2022 - 2025 เป็นช่วงเวลา 4 ปีต่อเนื่องที่ คุณท๊อป - จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (Bitkub Capital Group Holdings Co., Ltd.) ได้เข้าร่วมการประชุมระดับโลกอย่าง World Economic Forum ณ เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยในปี 2025 นี้ คุณจิรายุสร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 5 หัวข้อ หนึ่งในนั้นคือ Assets: From Concrete to Ether หัวข้อที่กล่าวถึง การเปลี่ยนแปลงจากสินทรัพย์สู่สินทรัพย์ดิจิทัล
World Economic Forum 2025 เป็นการประชุมประจำปีที่รวมตัวผู้นำทั้งภาครัฐและภาคเอกชนชั้นนำของแต่ละประเทศจากทั่วโลก มาหารือแลกเปลี่ยนทิศทางเศรษฐกิจของโลก โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 มกราคม 2025 ภายใต้ธีม ‘Collaboration for the Intelligent Age’ หรือ การร่วมมือกันเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุค AI
สำหรับหัวข้อ Assets: From Concrete to Ether คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ผู้นำด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนในประเทศไทย ร่วมพูดคุยบนเวทีกับผู้นำด้านการเงินจากหลากหลายหน่วยงานทั่วโลก ได้แก่
โดยคุณจิรายุสเผยให้เห็นวิสัยทัศน์และแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ที่สินทรัพย์ในอนาคตจะถูกแปลงสภาพการใช้งานไปอยู่ในรูปของสินทรัพย์ดิจิทัลและโทเคนดิจิทัล (Digital Token) โดยมีประเด็นน่ารู้ ดังนี้
‘โทเคนอสังหาริมทรัพย์’ เป็นตัวอย่างหนึ่งในการแปลงสภาพสินทรัพย์ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ แม้ไม่ได้มีเงินลงทุนมาก โดยแทนที่จะต้องซื้อคอนโดหนึ่งห้องในราคา 10 ล้านบาท แต่หากซื้อด้วยโทเคนดิจิทัล เราสามารถแบ่งสินทรัพย์นั้นออกเป็นหน่วยที่เล็กลงได้ อย่างการทำให้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 10 บาทต่อหน่วย
ไม่ใช่แค่สินทรัพย์อย่างอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น โทเคนยังสามารถทำได้กับโทเคนคาร์บอนเครดิต โทเคนค่าไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า ‘Green Token’ และภายใน 2-3 ปี เชื่อว่าจะได้เห็นสินทรัพย์ที่ถูกทำเป็นโทเคนมากขึ้น
ความท้าทายสำคัญของการแปลงสภาพสินทรัพย์ คือ การสร้างมาตรฐานและกฎระเบียบร่วมกัน เช่น หน่วยงานกำกับดูแลในระดับภูมิภาคและระดับโลก ที่ต้องวางมาตรฐานเพื่อป้องกันการแสวงหาประโยชน์จากช่องว่างทางกฎหมายและทำให้สภาพคล่องสามารถไหลเวียนได้อย่างอิสระและปลอดภัย รวมถึงการทำให้การใช้งานเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่คนทั่วไปสามารถเข้าใจได้ง่ายและสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น
“เช่น การยกเลิกคำศัพท์เฉพาะที่เข้าใจยาก อย่าง Cryptographic hash function หรือ Private key และทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันโดยที่คนไม่ต้องรู้สึกว่ากำลังใช้งานอยู่ ซึ่งคิดว่าจะช่วยสร้างประโยชน์ได้อีกมาก” คุณจิรายุสอธิบาย และปิดท้ายว่า
สรุปแล้วในปี 2025 เราน่าจะได้เห็นการทำโทเคนอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงโทเคนคาร์บอนเครดิตแพร่หลายในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในสิงคโปร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่จะเป็นผู้นำในด้านนี้ และสำหรับบิทคับ กรุ๊ป ก็มีโปรเจกต์ที่ร่วมกันทำกับพาร์ทเนอร์ในไทยอยู่เช่นกัน
และนอกเหนือจากหัวข้อดังกล่าว คุณจิรายุสยังมีโอกาสได้นำเสนอวิสัยทัศน์ร่วมกับผู้นำจากทั่วโลกอีก 4 เวที ได้แก่
บทความนี้เป็น Advertorial
#Bitkub #WEF2025 #DigitalAsset #DigitalToken
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด