KBank x Orbix Technology x StraitsX เปิดตัวโครงการ ‘Seamless Travel Payments on Chain’ โชว์นวัตกรรมภายใต้ BLOOM ที่งาน Singapore FinTech Festival 2025

ปิดฉากไปแล้วสำหรับงาน Singapore Fintech Festival (SFF) 2025 หนึ่งในเวทีฟินเทคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งปีนี้ นาคารกสิกรไทย (KBank), Orbix Technology และ StraitsX ได้สร้างความน่าสนใจอย่างมากในการเปิดตัวโครงการ ‘Seamless Travel Payments on Chain’ เพื่อทำให้การชำระเงินข้ามพรมแดนเป็นไปอย่างสะดวก และไร้รอยต่อด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน 

รวมถึงการขึ้นเวทีของผู้บริหารระดับสูงของ KBank คุณขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย ที่ฉายภาพทั้งวิสัยทัศน์ ควบคู่ไปกับนวัตกรรมที่จับต้องได้จริงผ่านงานที่สิงคโปร์ครั้งนี้

KBank ในทศวรรษหน้า แข่งที่ "ประสบการณ์" ไม่ใช่แค่ "ผลิตภัณฑ์"

ในเวทีเสวนาหัวข้อ "ธนาคารดิจิทัลจะแข่งขันกันอย่างไรในทศวรรษหน้า" (How Will Digital Banks Compete Over the Next Decade? New propositions and customer segments) คุณขัตติยา ได้ฉายภาพอนาคตของอุตสาหกรรมการเงินไว้อย่างน่าสนใจว่า 

บริการทางการเงินในปัจจุบัน กำลังถูกหล่อหลอมรวมเข้ากับชีวิตประจำวันจนเราแทบจะแยกกันไม่ออกแล้ว โดยอนาคตของธนาคารไม่ได้อยู่ที่ตัวผลิตภัณฑ์ แต่คือการฝังบริการการเงินเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คน ไม่ว่าจะผ่านสมาร์ทโฟน, รถยนต์ หรือแม้แต่เครื่องใช้ในบ้าน โดยบริการเหล่านี้จะทำงานแบบอัตโนมัติอยู่เบื้องหลัง

หมายความว่า อนาคตของธนาคารจะเปลี่ยนจาก Product-Driven หรือการแข่งขันด้วยผลิตภัณฑ์ ไปสู่ Experience-Driven หรือการแข่งขันด้วย Ecosystem และประสบการณ์ของธนาคารแต่ละเจ้า โดยทาง KBank มีจุดแข็งสำคัญในการแข่งขัน ท่ามกลางตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น

  • ความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามอบให้ จากการให้บริการที่โปร่งใสและมีมาตรฐาน
  • ความเชี่ยวชาญด้านกฎระเบียบ ยกระดับความปลอดภัยและความถูกต้องในการดำเนินงาน
  • ความสัมพันธ์กับลูกค้าที่เข้าใจและตอบโจทย์ความต้องการจริง สามารถนำมาพัฒนาบริการได้อย่างตรงจุด
  • กลยุทธ์ Omni-channel ที่มอบประสบการณ์บริการแบบไร้รอยต่อ ทั้งผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลและเครือข่ายสาขา

คุณขัตติยา ทิ้งท้ายด้วยประเด็นสำคัญที่สุดว่า 

เมื่อเทคโนโลยีและ AI ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ความรับผิดชอบของผู้ให้บริการทางการเงินต้องยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย เราเชื่อว่าพลังของข้อมูลและ AI จะทำให้ธนาคารเข้าใจลูกค้าได้ลึกขึ้น ออกแบบบริการที่ตรงใจ โปร่งใส และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมพัฒนาทักษะของบุคลากรให้ทันโลกแห่ง AI เพื่อให้เราดูแลลูกค้าได้อย่างมั่นใจและยั่งยืนในระยะยาว 

เจาะลึกโปรเจกต์ “Seamless Travel Payments on Chain” เมื่อการจ่ายเงินข้ามพรมแดนไว และสะดวกกว่าที่เคย

การประกาศความร่วมมือครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารและหน่วยงานกำกับดูแลร่วมรับฟังทั้ง 

  • คุณขัตติยา อินทรวิชัย (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย)
  • ดร.รุ่ง โปษยานนท์ มัลลิกะมาส (รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย)
  • Mr. Leong Sing Chiong (Deputy Managing Director - Markets & Development ธนาคารกลางสิงคโปร์)
  • คุณจิรัชณา บุญธรรม (Head of Marketing and Community ของ Orbix Technology)
  • Mr. Justin Kim (Head of Asia ของ Ava Labs)

โดย ดร. กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย และ Mr.Tianwei Liu Co-Founder & CEO จาก StraitsX ได้ประกาศความร่วมมือเพื่อพัฒนาโครงการ “Seamless Travel Payments on Chain” ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการ “BLOOM’’ ความร่วมมือในระดับนานาชาตินำโดยธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) โดยมีพันธมิตรหลักได้แก่ KBank, Orbix Technology (บริษัทภายใต้กลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทย) และ StraitsX

ทำไมต้องเป็น 3 เจ้านี้ ?

KBank: ผู้นำด้านการเงินและธนาคารของไทย และเป็นผู้บุกเบิก ‘Q-money’ (Regulated e-money) บนบล็อกเชนเจ้าเดียวในประเทศไทยที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล และมีส่วนร่วมในโครงการ CBDC ของ ธปท.

StraitsX: ได้รับใบอนุญาตจาก MAS ในฐานะ Major Payment Institution และเป็นผู้ออก XSGD ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลสิงคโปร์ดอลล่าร์ที่มีมูลค่าเสถียร โดยมีการสำรองสินทรัพย์แบบ 1:1 (Fully backed 1:1) โดยมีธนาคารชั้นนำระดับโลกอย่าง DBS, Standard Chartered และ CIMB เป็นผู้ดูแล

Orbix Technology: ผู้อยู่เบื้องหลังโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชน Quarix ที่เชื่อมต่อระบบ “เงินดิจิทัลที่กำกับดูแลได้” เข้ากับนวัตกรรมการเงินในโปรเจกต์นี้

ดร. กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รวมถึง Mr. Tianwei และ Mr. George Lee (Director, GrabFin Regional Strategy & Partnerships) ได้เข้าร่วมเวทีเสวนา “Building the Future of Cross-Border Payments through Project Seamless Travel Payments on Chain” โดยอธิบายถึงการทำงานร่วมกันนี้ให้เข้าใจอย่างง่าย ๆ ว่า

แต่ก่อน การจ่ายเงินข้ามพรมแดนแบบเดิม (เช่น บัตรเครดิต) แม้ทางฝั่งลูกค้าจะรูดบัตรจ่ายเพื่อรับสินค้าได้ทันทีหลังการอนุมัติรายการของฝั่งลูกค้าสำเร็จ แต่การชำระบัญชี (Settlement) หรือเงินที่วิ่งระหว่างธนาคารจริง ๆ กลับใช้เวลาหลายวัน ส่งผลให้ร้านค้าได้เงินช้าและเกิดต้นทุนแฝง 

ประเด็นเหล่านี้จึงทำให้เกิดโครงการ “Seamless Travel Payments on Chain” ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนงานสำคัญภายใต้ “BLOOM” โครงการความร่วมมือที่ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ผลักดันขึ้นมา โดยชื่อ BLOOM มาจากแนวคิดหลัก 5 ด้าน ได้แก่

  • Borderless (ไร้พรมแดน)
  • Liquid (มีสภาพคล่อง)
  • Open (เปิดกว้าง)
  • Online (เชื่อมต่อกันแบบออนไลน์)
  • Multi-currency (รองรับหลายสกุลเงิน)

BLOOM มีเป้าหมายในการผสานพลังระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลให้เกิดขึ้นจริง ภายใต้กรอบมาตรฐานด้านกฎระเบียบที่เหมาะสมและปลอดภัย 

สำหรับแผนพัฒนาโครงการที่ทั้ง 3 องค์กรร่วมมือกัน ในตอนนี้มีการเปิดเผยให้เห็นขั้นตอนการใช้งานที่น่าสนใจแบ่งออกเป็น 3 ระยะสำคัญดังนี้

ระยะที่ 1 (Outbound Tourist) นักท่องเที่ยวไทยไปสิงคโปร์ ใช้จ่ายได้ง่ายเหมือนอยู่ไทย

  • นักท่องเที่ยวสามารถใช้ Q Wallet app สแกน QR ของร้านค้า Grab หรือ PayNow ในการชำระเงินด้วย Q-money ได้ทันที ซึ่งร้านค้าสิงคโปร์จะได้รับเงิน SGD ทำให้ประสบการณ์ใช้งานราบรื่นเหมือนกับการสแกนจ่ายเงินในไทย

ระยะที่ 2 (Inbound Tourist) นักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์มาไทย จ่ายได้ทันทีแบบไร้รอยต่อ

  • นักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์ สามารถสแกน QR เพื่อจ่ายเงินในไทยได้เช่นกัน และร้านค้าไทยก็จะได้รับเงิน THB โดยไม่ต้องไปแปลงสกุลเงินให้ยุ่งยาก

ระยะที่ 3 : (Enhanced Inbound Tourist) ยกระดับความปลอดภัยด้วยระบบการยืนยันตัวตนข้ามพรมแดน

  • มีการนำระบบ Cross-Border KYC Verification มาใช้เพื่อให้การตรวจสอบและยืนยันตัวตนเป็นไปอย่างปลอดภัย และตรงตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลในทั้งสองประเทศ

ในระยะที่ 1 โครงการได้อยู่ภายใต้การทดสอบใน Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว และคาดว่าจะพร้อมให้บริการภายในไตรมาส 2 ปี 2569 ส่วนระยะที่ 2 และระยะที่ 3 มีแผนจะเริ่มสำรวจแนวทางการพัฒนาในช่วงครึ่งแรกของปี 2569 และจะเตรียมเข้าสู่กระบวนการขออนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง

เบื้องหลังความไร้รอยต่อนี้ ประกอบไปด้วย Quarix บล็อกเชนที่ Orbix Technology พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับธุรกรรมของเงินดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง 

โครงการนี้ยังเชื่อมต่อกับ Avalanche เพื่อให้เกิดธุรกรรมข้ามพรมแดนได้  ซึ่งเป็นเครือข่ายที่รองรับ XSGD ของ StraitsX อยู่แล้ว และสามารถสร้าง Permissioned Custom Chains ที่สอดคล้องกับข้อกำกับดูแล พร้อมรองรับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้ตามระดับที่ต้องการ และยังเชื่อมต่อกับระบบเดิมได้อย่างราบรื่น

ด้วยความสามารถในการทำงานร่วมกันนี้ Q-money และ XSGD จึงสามารถแลกเปลี่ยนกันได้แบบเรียลไทม์ วางรากฐานให้กับโครงสร้างพื้นฐานที่มีความปลอดภัยและรองรับการขยายตัว เหมาะสำหรับการใช้งานระดับองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

บทสรุปส่งท้ายจากงาน Singapore Fintech Festival 2025

Singapore Fintech Festival 2025 ในปีนี้ยังคงเป็นเวทีฟินเทคระดับโลกที่เน้นนวัตกรรมการเงินผ่านแนวคิดดิจิทัล และการเชื่อมต่อข้ามพรมแดน ทั้ง AI, Tokenization, และ Quantum ส่งเสริมโอกาสการใช้งานจริง 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดตัวโครงการ BLOOM ของธนาคารกลางสิงคโปร์ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการขยายขีดความสามารถด้านการชำระบัญชีของสถาบันการเงิน โครงการนี้มุ่งเน้นการนำ Tokenized Bank Liabilities และ Regulatory-Compliant Stablecoins ที่ได้รับการกำกับดูแลอย่างถูกต้อง มาใช้เพื่อยกระดับการจัดการความเสี่ยงและรองรับธุรกรรมในหลากหลายสกุลเงิน ทั้งการชำระเงินข้ามพรมแดนและการใช้งานระดับองค์กร

บทบาทของ KBank และ Orbix Technology ร่วมกับ StraitsX สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้นในระดับภูมิภาคในการยกระดับโครงสร้างการชำระเงิน และการเตรียมความพร้อมสู่การใช้เงินดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลในวงกว้างผ่านโปรเจกต์ “Seamless Travel Payments on Chain” ที่อยู่ภายใต้โครงการ BLOOM

สิ่งเหล่านี้กำลังแสดงให้เห็นว่า พวกเขาไม่ได้เพียงแค่วางกลยุทธ์สำหรับอนาคต แต่กำลังลงมือสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับอนาคตนั้นแล้วตั้งแต่วันนี้

บทความนี้เป็น Advertorial

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สรุป 17 ดีลใหญ่ AI ที่เกิดขึ้นในปี 2025

สรุปครบ 17 ดีล AI ยักษ์ใหญ่ปี 2025 พร้อมเจาะลึกปม Circular Deals หรือการหมุนเงินลงทุนเป็นวงกลม สัญญาณเตือนฟองสบู่ที่นักลงทุนต้องระวัง...

Responsive image

ทิศทาง Agoda ในยุค AI-First จาก CEO เตรียมปักธงปั้นกรุงเทพฯ เป็น ‘Silicon Valley แห่งเอเชีย’ พร้อมส่องเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2026

เจาะลึกวิสัยทัศน์ Agoda 2025 ปั้นกรุงเทพฯ สู่ Silicon Valley แห่งเอเชีย พร้อมเปิดตัวกลยุทธ์ AI-First และ Autonomous Agent ผู้ช่วยอัจฉริยะที่คิดแทนคุณได้ เผยข้อมูล Insight เที่ยวไทย...

Responsive image

อยากใช้ AI ช่วยธุรกิจแต่ไปไม่ถูก? 6 ขั้นตอน AI และ Automation เปลี่ยนงานซ้ำซากให้เป็นระบบอัตโนมัติ

6 ขั้นตอนบูรณาการ AI และ Automation เข้าสู่ธุรกิจ เปลี่ยนงานซ้ำซากให้เป็นระบบอัตโนมัติ วัดผล ROI ได้จริง โดยไม่ต้องเขียนโค้ด...