ในขณะที่โลกกำลังพัฒนาเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างรวดเร็ว แรงงานที่มีทักษะดิจิทัลจึงเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น หนึ่งในทักษะดิจิทัลที่กำลังเป็นที่จับตาคือ Data Analytics หรือการวิเคราะห์เพื่อค้นหาข้อมูลเชิงลึก เป็นหนึ่งในทักษะดิจิทัลที่องค์กรต่างๆ ทั่วโลกเริ่มหันมาให้ความสำคัญ และต้องการบุคลากรที่มีทักษะด้านนี้เพิ่มมากขึ้น เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านนี้จะสามารถช่วยวิเคราะห์เทรนด์ของตลาดและข้อมูลที่มีนัยสำคัญ เพื่อสร้างกลยุทธ์ที่เป็นประโยชน์แก่ธุรกิจได้ ยิ่งไปกว่านั้นการวิเคราะห์ข้อมูล ยังถูกนำมาใช้มากขึ้นเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อใช้ในการแก้ปัญหาสังคม
ตัวแทนเยาวชนจากประเทศไทยสองคน ได้แก่ นายอัมรินทร์ อุดมผล และนายธีระพงษ์ ศรีสุพรรณ จากคณะบริหารธุรกิจ (วิทยาลัยนานาชาติ) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้รับโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านดาต้า อนาลิติกส์ ผ่าน การแข่งขัน ASEAN Data Science Explorers หรือ ADSE ซึ่งจัดโดยมูลนิธิอาเซียน ร่วมกับ SAP (เอสเอพี) โดยเปิดโอกาสให้เยาวชนในภูมิภาคอาเซียนมาร่วมวิเคราะห์หาข้อมูลเชิงลึกโดยใช้ซอฟต์แวร์อนาลิติกส์ คลาวด์ ของ SAP (เอสเอพี) เพื่อเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาทางสังคมที่เกิดขึ้นในภูมิภาค ตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals–SDGs) 6 เป้าหมาย ได้แก่
โดยภายในงานมีเยาวชนกว่า 5,000 คน จาก 175 สถาบันอุดมศึกษาในอาเซียนเข้าร่วมโครงการนี้ และในปีนี้มีจำนวนโครงการที่ถูกส่งเข้าประกวดเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงสามเท่า และมีทีมนักเรียน 801 คน จากหลากหลายสาขาวิชา เช่น สาขาวิชารัฐศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และสถาปัตยกรรม เข้าร่วมพัฒนาทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาทางสังคม
นายอัมรินทร์ อุดมผล หรือวิน จากคณะบริหารธุรกิจ (วิทยาลัยนานาชาติ) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยความรู้สึกว่า “ผมมีความฝันว่าอยากเรียน Data Science มานานแล้วครับ แต่ในตอนนั้นไม่ค่อยมีคอร์สในเมืองไทย ผมจึงหันมาเรียนด้านธุรกิจ แล้วก็ตั้งใจว่าค่อยเรียนต่อไปทางนั้นในภายหลัง ผมได้มาเจอกับโครงการนี้จากเฟสบุ๊คของมูลนิธิอาเซียน ซึ่งบอกว่าเราไม่ต้องกังวลเรื่องทักษะเลยเพราะทางโครงการจะช่วยสอนเอง ผมก็เลยคิดว่ามันเจ๋งดีที่จะให้โอกาสกับตัวเองลองเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แล้วก็พบว่าผมคิดไม่ผิดเลย เป็นประสบการณ์ที่สนุกมาก"
ผมได้เรียนรู้หลายอย่าง อันดับแรก ผมได้เข้าใจจากโครงการนี้ว่าทำไมคนบางคนถึงเรียก 'Data is the new currency' เพราะทักษะด้าน Data Analytics มีความสำคัญมากๆ ซึ่งประเทศไหนหรือองค์กรไหนก็สามารถใช้ได้ อยู่ที่ว่าคุณจะมองเห็นโอกาสหรือเปล่า
"อันดับที่สอง ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีของ SAP ในการช่วยระบุปัญหาและแก้ปัญหาสังคม ซึ่งเทคโนโลยีสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในหลายๆ ด้าน ไม่ใช่เฉพาะด้านธุรกิจเท่านั้น และอันดับสุดท้าย ผมได้เรียนรู้ด้านการเข้าสังคมใหม่ๆ ด้านการทำงานเป็นทีม การพูดคุย และการสร้างทักษะการแก้ปัญหา ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญในสังคมปัจจุบัน ผมประทับใจมากที่ได้ร่วมโครงการนี้ ที่นี้คือเวทีที่เปิดโอกาสให้ผมได้พูดในสิ่งที่ผมคิดและสิ่งที่ผมอยากทำ และเปิดโลกทัศน์ให้ผมได้มองเห็นอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยคิดมาก่อน”
ทั้งนี้ ตัวแทนเยาวชนจากประเทศไทยได้วิเคราะห์ข้อมูลผ่านซอฟต์แวร์ของ SAP และค้บพบสถิติที่น่าสนใจว่าอัตราการฆ่าตัวตายของเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาช่วงอายุ 13-17 ปี ในอาเซียน มีจำนวนเพิ่มขึ้น ในขณะที่ความขาดแคลนของบุคลากรทางสุขภาพจิต และงบประมาณคืออุปสรรคที่ทำให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข จึงเลือกนำเสนอประเด็นด้านสังคมนี้ในเวทีการแข่งขันพร้อมนำเสนอแนวทางการแก้ไขโดยนายอัมรินทร์กล่าวถึงความสำคัญของปัญหาทางสังคมที่ค้นพบว่า
สิ่งสำคัญคือการสร้างความตระหนักของคนในอาเซียนต่อสุขภาพจิตของนักเรียนมัธยมฯ ซึ่งหลายคนอาจมองข้าม และไม่ได้มีการตั้งนโยบายที่ชัดเจน แต่สุดท้ายแล้ว เราต้องไม่ลืมว่าเยาวชนก็คือผู้ใหญ่ในวันหน้า
ในขณะที่นักศึกษาทีมอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน ได้นำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาทางสังคม จากการใช้เทคโนโลยี Data Analytics ได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาชุมชนแออัดให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวที่ยั่งยืน การเสริมสร้างทักษะและความรู้ด้านผู้ประกอบการ รวมถึงการแก้ปัญหาเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้าทางทะเลในภูมิภาค
ในประเด็นนี้ นายธีระพงษ์ ศรีสุพรรณ หรือเจมส์ กล่าวว่า “ทักษะด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นทักษะที่สำคัญมาก เพราะเราจะสามารถหาข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์ เพื่อหาอินไซต์ที่แสดงถึงปัญหาออกมาได้ จากตรงนี้เราก็จะต้องคิดว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ถ้าบุคลากรของประเทศมีทักษะด้านนี้เพิ่มมากขึ้น ก็จะช่วยพัฒนากระบวนการคิดให้เป็นระบบมากขึ้นและมีการวางแผนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นำไปสู่การพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาที่มีในสังคมได้ดีและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น”
แม้ว่าในปีนี้โครงการของเยาวชนไทยจะไม่ได้คว้ารางวัลชนะเลิศ แต่สิ่งที่พวกเขาได้มีคุณค่ากว่านั้นมาก
“สิ่งที่ผมได้จากการเข้าร่วมโครงการนี้คือการก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวผมเองและหันมาเรียนรู้ทักษะดิจิตัลใหม่ๆ"
ผมมองว่าเยาวชนไทยทุกคนควรรู้จักแสดงความคิดเห็น ควรพูดเสียงของตัวเองออกมา โดยใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานรองรับ เราจำเป็นต้องรู้จักการค้นหาข้อมูล การคิดและการวางแผนอย่างเป็นระบบ ความรู้ด้าน Data Analytics มีความสำคัญกับอนาคตของเราอย่างมาก นี่คือทักษะที่เราจะมองข้ามไม่ได้เลย
นาง อีเลน ตัน ผู้อำนวยการบริหาร มูลนิธิอาเซียน กล่าวว่า "การศึกษาเป็นหนึ่งในรากฐานที่สำคัญของการบูรณาการอาเซียนและแผนงานการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ด้วยเหตุนี้โครงการริเริ่มต่างๆ เช่น ASEAN Data Science Explorers จะช่วยส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ข้ามพรมแดนระหว่างประเทศต่างๆ ในภูมิภาคได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างให้เยาวชนมีทักษะที่จำเป็นในอนาคต โดยเฉพาะด้านดิจิทัลที่ทวีความสำคัญมากขึ้นทุกวัน ทั้งนี้จากโครงการต่างๆ ที่ส่งเข้ามาร่วมประกวด เป็นที่น่ายินดีที่ได้เห็นความคิดสร้างสรรค์ ความทุ่มเทในการทำงานเป็นทีมเพื่อพัฒนานวัตกรรมอย่างเต็มที่ เพราะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเยาวชนในภูมิภาคนี้ที่ล้วนใส่ใจต่ออนาคตที่ดียิ่งขึ้นของสังคมที่พวกเขาอาศัยอยู่”
นางสาวเวเรน่า เซียว กรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคอินโดไชน่า บริษัท เอสเอพี ซิสเต็มส์ แอพพลิเคชั่นส์ แอนด์ โปรดักส์ อิน ดาต้า โปรเซสซิ่ง (ไทยแลนด์) จำกัด ในนามตัวแทนผู้ร่วมจัดการแข่งขัน ADSE กล่าวว่า "สำหรับเอสเอพี นวัตกรรมเป็นมากกว่าเครื่องมือสู่ความเติบโตทางธุรกิจ แต่คือสะพานสู่ความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นของสังคม โดยความร่วมมือของเรากับมูลนิธิอาเซียนในช่วงสองปีที่ผ่านมาได้ส่งผลดีอย่างมากต่อการส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อสังคม เรารู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเสริมทักษะดิจิทัลให้กับเยาวชนซึ่งคืออนาคตของประเทศไทย พร้อมมอบแพลตฟอร์มพื้นฐานที่จะช่วยสร้างประโยชน์ทางสังคมให้ชุมชนที่พวกเขามีส่วนร่วมดูแล เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อนรับเยาวชนหรือบุคคลที่สนใจเข้าร่วมโครงการในปีต่อๆ ปี เพื่อให้ดาต้า อนาลิติกส์เป็นหนึ่งในสะพานที่ทอดสู่อนาคตของประเทศไทยอย่างมั่นคง ทั้งในเชิงรายได้และเชิงคุณค่า
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด