอตในแอป ttb Touch ใช้ Gen AI จับความรู้สึก ตอบเร็วและฉลาดกว่าที่เคย

Yindee แชตบอตที่อยู่บน Mobile Banking ของ ttb ทำงานผ่านแอป ttb Touch สามารถจับ Mood & Tone ของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ ว่าขณะแชตนั้น ลูกค้าอยู่ในอารมณ์ไหน ด้วย Generative AI โดย Azur...

Responsive image

คนอยากใช้พลังงานเยอะ แต่โลกอยากได้ปล่อยคาร์บอนน้อย บริษัทพลังงานแก้ไขความย้อนแย้งนี้อย่างไรดีในยุค AI

The Energy/Prosperity Paradox หรือภาวะย้อนแย้งแห่งพลังงาน และความเจริญ ถือเป็นความท้าทายระดับโลกที่บริษัทด้านพลังงานกำลังพบเจอ เพราะในตอนนี้โลกกำลังต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างไม่เ...

Responsive image

เศรษฐกิจไทย ‘ฟื้นตัว’ แล้วหรือยัง ? ฟังความเห็นจาก 3 ผู้นำธุรกิจยักษ์ใหญ่ไทย

ค้นพบศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย จีน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และกัมพูชา พร้อมโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจในภาคอุตสาหกรรม การเงิน และเทคโนโลยี...