
วิดีโอที่คุณเห็นอยู่นี้ ไม่ใช่ Sam Altman ตัวจริง... แต่มันคือ Deepfake ที่สร้างจาก AI โดยใช้ภาพถ่ายเพียงภาพเดียว

แม๊กซ์ - ภัคพล ตั้งตงฉิน, Country Manager ของ Tools for Humanity บริษัทผู้สร้าง World เริ่มต้นเซสชันบนเวที Techsauce Global Summit 2025 ด้วยการเปิดคลิป Sam Altman พูดภาษาไทย ซึ่งเป็นภาษาที่เจ้าตัวไม่น่าจะคุ้นเคย เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงปัญหาที่ใกล้ตัวกว่าที่เราคิด
ในโลกออนไลน์ที่ทุกอย่างปลอมแปลงได้ง่าย คำถามที่ว่า ‘คุณเป็นมนุษย์จริงหรือเปล่า ?’ กำลังจะกลายเป็นคำถามที่สำคัญที่สุดในยุคของเรา
คุณภัคพล อธิบายให้เห็นภาพว่า อินเทอร์เน็ตในวันนี้ไม่เหมือนวันเดิมอีกต่อไป ข้อมูลล่าสุดในปี 2024 บ่งบอกว่าทราฟฟิกการใช้งานจาก AI และบอทได้พุ่งสูงแซงหน้าทราฟฟิกจากมนุษย์ไปแล้ว
ปัญหานี้ได้นำไปสู่ความท้าทายสำคัญ เช่น ในเว็บบอร์ดที่ผู้ใช้งานทั่วไปไม่มีทางรู้ได้เลยว่ากำลังคุยกับมนุษย์จริงหรือไม่ การใช้บอทเพื่อสแปมข้อความ และการสร้างบัญชีผู้ใช้หลายบัญชีเพื่อปั่นข้อมูล
หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่า แล้วเครื่องมือที่เราคุ้นเคยอย่าง CAPTCHA ก็สามารถป้องกันบอทและ AI ได้ไม่ใช่เหรอ ?
คุณภัคพล บอกว่ามันกำลังจะใช้ไม่ได้ผล ในเมื่อวันนี้ AI สามารถแก้โจทย์ที่ซับซ้นได้ในไม่กี่วินาที เราก็ต้องทำ CAPTCHA ให้ยากมากขึ้นตามไปเรื่อย ๆ และในไม่ช้าก็จะถึงจุดที่ AI แก้โจทย์พวกนี้ได้ แต่มนุษย์กลับแก้ไม่ได้
นี่คือจุดที่ World พยายามเข้ามาแก้ปัญหาในการแยกมนุษย์ออกจาก AI โดยใช้แนวคิดที่เรียกว่า Proof of Human ซึ่งหมายถึงการพิสูจน์ความเป็นมนุษย์

World คือโปรเจ็กต์ที่ก่อตั้งโดย Alex Blania และ Sam Altman จาก OpenAI โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเครือข่ายสำหรับมนุษย์ที่พิสูจน์ตัวตนได้จริงและไม่ซ้ำใคร เพื่อแก้ปัญหาความน่าเชื่อถือบนโลกออนไลน์
หัวใจของระบบนี้คือ World ID ซึ่งเปรียบเสมือนพาสปอรต์ดิจิทัล ที่เป็นสิ่งยืนยันว่าคุณเป็นมนุษย์ที่ไม่ซ้ำใคร การจะได้มาซึ่ง World ID ต้องไปยืนยันตัวตนกับอุปกรณ์ทรงกลมที่เรียกว่า Orb ซึ่งปัจจุบันมีการติดตั้งในประเทศไทยแล้วกว่า 150 แห่ง กระจายตัวในอีก 30 จังหวัด

การจะสร้างเครือข่ายเพื่อยืนยันความเป็นมนุษย์ และใช้เครือข่ายนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จำเป็นต้องมี Ecosystem ที่เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งและครบวงจร โดยพาร์ทเนอร์ที่น่าสนใจของ World ในไทยจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่
1.พันธมิตรด้านการกระจาย Orb
เพื่อให้คนไทยเข้าถึงการยืนยันตัวตนได้ง่ายขึ้น World ได้จับมือกับร้านค้าปลีกไอที และองค์กรชั้นนำอย่าง COM7, JIB, IMPACT และ National Telecom (NT) ในการติดตั้ง Orb ตามสาขาต่างๆ
2.พันธมิตรด้านการใช้งาน World ID
โดยเป็นการนำ World ID เพื่อไปแก้ปัญหาจริงจังให้กับแพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยในไทย เช่น Pantip, Eventpop, Gogolook (Whoscall) และ Sentry
3.พันธมิตรด้าน World Chain
เพื่อให้บล็อกเชนของ World หรือที่เรียกว่า World Chain เป็นที่ตอบโจทย์ตลาดในประเทศ จึงได้ร่วมมือกับ Exchange ยักษ์ใหญ่อย่าง Bitkub, Binance TH, Bitazza, maxbit และ KUCOIN
คุณภัคพล ได้เปิดเผยข้อมูลให้ทราบถึงแนวทางการใช้ World ในแพลตฟอร์มต่างๆ เอาไว้อย่างน่าสนใจดังนี้
ปัญหาที่เจอ > ตอนนี้ผู้ใช้ไม่สามารถรู้ได้ว่ากำลังคุยกับมนุษย์จริงหรือไม่ รวมถึงมีการใช้บอท และการสร้างหลายบัญชีเพื่อสแปมข้อความ
Use Case ของ World > จะมีการใช้ World ID เพื่อแสดงป้ายสัญลักษณ์ความเป็นมนุษย์ (Human Badge) รวมถึงมีการเปิดพื้นที่สำหรับคอมมูนิตี้ที่ยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น เพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือ และลดการคุกคามบนแพลตฟอร์ม
ปัญหาที่เจอ > สแกมเมอร์มักใช้เบอร์โทรศัพท์ปลอม และเปลี่ยนซิมการ์ดบ่อยครั้ง ทำให้ระบบตรวจจับได้ยาก
Use Case ของ World > ระบบจะทำการแสดงป้ายยืนยันผู้โทรที่เป็นมนุษย์ ช่วยให้สามารถบล็อกผู้กระทำผิดซ้ำซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่ามิจฉาชีพจะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ไปแล้วก็ตาม
ปัญหาที่เจอ > การใช้บอทอัตโนมัติดเข้ามากว้านซื้อตั๋วในช่วงเวลาที่มีความต้องการสูง ทำให้แฟนตัวจริงพลาดโอกาส และต้องไปซื้อตั๋วในราคาที่สูงขึ้น
Use Case ของ World > จะมีการใช้ World ID เพื่อให้สิทธิ์ผู้ใช้งานที่เป็นมนุษย์จริง เช่น การเข้าถึงสิทธิ์ซื้อตั๋วก่อนใคร, มอบส่วนลดพิเศษ ไปจนถึงการจัดอีเวนจ์สำหรับผู้ที่ยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น เพื่อสร้างความเท่าเทียม และคืนความเชื่อมั่นให้กับระบบ

บนเวทีได้มีการประกาศเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับประเทศไทยในปี 2025 ซึ่งประกอบด้วย 3 เป้าหมายหลัก ได้แก่
อ้างอิง : ข้อมูลจากเซสชั่น World : Proof of Human in the Age of AI จากงาน Techsauce Global Summit 2025
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด