ณ เวทีเสวนา Chief Economists Briefing ภายในงาน World Economic Forum Summer 2025 บรรยากาศเต็มไปด้วยการวิเคราะห์ที่เข้มข้น เมื่อผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ 4 ท่าน ได้แก่
ที่ได้มาร่วมฉายภาพอนาคตเศรษฐกิจโลกที่ดูเหมือนจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่ภาพนั้นคืออะไร ?
ประเด็นที่ทุกคนเห็นตรงกันคือ โลกได้ก้าวเข้าสู่ยุคที่ ความไม่แน่นอนคือความปกติใหม่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว Paul Gruenwald จาก S&P Global ระบุว่าความตึงเครียดทางการค้า และภูมิรัฐศาสตร์ไม่ใช่เรื่องที่จะจบลงในเร็ววัน แต่เป็นปัจจัยกดดันที่ทำให้บริษัทชะลอการลงทุนและผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย การคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจแบบแม่นยำทำได้ยากขึ้นมาก และกรอบการพยากรณ์ก็กว้างกว่าในอดีตอย่างเห็นได้ชัด
Huang Yiping ได้ให้มุมมองเจาะจงมาที่เศรษฐกิจจีน โดยชี้ว่าแม้ภาพรวมจะยังมีความยืดหยุ่นและคาดการณ์ว่า GDP ไตรมาส 2 จะยังเติบโตได้เกิน 5% แต่ก็กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนทั้งจากภายในและภายนอก
โดยเฉพาะปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงต้องปรับตัว นอกจากนี้ยังมีสัญญาณเตือนที่น่ากังวล เช่น ดัชนี PMI ที่ต่ำกว่า 50 สองเดือนติดต่อกัน, อัตราเงินเฟ้อ (CPI) ที่ติดลบเล็กน้อย รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนและอัตราการว่างงานที่ยังคงอ่อนแอ
ดร. สันติธาร เสถียรไทย ที่ปรึกษาจาก TDRI ของไทย ได้ให้มุมมองว่า โลกกำลังเปลี่ยนผ่านจากเศรษฐกิจแบบ "Just-in-Time" ที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุดและลดต้นทุนให้ต่ำที่สุด ไปสู่เศรษฐกิจแบบ "Just-in-Case" ที่ให้ความสำคัญกับความมั่นคง, ทางเลือกสำรอง และความยืดหยุ่น
เรากำลังเปลี่ยนจากโลกที่ทุกอย่างตั้งอยู่บนฐานของประสิทธิภาพ ไปสู่โลกที่ให้คุณค่ากับ Optionality (การมีทางเลือก) และ Security (ความมั่นคง)
ดร. สันติธาร ยังเตือนให้จับตาผลกระทบระลอกสองจากสงครามการค้า ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องภาษี แต่จะนำไปสู่ภาวะสินค้าล้นตลาจะถูกส่งต่อไปยังตลาดใหม่ๆ ทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง และบีบมาร์จิ้นของธุรกิจ SME ในหลายประเทศ
แม้หลายคนจะกังวลว่ายุคโลกาภิวัตน์สิ้นสุดลงแล้ว แต่ Paul Gruenwald ยืนยันว่า Globalization ยังไม่ตาย เพียงแต่รูปแบบของมันกำลังเปลี่ยนไป
Aparna Bharadwaj จาก BCG เสริมว่า เรากำลังเข้าสู่โลกการค้าหลายขั้ว (Multipolar Trade World) ที่ประกอบด้วยข้อตกลงทวิภาคี และภูมิภาคที่ทับซ้อนกันไปมา เธอกล่าวว่าอาจถึงยุคที่ธุรกิจต้องเผชิญกับกฎระเบียบ และข้อบังคับที่ซับซ้อนเพื่อที่จะทำการค้าข้ามพรมแดน
ที่น่าสนใจคือ ดร. สันติธาร ชี้ว่า สำหรับบางพื้นที่อย่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พวกเขากลับกำลังเผชิญกับ Globalization ที่เข้มข้นขึ้น จากการย้ายฐานการลงทุน, เงินทุน, และบุคลากรเข้ามาในภูมิภาค หรือที่รู้จักกันในธีม China+1 และ China+2
แนวคิด China+1, China+2 คือกลยุทธ์ที่บริษัทข้ามชาติกระจายความเสี่ยงออกจากจีน โดยเพิ่มฐานการผลิตหรือการลงทุนในประเทศอื่นเพิ่มเติม หนึ่งหรือสองแห่ง (+1, +2) เพื่อสร้างความมั่นคงให้ห่วงโซ่อุปทานของตนเอง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของกลยุทธ์นี้
ซึ่ง ดร. สันติธาร ชี้ให้เห็นภาพผ่านการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมหลายด้าน ได้แก่
Aparna Bharadwaj จาก BCG ชี้ว่า Economic Statecraft หรือการที่รัฐบาลเข้ามาแทรกแซง และใช้นโยบายเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์กำลังเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการตั้งกำแพงภาษี แต่เป็นเครื่องมือที่หลากหลายและซับซ้อนกว่านั้นมาก
เธอมองว่าในสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่ยากขึ้น ธุรกิจต่างๆ เองก็กำลังเรียกร้องให้รัฐบาลทำมากขึ้นเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ Economic Statecraft ที่เธอกล่าวถึงนั้นมีหลากหลายมิติ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องภาษี แต่ครอบคลุมไปถึง
Huang Yiping ได้ตอกย้ำถึงความสำคัญของนโยบายการคลังเชิงรุกในระยะสั้นเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ โดยยกตัวอย่างประเทศจีนที่ใช้นโยบายการคลังที่ Agressive มากขึ้นในช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจพลิกฟื้นได้อย่างชัดเจน เขามองว่าในภาวะเช่นนี้ ยังมีช่องว่างสำหรับการขยายตัวทางการคลังเพื่อประคองเศรษฐกิจได้
ในขณะเดียวกัน ดร. สันติธาร เสถียรไทย ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า บทบาทของนโยบายการคลังก็ต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน
เขาอธิบายว่า ในยุคที่การพยากรณ์เศรษฐกิจระยะสั้นทำได้ยากและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นอาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร แต่สิ่งที่ทำได้ดีกว่าคือการมุ่งเน้นใช้งบประมาณเพื่อลงทุนในเทรนด์ระยะยาวที่เรารู้อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ดังนั้น นโยบายการคลังในยุคใหม่จะไม่ได้ถูกตัดสินที่ปริมาณของเงินที่อัดฉีดเข้าระบบ แต่จะถูกตัดสินที่คุณภาพ และวิสัยทัศน์ในการใช้จ่าย โดยมีเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมของประเทศสำหรับอนาคต เช่น
ดร. สันติธาร สรุปว่า นี่คือเลนส์ใหม่ที่นโยบายภาครัฐจะถูกนำมาพิจารณา และตัดสินในโลกยุคต่อไป
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด