“Tokenization Summit 2022” by Token X ครั้งแรกของเมืองไทยกับเวทีสัมนาเชิงลึกทุกแง่มุมเกี่ยวกับ Tokenization ที่ขนทัพกูรูแถวหน้าระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรชั้นนำจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ Deloitte Southeast Asia Blockchain Lab, Sygnum, Banking Circle, Baker McKenzie, Market Node, Origin Property, SC Asset, Independent Artist Management, SCB 10X, InnovestX, Token X และอีกมากมาย ร่วมแชร์ความรู้ ประสบการณ์เชิงลึก เจาะลึกมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลและ Tokenization พร้อมวิสัยทัศน์ต่อโลกการเงินในอนาคต 

ด้วยศักยภาพของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลทำให้ปัจจุบันวงการการเงินทั่วโลกต่างให้ความสนใจด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลและนวัตกรรมการเงินเพื่อสร้างโอกาสและปรับตัวพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง

Token X กับบทบาท Tokenization Success Partner

ในฐานะผู้ให้บริการอันดับหนึ่งด้านโทเคนดิจิทัลแบบครบวงจรที่ได้ร่วมสร้างความสำเร็จให้กับองค์กรชั้นนำของไทยมาอย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นที่จะให้ภาคธุรกิจ นักลงทุน ตลอดจนผู้ที่สนใจทั่วไปได้มีโอกาสเข้าร่วมรับฟัง แลกเปลี่ยนความรู้ เข้าถึงข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Tokenization และโลกการเงินในอนาคต จึงเกิดเป็นงานสัมนาสุดยิ่งใหญ่ภายใต้แนวคิด Opportunities and Beyond. ที่มุ่งหวังถึงการวางรากฐานระบบนิเวศด้านเศรษฐกิจดิจิทัลที่แข็งแกร่งในประเทศไทย พร้อมเพิ่มโอกาสและเสริมศักยภาพในการสร้างการเติบโตรูปแบบใหม่ให้กับภาคธุรกิจได้อย่างควบคู่กัน

ถ้าคิดถึง Token ให้คิดถึง Token X, Your Tokenization Success Partner

คุณจิตตินันท์ ชาติสีหราช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด (Token X) กล่าวว่า “Token X นับเป็นหนึ่งในบริษัทยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจที่จะมีส่วนช่วยผลักดันให้ “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” สามารถบรรลุพันธกิจได้ตามเป้าหมาย ผ่านการสร้างขีดความสามารถใหม่ทางด้าน Tokenization แบบครบวงจร เราเล็งเห็นถึงความสำคัญของสินทรัพย์ดิจิทัล และ Tokenization ที่จะก้าวมามีบทบาทสำคัญ และสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อโลกการเงิน ภาคธุรกิจ รวมถึงระบบเศรษฐกิจแห่งโลกในอนาคต”

“เราเชื่อว่าหากทุกคนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเพียงพอทุกคนจะเป็นพลังสำคัญในการผลักดันโลกการเงินในแบบที่ต้องการ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่างานสัมมนาในครั้งนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดประตูเชื่อมโลกปัจจุบันเข้าสู่อนาคตของโลกการเงิน เพื่อช่วยให้กลุ่มผู้ประกอบการ นักลงทุน ภาคธุรกิจ ตลอดจนผู้เข้าร่วมงานกว่า 400 คน สามารถนำความรู้ความเข้าใจไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาต่อยอดโอกาสทางธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆพร้อมช่วยให้สามารถเข้าถึงโอกาสการเติบโตที่ไร้ขีดจำกัดได้” คุณจิตตินันท์ กล่าวเสริม

The Outlook

ไฮไลท์แรกของงาน เริ่มต้นด้วยการฉายภาพรวมของสภาพเศรษฐกิจระดับโลก โดย คุณแอนดรูว์ กวย (Mr.Andrew Koay) ผู้อำนวยการ Deloitte Southeast Asia  Blockchain Lab ที่ได้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในปัจจุบัน ตลอดจนความซับซ้อนของตลาดเงินโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องสกุลเงินดิจิทัลและสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผันผวนสูงในช่วงเวลานี้ 

 คุณแอนดรูว์ กวย ยกมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับอุปสรรคด้านกฎระเบียบและการใช้งานอย่างปลอดภัย ระบุ “ถึงแม้ว่า ที่ผ่านมาคริปโตเคอเรนซีจะขึ้นมามีบทบาทในการเป็นสกุลเงินดิจิทัลหรือเป็น Store of Value ที่มีบทบาทในการเป็นสื่อกลางในการชำระเงินหรือแลกเปลี่ยนระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัล แต่คริปโตฯ ส่วนใหญ่ยังไม่ถูกรับรองตามกฎหมายที่รับรู้ทั่วไปในหลายประเทศการขาดคู่สัญญาทางกฎหมายที่สามารถยกข้อเรียกร้องดังกล่าวได้อย่างแท้จริง เกิดความเสี่ยงต่อทั้งผู้ขายและผู้ซื้ออยู่ นอกจากนี้ยังมีคำถามอีกมากมายถึงความกังวลเรื่องการตรวจสอบการทำธุรกรรมหรือการโอนย้ายด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ไม่ระบุตัวตน ทำให้มาตรการคุ้มครองผู้บริโภคแบบเดิมนั้นอาจไม่ครอบคลุมอีกต่อไป”  

Digital Asset คือ ความท้าทายใหม่ที่หน่วยงานกำกับดูแลในแต่ละประเทศให้ความสนใจ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมนวัตกรรมและการกำหนดนโยบายที่ปกป้องความมั่นคงทางการเงิน ตลอดจนการคุ้มครองลูกค้าและผู้บริโภค

คุณแอนดรูว์ เล่าให้ฟังว่า “ในระดับมหภาคตอนนี้ หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกมีบทบาทมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกมาตรการในการอนุญาตหรือควบคุมสถาบันการเงินและบริษัทผู้ให้บริการชำระเงินในทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล ตลอดจนกำหนดข้อจำกัดและให้คำแนะนำสำหรับนักลงทุนรายย่อย เพื่อกำหนดพื้นฐานทางกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัลที่สร้างมาตรฐานสำหรับระดับการลงทุนที่เชื่อถือได้” 

Tokenization Economy อนาคตของคอมมูนิตี้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล   

คุณแอนดรูว์ ชี้ให้เห็นโอกาสของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีศักยภาพต่อไปหลังจากนี้ว่า “Digital Currency” นั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบนิเวศของสินทรัพย์ดิจิทัลเท่านั้นเพราะในระบบนิเวศของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลยังมีสิ่งที่เรียกว่า “Digital Token” ประเภทอื่นๆ ที่มีพื้นฐานการทำงานบนเทคโนโลยีบล็อกเชนและยังมีคุณสมบัติในการเสริมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจดิจิทัลเช่นเดียวกัน

“Tokenization” จะเข้ามามีส่วนร่วมในการเสริมสร้างมูลค่าด้วยการกำหนดสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการดิจิทัลไปจนถึงการเข้าร่วมลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบต่างๆ ตามวัตถุประสงค์ทางเศรษฐกิจที่กำหนดร่วมกันระหว่างผู้ออกเหรียญและผู้ถือ ซึ่งปัจจุบันหลายธุรกิจเลือกที่จะออกโทเคนดิจิทัล เพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ต่างๆ คุณแอนดรูว์ ยกตัวอย่างถึงทรัพย์สินหรือไอเท็มหลายที่นำมา Tokenized เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลหลายอย่างในปัจจุบัน เช่น ที่ดิน อัญมณี เครื่องประดับ งานศิลปะ แม้กระทั่ง สินทรัพย์ไม่มีตัวตน (Intangible assets) การติดตามระบบพลังงาน คาร์บอนเครดิตไปจนถึงระบบประมวลผลของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI

3 เหตุผล ทำไมธุรกิจควรสนใจ Tokenization คุณแอนดรูว์ ให้ 3 เหตุผลหลักว่า "Tokenization จะสามารถช่วยธุรกิจได้จริงไม่ว่าจะในรูปแบบ Utility Token หรือ Investmnt Token ได้แก่ ยกระดับประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมด้วยเทคโนโลยี (Facilitate Efficient Transactions) เพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) และปลดล็อกมูลค่าทางเศรษฐกิจ (Unlock the Economic Value) เพิ่มทางเลือกสำหรับกิจกรรมการระดมทุนที่หลากหลายมากขึ้น"

Bank-Grade Tokenization : The Game Changer Why is "Now" The Time of Bank-grade Tokenization

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าสนใจและทำให้เห็นภาพของอนาคตแห่งโลกการเงินชัดเจนยิ่งขึ้น โดย คุณเจอรัลด์ กอ (Mr. Gerald Goh) ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานกรรมการ Sygnum ประจำประเทศสิงคโปร์ ที่ได้พาผู้เข้าร่วมรู้จักกับมุมมองจากแนวหน้าของเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตที่จะเข้ามาปฎิวัติวงการธนาคาร 

The World’s First Fully-Regulated Digital Asset FinTech Group

Sygnum บุกเบิกนวัตกรรมใหม่สำหรับบริการทางการเงินด้วยการประยุกต์เทคโนโลยีบล็อกเชน ยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการด้านการจัดการสินทรัพย์ โดยเฉพาะในกลุ่มสินทรัพย์ดิจิทัล ถือเป็นธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกๆ ของโลกที่ดำเนินการภายใต้การกำกับอย่างถูกต้อง ปัจจุบัน Sygnum ได้รับใบอนุญาตด้านกฎระเบียบที่จำเป็นในการดำเนินการหลักๆ ในสองประเทศ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ และสิงคโปร์ 

คุณเจอรัลด์ กอ เจาะลึกไปยังการดำเนินการของ Sygnum ซึ่งเดิมทีแนวคิดของคณะผู้ก่อตั้งนั้นมาจากการเห็นโอกาสของบล็อกเชนหรือเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ที่เอื้อให้สมาชิกในเครือข่ายสามารถทำธุรกรรมการเงิน การลงทุนระหว่างกันได้โดยตรง รวมถึงกระบวนการ Tokenization ที่สามารถแปลงมูลค่าสินทรัพย์ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล สร้างการมีส่วนร่วมและเข้าถึงตลาดทุนได้มากยิ่งขึ้น 

ปัจจุบันธนาคาร Sygnum รับบทบาทสำคัญในการเป็นโครงสร้างพื้นฐานของสินทรัพย์ดิจิทัลและตลาดการเงินสมัยใหม่ที่เชื่อมโยงระหว่าง Issuer และ Investor อำนวยความสะดวกธุรกิจและนักลงทุนในทุกแง่มุมของ Tokenization ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การสร้างระบบและบริหารจัดการสินทรัพย์ กระบวนการออกโทเคน การดูแลจัดเก็บโทเคน การเพิ่มหรือระดมทุนจากตลาดทุน ตลอดจนตลาดซื้อขาย การใช้งานจริงของลูกค้า 

คุณเจอรัลด์  ระบุว่า ภารกิจของ Sygnum คือ การส่งมอบคุณค่าสำหรับลูกค้าในแง่ของผลิตภัณฑ์และบริการในฐานะผู้ถือใบอนุญาตด้านกฎระเบียบและการดำเนินงานที่ถูกต้องตามกฎหมายและให้ความชัดเจน สร้าง Trust แก่ผู้เข้าร่วมในตลาด ทำให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของหรือมีส่วนร่วมกับสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและได้รับแนวทางการลงทุนที่ประสิทธิภาพสุด

คุณเจอรัลด์ อธิบายในทิศทางเดียวกันถึง Key Benefit of Tokenization ที่สำคัญสำหรับผู้ให้บริการทางการเงิน คือ การเข้าถึงตลาดทุน โดยเทคโนโลยีจะช่วยลดอุปสรรคและกฎเกณฑ์ในการลงทุน เปิดโอกาสสำหรับนักลงทุนให้มีส่วนร่วมในการถือครองสินทรัพย์ที่สะดวกมากขึ้น ระบบอัตโนมัติที่เพิ่มขึ้นควรช่วยให้ดำเนินการได้ง่ายขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการตรวจสอบและกำกับดูแลอย่างโปร่งใส สำหรับประโยชน์ต่อนักลงทุน คือ เทคโนโลยีจะช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอให้หลากหลาย ช่วยประเมินผลตอบแทนจากความเสี่ยงได้สะดวกกว่าเดิม 

นอกจากนี้ยังอีกหลายหัวข้อที่ได้รับความสนใจจำนวนมากที่ถูกพูดถึงภายในงาน ไม่ว่าจะเป็นการเจาะลึกขั้นตอนในการทำ Tokenization สำหรับภาคธุรกิจตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ ครบทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นด้านการระดมทุน พร้อมด้วย Insight เคล็ดลับในการทำ Tokenization ให้ได้ผลจากหลากหลายองค์กรชั้นนำตลอดจนวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของวงการการเงินดิจิทัลในระดับโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นสิ่งสำคัญมากในช่วงเวลาหลังจากนี้ 

Tokenization Summit 2022 by Token X ได้ฉายภาพให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของ Tokenization การเปลี่ยนแปลงใหม่ที่สามารถสร้างมูลค่าแก่วงการการเงินต่อทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องรวมถึงนักลงทุน ช่วยเพิ่มโอกาสสำหรับเอกชนในการทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม เพิ่มสภาพคล่องให้กับสินทรัพย์ด้วยการโอนถ่ายความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์ได้ง่ายขึ้นในรูปแบบของโทเคนดิจิทัล และที่สำคัญคือศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการทำธุรกรรม ถือเป็นนวัตกรรมที่มีความรับผิดชอบและอยู่ภายใต้หน่วยงานกำกับดูแลที่ถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับองค์กรเอกชนหรือผู้ที่สนใจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล และ Tokenization สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ https://tokenx.finance/