หลังจากที่เรานำเสนอบทความด้าน Blockchain มาหลายบทความ และหนึ่งในรูปแบบ use case ที่มักถูกพูดถึงบ่อยๆ และมีหลายองค์กรกำลังทำการทดสอบบริการดังกล่าว นั่นคือ Smart Contract หลายคนเห็นกรณีศึกษาที่เกิดขึ้น แต่อยากให้ช่วยขยายความว่า Smart Contract ที่ว่านี้ทำอะไรได้บ้าง วันนี้เราเลยสรุปเนื้อหาใจความสำคัญมาให้ได้อ่านกัน
Smart Contract (สมาร์ท คอนแทรคท์) คือการนำเอาเงื่อนไขในสัญญาและกระบวนการทางธุรกิจ มาเขียนเป็นโค้ดโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะช่วยให้การบังคับใช้สัญญาตามข้อตกลงถูกดำเนินการโดยอัตโนมัติ ถูกต้อง คล่องตัว และโปร่งใส เพิ่มความน่าเชื่อถือ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ช่วยลดขั้นตอนการทำงาน และลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดจากมนุษย์ (Human Error) ได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ซื้อขายสินค้าออนไลน์ และผ่านโซเชียลสามารถลดความเสี่ยงของการชำระเงินลงได้ การโอนเงินข้ามประเทศจะสามารถทำได้ในเวลา 15 นาที จากเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายวัน การอนุมัติสินเชื่อที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว หรือการเคลมประกันแบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้เอกสาร รวมถึงยังเพิ่มความโปร่งใสในการทำธุรกรรม ที่จะช่วยให้การกำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารแห่งประเทศไทย ก.ล.ต. หรือ คปภ. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Tokyo Mitsubishi UFJ กับการนำมาใช้จัดการ Contract กับพาร์ทเนอร์
ตัวอย่างกรณีศึกษาของ PWCจากพื้นฐานสู่รูปแบบที่ซับซ้อน
ในไทยเริ่มมีบริษัทเริ่มให้บริการด้านนี้แล้ว ชื่อ SmartContract Thailand เป็นผู้ให้บริการ Smart Contract บน Blockchain ที่นำเอาความสามารถในการบันทึกข้อมูลที่น่าเชื่อถือและโปร่งใสตรวจสอบได้ของ Blockchain และคุณสมบัติการบังคับใช้สัญญาโดยอัตโนมัติของ Smart Contract มาพัฒนาเป็นระบบการทำธุรกรรมแบบอัตโนมัติที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย เพิ่มความคล่องตัวทางธุรกิจ และลดต้นทุนการให้บริการทางการเงินของธนาคาร สถาบันทางการเงิน อีคอมเมิร์ซ บริษัทประกัน รวมไปถึงธุรกิจด้าน FinTech และ InsureTech โดย SmartContract Thailand จะเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ในเดือนมีนาคมปีนี้ และอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเป็นพันธมิตรกับ 3 ธนาคารใหญ่ในไทยและต่างประเทศ
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด