บล็อกเชน (Blockchain) หรือที่ทุกคนรู้จักว่าเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลรูปแบบหนึ่ง ซึ่งถูกใช้ในการบันทึกข้อมูลการทำธุรกรรมซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลมานานหลายปีแล้ว และเทคโนโลยีบล็อกเชนก็มีอยู่หลายรูปแบบ โดยในแต่ละรูปแบบถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทผู้พัฒนาที่ต้องการเน้นประสิทธิภาพการทำงาน และเหมาะสมกับประเภททรัพย์สินดิจิทัลที่แตกต่างกัน โดยหนึ่งในบล็อกเชนที่กำลังถูกกล่าวขวัญและนำไปใช้ในธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างกว้างขวางด้วยประสิทธิภาพการทำงาน และความปลอดภัยขั้นสูง นั่นก็คือ เทโซส (Tezos)

ซึ่งในตลาดการระดมทุนในรูปแบบของโทเคนดิจิทัลที่เป็นที่น่าจับตามองที่สุดในขณะนี้ ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือ “โทเคนดิจิทัล สิริ ฮับ” (SiriHub Token) ซึ่งปัจจุบันมี บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด เป็นผู้เสนอขาย โดยทางเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ได้เลือกใช้ระบบบล็อกเชนเทโซสมาใช้ในกระบวนการออกเสนอขาย “โทเคนดิจิทัล สิริ ฮับ” (SiriHub Token) โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่มีอสังหาริมทรัพย์อ้างอิงรายแรกของไทยต่อประชาชนครั้งแรก (Real Estate-backed ICO) ซึ่งออกโดยบริษัท  เอสพีวี 77 จำกัด ด้วยมูลค่าการระดมทุนกว่า 2,400 ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนให้ได้มาซึ่งกลุ่มอาคารสำนักงาน สิริ แคมปัส และนำรายได้จากค่าเช่ามาแปลงเป็นโทเคนดิจิทัลให้เลือกลงทุน 2 กลุ่ม มีอายุโครงการ 4 ปี โดยดำเนินการบนเทคโนโลยีบล็อกเชนที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และปลอดภัยสูง และเลือกใช้วิธีจัดสรรโทเคนดิจิทัลตามลำดับการชำระเงินสำเร็จ (First Come First Serve) จนกว่าโทเคนจะหมด

นายอัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือหัวเรือใหญ่ของ บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด เผยว่า โทเคนดิจิทัล สิริ ฮับ คือ โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่มีอสังหาริมทรัพย์อ้างอิงรายแรกของประเทศไทย ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. โดยมี เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล (XSpring Digital) เป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ตัวนี้ เราจึงอยากให้ความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลและการดำเนินธุรกรรมทางการเงินกับผู้สนใจลงทุนกับโทเคนดิจิทัล สิริ ฮับนี้ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ดีที่สุด และปลอดภัยขั้นสูงในปัจจุบัน ซึ่งเราได้เลือกใช้ เทโซส (Tezos) เทคโนโลยีบล็อกเชนรูปแบบใหม่ ที่มาพร้อม features ในการทำสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) รองรับตามมาตรฐาน NBIT ซึ่งเราเห็นว่ามีความเหมาะสมที่สุดสำหรับการนำทรัพย์สินที่มีมูลค่ามาแปลงเป็นหน่วยการลงทุนย่อย ๆ เพื่อเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปให้สามารถเข้ามาร่วมลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนในรูปแบบต่าง ๆ ด้วยจุดแข็งมากมายของเทโซส ทำให้เราและผู้สนใจลงทุนจะสามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของข้อมูลผู้ลงทุน ข้อมูลการดำเนินการธุรกรรมที่มีความเสถียร โปร่งใส และแม่นยำ ด้วยวิธีการตรวจสอบธุรกรรมแบบ “Proof of Stake” ที่ช่วยป้องกันปัญหาการผูกขาดในการสร้างบล็อกข้อมูลใหม่ในเครือข่ายบล็อกเชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ  โดยมาตรฐานของบล็อกเชนเทโซสเป็นที่ยอมรับในหลากหลายองค์กรทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น McLaren Racing, Red Bull Racing เป็นต้น แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานที่ได้รับความเชื่อถือระดับสากล”

โดยขณะนี้ โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน สิริ ฮับ  (SiriHub Token) กำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการขออนุญาตเพื่อเสนอขายต่อประชาชนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยมี บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด (XSpring Digital) เป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) นายอัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ กล่าว

วันนี้ เราจึงพาทุกคนมาทำความรู้จักเทโซสกันให้มากขึ้นอีกนิด ว่าบล็อกเชนนี้ มีจุดเด่นและกลไลการทำงานอย่างไร เพื่อความอุ่นใจในการทำธรกรรม และข้อมูลทุกอย่างผ่านเทคโนโลยีนี้กัน 

• Tezos เป็นแพลตฟอร์มโอเพนซอร์สซึ่งเป็นบล็อกเชนที่ทันสมัยที่สุดถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการระดมทุนในรูปแบบของโทเคนดิจิทัลที่มีสินทรัพย์อ้างอิงโดยเฉพาะ เนื่องจากสามาถทำสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) และ DApps (Decentralized Application) ซึ่ง DApps ก็คือแอพพลิเคชั่นที่ไม่มีตัวกลาง สร้างอยู่บนเครือข่ายบล็อกเชน ทำให้แอพพลิเคชั่นเหล่านี้ไม่ถูกควบคุมหรือถูกยกเลิกได้โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ Tezos ยังมีความสามารถที่จะทำให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องได้ด้วยระบบการกำกับดูแลแบบ Onchain Governance ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อการทำให้สินทรัพย์ไปอยู่ในรูปของโทเคนดิจิทัลในอนาคต ได้อย่างโปร่งใส ปลอดภัย ตรวจสอบได้ ทั้งนี้ Blockchain ของเทโซสยังสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง โดยการตัดสินใจอำนาจต่างๆ จะขึ้นอยู่กับผู้ถือเหรียญ ทำให้การตัดสินใจทิศทางต้องทำผ่านการยื่นเสนอและการโหวตล้วนๆ ซึ่งแปลว่าจะไม่มีการ Hard Fork หรือการที่บล็อกเชนหนึ่งมีการแยกตัวออกมาเป็นอีกบล็อกเชนหนึ่งอย่างถาวรโดยมีกฏต่างๆ ที่ต่างไปจากเดิม โดยผู้เข้าร่วมจะต้องอัพเกรดซอฟต์แวร์ถ้ายังต้องการเข้าร่วมและตรวจสอบการทำธุรกรรมเกิดขึ้น
• ระบบของเทโซสได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีความปลอดภัยและความถูกต้องของรหัสที่จำเป็นสำหรับสินทรัพย์และการใช้งานกับโปรเจกต์ที่มีมูลค่าสูงอื่นๆ ด้วยการใช้ภาษา Michelson ซึ่งเป็นภาษาสัญญาอัจฉริยะที่ช่วยในการตรวจสอบความถูกต้องของรหัสใช้สำหรับภารกิจสำคัญๆ เช่น อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ, นิวเคลียร์ และเซมิคอนดักเตอร์
• ฟังก์ชั่นเพิ่มเติมที่สำคัญสำหรับการออกเสนอขายโทเคนดิจิทัลบนเอ็กซ์สปริง ที่จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ออกโทเคนและนักลงทุน ด้วยฟังก์ชั่นต่าง ๆ ดังนี้
  • Whitelists: บัญชีรายชื่อผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติให้ลงทุนในโทเคนดิจิทัล ด้วยกลไกการตรวจสอบคุณสมบัติการป้องกันการฟอกเงิน (AML) และการทำความรู้จักลูกค้า (KYC) เพื่อตรวจสอบการทำธุรกรรมซึ่งนักลงทุนทุกคนต้องผ่านกระบวนดังกล่าว     
  • Clawback: การเรียกคืน โดยระบบของเทโซสสามารถจัดการและคืนสิทธิในการเข้าถึงกระเป๋าเงินให้นักลงทุนได้ วิธีนี้จะช่วยลดปัญหาเรื่องการทำโทเคนดิจิทัลหาย
  • Buybacks and Token Burns: การซื้อคืนและการเผาเหรียญทิ้ง โดยสามารถกำหนดข้อตกลงเกี่ยวกับการซื้อคืนและการเผาเหรียญทิ้ง เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุนในการได้รับเงินคืน รวมทั้งเพิ่มมูลค่าของโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนในส่วนที่เหลืออยู่
  • Capitalization Table หรือ cap table: การจัดการทะเบียนผู้ถือโทเคนและจำนวนโทเคนที่เป็นเจ้าของเอ็กซ์สปริงค์ ดิจิทัล ทำหน้าที่เก็บรักษาข้อมูลการจัดสรรโทเคนดิจิทัลแบบเรียลไทม์ และจะมีการเผยแพร่ cap table บนระบบบล็อกเชนของเทโซส แบบรายวันเพื่อให้นักลงทุนทราบความเคลื่อนไหว โดยไม่เปิดเผยชื่อหรือข้อมูลของผู้ถือโทเคนดิจิทัลเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว
  • รองรับ Smart Contact: การทำสัญญาอัจฉริยะ เปรียบเสมือนการทำสัญญาซื้อขาย หรือเอกสารของทางการโดยบล็อกเชนสามารถใช้ในการบันทึกข้อตกลงของสัญญาที่สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมีคนกลาง ทุกอย่างใช้คอมพิวเตอร์และโปรแกรมในการจัดการ ทำให้ไม่สามารถโกงได้อีกด้วย เพราะทุกคนในบล็อกเชนจะเป็นพยานว่าสัญญานี้เกิดขึ้นและบรรลุจริงๆ สำหรับการทำสัญญาอัจฉริยะเพื่อการเสนอขายโทเคนดิจิทัลก็เช่นเดียวกัน สัญญาอัจฉริยะนี้จะเป็นตัวกำหนดกลไกหรือข้อบังคับที่ออกโดยผู้เสนอขายโทเคน โดยผู้ถือโทเคนทุกคนยอมรับในข้อกำหนดนั้น ซึ่งรายละเอียดของข้อกำหนดจะถูกระบุอยู่ใน Whitepaper หรือหนังสือชี้ชวน ดังนั้นการมีสัญญาอัจฉริยะจึงถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าการลงทุนในโทเคนดิจิทัลมีความถูกต้องและปลอดภัย