ส่องวิธีสร้างธุรกิจ Startup แบบไม่ต้องใช้ทุนเยอะ สำหรับผู้ประกอบการใหม่ | Techsauce

ส่องวิธีสร้างธุรกิจ Startup แบบไม่ต้องใช้ทุนเยอะ สำหรับผู้ประกอบการใหม่

เราเห็นสตาร์ทอัพหลายเจ้าที่มีเงินทุนจำนวนมหาศาลจากการระดมทุน และเชื่อว่าการเริ่มสร้างสตาร์ทอัพต้องโฟกัสไปที่การระดมเงินทุนเท่านั้น ความคิดนี้อาจเป็นความคิดที่ผิด 

จริง ๆ แล้วการเริ่มสร้างสตาร์ทอัพจะต้องผ่านขั้นการทดสอบไอเดียโดยปราศจากการลงทุนจากภายนอก และยิ่งถ้าคุณมีเงินออมส่วนตัวไม่เพียงพอ คุณจะต้องมองหาวิธีสร้างสตาร์ทอัพโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เลย ซึ่งสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

ทดสอบลองขายไอเดีย

ลองสร้างหน้าเว็บไซต์ (Landing Page) พร้อมเปิดจองผลิตภัณฑ์ pre-sales เพราะการสร้างหน้าเว็บในปัจจุบันไม่จําเป็นต้องมีความรู้ทางเทคนิคก็สามารถสร้างได้ง่าย ๆ ในราคาประหยัด โดยใช้องค์ประกอบการออกแบบ (Design assets) เว็บไซต์ทั่วไปที่ราคาไม่สูง

คุณอาจกังวลหากเปิดขายสินค้าทั้ง ๆ ที่ยังไม่ผลิต แต่วิธีนี้กำลังจะเป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรม และยังเป็นวิธีที่เซฟที่สุดในการทดสอบว่าไอเดียสตาร์ทอัพของคุณสามารถดึงดูดผู้บริโภคได้จริงหรือไม่ จะมีรายได้เท่าไหร่ หากรายได้ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ก็แค่ใช้องค์ประกอบเว็บไซต์เดิมมาทดลองซ้ำอีกครั้งเพื่อดูว่าผลลัพธ์ดีขึ้นหรือไม่

คุณอาจเสนอไอเดียกับนักลงทุนเพื่อให้เขาช่วยลงทุนเงินให้ ซึ่งอันที่จริงแล้วนักลงทุนไม่ได้สนใจธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ของคุณในเชิงเทคนิค แต่สนใจว่าไอเดียของคุณจะสามารถสร้างเงินให้เขาได้มากแค่ไหน

สร้างผลิตภัณฑ์ตั้งต้นด้วย No-Code

ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีความรู้ทางเทคนิคด้านการสร้างเว็บไซต์หรือ application แต่มีบริการแพลตฟอร์ม No-code อยู่จำนวนมากที่จะช่วยให้คุณสร้างผลิตภัณฑ์ MVP ได้

MVP (Minimum Viable Product) คือ การสร้างผลิตภัณฑ์ตั้งต้น หรือผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่สมบูรณ์ เพื่อนำไปทดลองกับตลาดแล้วดูว่าผลตอบรับเป็นอย่างไร ควรปรับตรงไหน  MVP จะเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงที่ดีหากผลิตภัณฑ์ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด

ทั้งนี้ หาก Traction (ยอดผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์) สูงอาจนำผลกำไรที่ได้ไปลงทุนจ้างผู้เชี่ยวชาญตัวจริงมาช่วยเขียนเว็บไซต์ หรือไปเพิ่มเงินทุนจาก Seed investor (บุคคลที่ให้เงินทุนในระยะเริ่มแรกของการทำสตาร์ทอัพ) 

มองหาทีมซัพพอร์ต

การมีคนคอยช่วยเหลือย่อมได้เปรียบกว่าทำเองคนเดียว โดยทีมซัพพอร์ตอาจจะมาในรูปแบบ Co-Founder แบรนด์คู่ค้า หรือคนใกล้ตัวก็ได้

การมี Co-Founder ที่มีไอเดียหรือแพชชั่นตรงกันย่อมส่งผลดีต่อการสร้างสตาร์ทอัพเพราะไม่ต้องไปเสียค่าใช้จ่ายในรูปแบบของเงินเดือน อีกทั้งยังได้ทักษะ ประสบการณ์ และแรงงานจากทีม โดยเฉพาะทักษะการเขียนเว็บไซต์หรือโปรแกรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสร้าง Landing Page

หรือบางทีอาจจะไม่ต้องไปหาจากไหนไกล ลองขยับเข้ามามองคนใกล้ตัวที่พร้อมจะสนับสนุนคุณดูสิ อย่างเช่นคนในครอบครัวหรือเพื่อนที่พร้อมจะช่วยเรื่องเงินลงทุนให้คุณได้ทำตามความฝัน แต่ก็ต้องระวังไว้อย่างนึงว่า หากคุณนำเงินทุนไปใช้ผิดที่ผิดทาง อาจเสียความสัมพันธ์กับญาติมิตรโดยไม่รู้ตัวได้

จับมือกับ Partner

การจับมือกับแบรนด์คู่ค้าก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เซฟที่สุดในการขยายธุรกิจ คุณต้องมองหาแบรนด์ที่มีบริษัทเป็นของตัวเอง และไม่ใช่คู่แข่งโดยตรงกับธุรกิจของคุณ ซึ่งอาจจะมีกลุ่มลูกค้าเดียวกันแต่มีวิธีที่ต่างกันออกไป และแน่นอนว่าการตลาดแบบร่วมมือกันจะช่วยสร้างความจดจำในตัวแบรนด์และเรียกลูกค้าได้เป็นอย่างมาก

การมีหุ้นส่วนช่วยทำให้การระดมทรัพยากรจากผู้ที่มีเงินทุนเป็นเรื่องง่าย สิ่งสำคัญในการทำหุ้นส่วนให้ประสบความสำเร็จคือ ทุกคนต้องรู้บทบาทของตัวเองตามสัญญาจัดตั้งหุ้นส่วน (Partnership deed)

สร้างตัวตนผ่าน Social media

ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือธุรกิจประกอบการคนเดียว พลังของ Social media ก็สามารถพลิกกระดานเกมธุรกิจคุณได้ 

การทำการตลาดบน Social media เป็นวิธีที่ใช้เงินน้อยที่สุดแต่สร้างการเปลี่ยนแปลงได้มากที่สุด ดังนั้น หากคุณใช้อย่างถูกวิธี คุณจะสามารถขยายแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักได้แบบทวีคูณ เนื่องจาก Social media สามารถแนะนําธุรกิจคุณให้กับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มีประวัติความสนใจในด้านนั้น ๆ

โปรโมทสินค้าแบบ Pay-Per-Conversion

การทำ Marketing (การโปรโมทเพื่อให้ธุรกิจเป็นที่รู้จัก) เป็นหนึ่งในขั้นตอนที่ใช้เงินมากที่สุดของการเริ่มทำสตาร์ทอัพ

คุณอาจหมดเงินจํานวนมากกับไปการโปรโมตสินค้าทดลองแต่กลับได้ผลกำไรต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากไม่เจอตลาดผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของตัวเอง

วิธีคือให้โฟกัสไปที่กิจกรรมทางการตลาดที่ทําด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ยกตัวอย่างเช่น Content marketing หรือหาคู่ค้าที่เต็มใจขายผลิตภัณฑ์ของคุณให้แบบ Pay-per-conversion ซึ่งวิธีนี้อาจลำบากกว่าการจ้างคนมาโฆษณาให้เลย แต่มันจะเป็นทางเลือกเดียวที่คุณไม่ต้องเสียเงินไปกับขั้นตอนโปรโมท

สร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า 

ไม่มีลูกค้าก็ไม่มีรายได้ ลูกค้าหรือผู้บริโภคจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการธุรกิจ หากคุณเป็นสตาร์ทอัพหรือธุรกิจน้องใหม่ สิ่งที่ต้องทำเลยคือ ทรีตลูกค้าทุกคนอย่างเท่าเทียมกันให้รู้สึกพิเศษ เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะกลับซื้อสินค้าหรือใช้บริการเราอีกครั้ง เช่น มอบของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือให้คูปองส่วนลดสำหรับลูกค้าประจำ

จับตาดูคู่แข่ง

อีกหนึ่งข้อที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือ คู่แข่งทางธุรกิจ คุณควรให้ความสำคัญกับสิ่งที่คู่แข่ง ‘ทำอยู่’ มากพอ ๆ กับสิ่งที่คุณ ‘กำลังจะทำ’

การจับตาดูคู่แข่งช่วยให้คุณเรียนรู้จากฝั่งตรงข้ามในหลาย ๆ ด้าน เช่น ตอนนี้กำลังแข่งอยู่กับใคร เขามีข้อเสนออะไรบ้างที่คุณยังไม่มี รวมถึงการกำหนดราคาแข่งขัน และสร้างแคมเปญการตลาดต่าง ๆ 

อ้างอิง: forbes, proofhub, startup.info

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

AI จะเป็น ‘ผู้กอบกู้’ หรือ ‘ผู้ทำลาย’ การ์ตูนญี่ปุ่น

เมื่อประตูสู่วัฒนธรรมและเสาหลักทางเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นอย่าง อนิเมะและมังงะกำลังถูก AI แทรกแซง อนาคตของวงการนี้จะเป็นยังไง ?...

Responsive image

เจาะลึกเทรนด์ Spatial Computing จุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับองค์กรยุคใหม่

Spatial Computing คือเทคโนโลยีที่ผสานโลกเสมือนจริงและโลกจริงเข้าด้วยกัน ซึ่งมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กรในยุคดิจิทัล ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการฝึกอบรมและ...

Responsive image

ถอดกลยุทธ์ ‘ttb spark academy’ ปั้น Intern เพิ่มคนสายเทคและดาต้า Co-create การศึกษาคู่การทำงานจริง

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เห็น Pain Point ว่าประเทศไทยขาดกำลังคนด้านดิจิทัล (Digital Workforce) และธนาคารก็ต้องการคนเก่ง Tech & Data จึงจัดตั้ง ‘ttb spark academy’ เพื่อปั้น ...