ใครๆ ก็พูดถึงความสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลกันมานานแล้ว ไม่ว่าจะในมิติของวิธีติดต่อสื่อสาร วิธีขายสินค้า หรือกระทั่งวิธีทำการตลาด ธุรกิจทั้งน้อยใหญ่ล้วนต้องหันมาเสนอขายสินค้าออนไลน์แข่งกันมากขึ้น ทำให้เราก็ยิ่งเห็นความสำคัญของการทำการตลาดดิจิทัลมากขึ้นกว่าเดิม
แต่ด้วยหน้าตาบริบทโลกการทำงานปัจจุบัน ‘เปลี่ยนไป’ อย่างมาก โจทย์ความท้าทายในยุคดิจิทัลเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเช่นกัน ดังนั้น การอัปเดตทักษะและวิธีเตรียมความพร้อมให้กับองค์กรและบุคลากรในการเข้าสู่ยุคดิจิทัล จึงเป็นสิ่งสำคัญ ตัวคนทำงานและตัวองค์กรธุรกิจเองก็ต้องคอย ‘ปรับตัว’ ให้ทันยุคเพื่อให้เป็น “ผู้อยู่รอด” ในโลกวันนี้
SEAC (ซีแอค) ในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร บุคลากรและองค์กรในประเทศไทย ที่มุ่งมั่นเสริมสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต ผ่านประสบการณ์การเรียนรู้ และหลักสูตรระดับเวิลด์คลาส เพื่อให้ทุกคนสร้างอนาคตที่ดีกว่า ได้จัดงานสัมมนา YourNextU by SEAC “Bridging Digital Age Skill Gaps ถอดรหัสความสำเร็จเพื่อเติมทักษะบุคลากรในยุคดิจิทัล” เพื่อเปิดมุมมองผู้นำองค์กรให้เข้าใจการทำ Digital Transformation ก่อนว่า การวางกลยุทธ์ทางดิจิทัลไม่ใช่แค่เรื่องของการใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมเพียงเท่านั้น แต่ต้องให้ความสำคัญกับคนและวัฒนธรรมขององค์กร (People and Culture) ซึ่งถือเป็นแกนหลักที่สำคัญที่สุด
คุณนิภัทรา ตั้งพจน์ทวีผล ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์ YourNextU by SEAC กล่าวว่า “เพียง 2-3 ปีในยุคโควิด เราเริ่มมองเห็นสัญญาณเรื่องของเทรนด์การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับองค์กรไทยที่คล้าย ๆ กัน”
สัญญาณแรกคือ More Agile and Adaptive แทบจะทุกองค์กรกำลังมองหา และคาดหวังพนักงานที่มี Mindset เปิดรับกับสิ่งใหม่ ๆ รวมทั้งพร้อมที่จะปรับเปลี่ยน และมีวัฒนธรรมของการทำงานร่วมกันในการแก้ปัญหาใหม่ ๆ ให้ได้ด้วยความรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นเกือบทุกองค์กรในช่วง 2-3 ปีนี้
สัญญาณที่สอง คือ Sense & Response Rather Than “Solid Planing” หลาย ๆ องค์กรเริ่มวางแผนที่สั้นลง แต่เน้นเรื่องของทำอย่างไรให้ “คน” มีโอกาสได้นำแผนไปทดลอง และมีการปรับแผนพร้อมกับวิธีการทำงานใหม่ ๆ ซึ่งถือเป็นจุดที่มีการปรับเปลี่ยนเรื่องของการทำงานไปค่อนข้างเยอะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
สัญญาณที่สาม คือ Become Technology (Enabled) Business แทบจะทุกอุตสาหกรรม จำเป็นจะต้องมองในเรื่องของการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงาน เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ซึ่งถือเป็นโจทย์เรื่องของการทำงานในรูปแบบใหม่ในยุคนี้
ทั้งนี้ คุณนิภัทรา กล่าวเพิ่มเติมว่า “เมื่อโจทย์การทำงานเปลี่ยนไป ทักษะที่จำเป็นในการทำงานก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เพราะหนึ่งในความท้าทายเดียวนั่นคือเรื่องของ ‘คน’ โดยข้อมูลจาก World Economic Forum ระบุว่า มีการคาดการณ์ว่า ภายใน 5 ข้างหน้า ชุดทักษะและประสบการณ์เดิมที่เราจะสามารถใช้ต่อไปได้นั้นจะมีแค่ 50% ส่วนอีก 50% เป็นชุดทักษะใหม่ที่จำเป็นจำต้องเรียนรู้แทบจะทุกตำแหน่งงาน
ทั้งนี้ชุดทักษะใหม่ ไม่ได้จำกัดเฉพาะ Digital Skills เท่านั้น แต่หมายถึงเรื่องของทักษะใหม่ๆในเรื่องของการทำงาน การนำทีม และการประสานงานแบบใหม่ ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการทำงานแบบเดิม”
จุดสำคัญที่องค์กรจะต้องเริ่มมองคือ กลยุทธ์และแนวทางใหม่ที่ใช่ในการยกระดับ Mindset และ Skillset ที่สำคัญให้บุคลากรในองค์กรไปพร้อม ๆ กับการทำ Digital transformation
ในภาพองค์รวม หากเราต้องการที่จะพัฒนาชุดทักษะให้กับคนในองค์กร จะต้องมีคุณสมบัติที่เป็น Hybrid Skill คือมีการผสมผสานระหว่าง Soft Skill และ Hard Skill ซึ่งจะทำให้สามารถสร้างคุณค่าใหม่ ๆ และเกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ฉะนั้นองค์ความรู้ที่เราต้องเริ่มมองวันนี้คือ “การผสมผสานทักษะ รู้กว้าง รู้หลายอย่าง”
1. Understand ต้องดูว่าคนในองค์กรเข้าใจตรงกันหรือยังว่า Digital Transformation ทำไปเพื่อตอบโจทย์บริบทโลกการทำงานในวันนี้ และหน้าตาของ Digital Age เป็นอย่างไร
2. Promote Opportunities ผู้นำต้องเข้าใจว่า Digital Age และ Digital Transformation คืออะไร สร้างโอกาสให้คนและองค์กรที่พร้อมเติบโตและก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำได้ในยุคดิจิทัล
3. Rethink ว่าเราจะสร้างคนยังไง หากเป็นองค์กรใหญ่อาจจะเลือกกลุ่ม Talent ให้เป็น Early Adopter ในการปรับตัว ติดอาวุธทักษะดิจิทัลที่จำเป็น ยกระดับศักยภาพด้วยเนื้อหาหลักสูตรที่เท่าทันยุคสมัย การันตีในผลลัพธ์ และมีใบรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ เพื่อสร้างแต้มต่อให้พร้อมเข้าสู่ดิจิทัลก่อน
ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลให้ YourNextU by SEAC ได้ร่วมมือกับสถาบันชั้นนำระดับโลกด้านการพัฒนาทักษะดิจิทัล อย่าง Simplilearn สถาบันออนไลน์ Bootcamp อันดับ#1 ที่การันตีด้วยรางวัลมากมาย และได้รับความไว้วางใจให้ติดอาวุธดิจิทัลให้กับบุคลากรจากกว่า 400 องค์กรชั้นนำจากกลุ่ม Fortune 500 ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Visa, P&G หรือแม้แต่บริษัทชั้นนำของวงการเทคฯ อย่าง Microsoft หรือ IBM
• เนื้อหามาตรฐานโลกที่พัฒนาร่วมกับองค์กรด้านเทคโนโลยีชั้นนำ ถ่ายทอดโดยตัวจริงในวงการ
• ผนึกทุกประสบการณ์การเรียนรู้ เน้นการลงมือปฏิบัติ พิสูจน์แล้วว่าให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าถึง 7 เท่า
• สร้างแต้มต่อในยุคดิจิทัลด้วยเกียรติบัตรจากจาก Simplilearn และสถาบันชั้นนำอื่นๆ ที่เป็นที่ยอมรับกันในระดับสากล อย่าง IBM
โดยโปรแกรม Simplilearn Master Certification Program เรียนสดผ่านช่องทางออนไลน์กับผู้เชี่ยวชาญจากสถาบัน SimpliLearn ตาม 4 สายอาชีพ ทั้ง Data Analyst, Data Scientist, AI Engineer และ Digital Project Manager ในระยะเวลา 10 สัปดาห์
พบกับหลักสูตรแรก Data Analyst Master Certification ที่จะทำให้คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ที่จะเริ่มเรียนตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2565 นี้ ลงทะเบียนได้แล้วที่ https://bit.ly/3sfjg0f
สนใจดูรายละเอียดหลักสูตรอื่นๆ เกี่ยวกับ Simplilearn Master Certification Program นี้ได้ที่ https://bit.ly/37tA9xm
หรือหากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่
Website: https://www.yournextu.com/
หมายเลขโทรศัพท์ +66 61-420-5959
ทั้งหมดนี้จึงทำให้หลายองค์กรสามารถมั่นใจได้เลยว่า หลักสูตรที่ทาง YourNextU by SEAC ได้ร่วมกับ Simplilearn จะทำให้องค์กรมีความเข้าใจ พร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลและสามารถทำ Digital Transformation ได้อย่างมั่นใจ
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด