รู้จัก Arm Holdings ผู้อยู่เบื้องหลัง Nokia, Qualcomm ไปจนถึง Apple

เวลาพูดถึงบริษัทเทคโนโลยี คนส่วนใหญ่มักนึกถึง Apple, Google, หรือไม่ก็ Intel แต่ถ้าจะบอกว่ามีอีกบริษัทหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังแทบทุกเครื่องมือที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่สมาร์ทโฟน ทีวี รถยนต์ ไปจนถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์ นั้นคือ Arm Holdings แม้ชื่อจะเป็นชื่อที่ไม่คุ้นหู แต่เราแทบทุกคนบนโลกกำลังใช้เทคโนโลยีของบริษัทนี้อยู่โดยไม่รู้ตัว

ในบทความนี้ Techsauce จึงอยากพาทุกคนไปรู้จักกับ Big Tech ที่เรามองไม่เห็น แต่เขากำลังขับเคลื่อนโลกทั้งใบ

Arm Holdings จุดเริ่มต้นในโรงเลี้ยงไก่งวง

เรื่องของ ARM Holdings ย้อนกลับไปถึงปี 1978 เมื่อ Acorn Computers ก่อตั้งขึ้นที่สหราชอาณาจักร และได้สิทธิ์สร้างคอมพิวเตอร์ BBC Micro เพื่อนำเข้าห้องเรียนทั่วประเทศ เนื่องจากอังกฤษในยุคนั้นอยากผลักดันให้เด็กๆ ใช้คอมพิวเตอร์กันจริงจัง

2 นักออกแบบอย่าง Sophie Wilson และ Steve Furber จึงสร้างชิปที่ชื่อ ARM1 ขึ้นมา จุดเด่นคือเล็ก เรียบง่าย และประหยัดพลังงาน ซึ่งต่อมากลายเป็น DNA ของ ARM Holdings

เวลาล่วงเลยไปจนปี 1990 Arm Holdings ถือกำเนิดอย่างเป็นทางการ จากการร่วมทุนของ Acorn, Apple และ VLSI บริษัทเล็ก ๆ แค่ 12 คนทำงานอยู่ในโรงเลี้ยงไก่งวง แต่มีความฝันที่จะสร้างภาษากลางให้โลกคอมพิวเตอร์

ช่วงแรก Arm ยังพยายามทำชิปเอง เช่นที่ถูกใช้ใน Apple Newton อุปกรณ์ PDA รุ่นบุกเบิก แต่สุดท้ายผลิตภัณฑ์ก็ล้มเหลว ไม่สามารถทำตลาดได้ นี่ทำให้ Sir Robin Saxby ซีอีโอคนแรกของ ARM Holdings มองเห็นความจริงว่า บริษัทจะอยู่รอดไม่ได้ถ้ายึดติดกับผลิตภัณฑ์เดียว เขาจึงคิดโมเดลธุรกิจใหม่ คือ ARM Holdings จะไม่ผลิตชิปเอง แต่ขายสิทธิ์การออกแบบ (IP licensing)

บริษัทอื่นสามารถนำแบบไปผลิตชิปเองได้ ARM Holdings เก็บค่าลิขสิทธิ์ตั้งแต่ต้น และยังได้ส่วนแบ่งทุกครั้งที่มีชิปขายออกไป โมเดลนี้เปลี่ยน ARM Holdings ให้กลายเป็นผู้เล่นเบื้องหลัง ที่ไม่ต้องแข่งกับใครโดยตรง แต่กลับเป็น มาตรฐานกลางที่ทุกคนต้องใช้

เมื่อมือถือครองโลก และ ARM Holdings อยู่ในทุกกระเป๋า

ในปี 1993 บริษัท ARM Holdings ทำดีลกับ Texas Instruments และโน้มน้าวให้ Nokia ใช้เทคโนโลยีของพวกเขาในมือถือ GSM รุ่นใหม่ ผลลัพธ์คือ Nokia 6110 ที่ขายถล่มทลาย กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชิปของ ARM Holdings เข้าไปอยู่ในมือถือเกือบทุกเครื่อง

จากนั้นคือยุค iPod, iPhone และ iPad ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ARM จนถึงวันนี้กว่า 99% ของสมาร์ทโฟนทั่วโลก ใช้สถาปัตยกรรมของ ARM Holdings ทั้งหมด

เพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้น ARM Holdings เปิดตัวตระกูล Cortex และ GPU Mali พร้อมนวัตกรรม big.LITTLE ที่ผสมผสานแกนแรงกับแกนประหยัดพลังงานเข้าด้วยกัน สูตรนี้ยังเป็นพื้นฐานของสมาร์ทโฟนเกือบทุกเครื่องในปัจจุบัน

ด้วยความสำเร็จทั่วโลก ทำให้ Arm เข้าสู่ตลาดหุ้นทั้งลอนดอนและ NASDAQ ในปี 1998 และเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปี 2016 ด้าน Masayoshi Son แห่ง SoftBank ตัดสินใจทุ่มเงินกว่า 2.43 หมื่นล้านปอนด์ ซื้อ ARM Holdings เข้ากระเป๋า

เพราะเขาเห็นว่าโลกกำลังเข้าสู่ยุคของ Internet of Things (IoT) ที่ทุกสิ่งจะเชื่อมต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ เมือง ไปจนถึงอุปกรณ์เล็กที่สุดในชีวิตประจำวัน การซื้อครั้งนี้ทำให้ ARM Holdings มีเงินทุนมหาศาลสำหรับลงทุนในตลาดใหม่ เช่น ยานยนต์ โครงสร้างพื้นฐาน และอุปกรณ์ IoT ที่กำลังเติบโต

แต่เส้นทางของ ARM Holdings ไม่หยุดอยู่แค่มือถือ ช่วงปลายทศวรรษ 2010 บริษัทเดินหน้าสู่โลก Cloud และ AI

  • ปี 2018 เปิดตัว Neoverse กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และซูเปอร์คอมพิวเตอร์
  • ปี 2019 ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Fugaku ของญี่ปุ่น ครองตำแหน่งเร็วที่สุดในโลก ใช้ชิป ARM Holdings
  • ปี 2020 Apple Silicon M1 เปิดตัว Mac รุ่นใหม่ที่เลิกใช้ Intel และหันมาใช้ ARM Holdings เต็มตัว นับเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทั้งวงการตั้งคำถามกับอนาคตของ Intel
  • ปี 2023 Nvidia Grace Hopper Superchip รวม GPU ของ Nvidia กับ CPU Neoverse ของ ARM Holdings กลายเป็นขุมพลังสำหรับงาน AI 

กันยายน 2023 ARM Holdings กลับเข้าสู่ตลาดหุ้นอีกครั้ง ด้วยมูลค่า IPO กว่า 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นหนึ่งใน IPO ที่ใหญ่ที่สุดของปี แม้โลกเทคโนโลยีจะเต็มไปด้วยการแข่งขันและความท้าทาย แต่การกลับมาครั้งนี้ย้ำชัดว่า ARM Holdings ไม่ใช่แค่ผู้เล่นข้างสนาม แต่คือหัวใจของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์สมัยใหม่

ทุกวันนี้มีชิปที่ใช้เทคโนโลยีของ ARM Holdings ถูกส่งออกไปแล้วกว่า 300 พันล้านชิ้น ตั้งแต่มือถือในมือคุณไปจนถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่คำนวณโมเดล AI ขนาดมหึมา

จากทีมเล็ก ๆ ในโรงเลี้ยงไก่งวงเมื่อกว่า 30 ปีก่อน ARM Holdings ได้กลายมาเป็นบริษัทที่แตะชีวิต คนทั้งโลก 100% โดยแทบไม่มีใครรู้ตัว

ARM Holdings ไม่ได้ขายแค่ชิป แต่ขายภาษากลาง ที่ทำให้อุปกรณ์อัจฉริยะทุกชนิดพูดภาษาเดียวกัน และไม่ว่าคุณจะมองไปที่อนาคตในทางไหน AI, รถไร้คนขับ, เมืองอัจฉริยะ หรือคลาวด์ระดับโลก แต่ว่าเบื้องหลังของสิ่งเหล่านั้นก็จะยังคงมี ARM Holdings คอยขับเคลื่อนอยู่เสมอ

อ้างอิง: bbc, cnbc, newsroom.arm

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ ‘Starlink’ จักรวาลอินเทอร์เน็ตของ Elon Musk และยุคไร้จุดอับสัญญาณ

เจาะลึกประวัติศาสตร์ Starlink เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตดาวเทียมพลิกโลกของ Elon Musk ตั้งแต่นวัตกรรม V2 Mini, Laser Links, Direct-to-Cell จนถึงบทบาทสำคัญในสงครามและภารกิจกู้ภัยน้ำท่วมหา...

Responsive image

เนเธอร์แลนด์กับสงครามน้ำพันปี ถอดรหัส ‘Delta Works’ จากปัญหามหาอุทกภัย สู่การบริหารจัดการแบบปรับตัว

เจาะลึก Delta Works โครงการป้องกันน้ำท่วมระดับโลกของเนเธอร์แลนด์ จากหายนะปี 1953 สู่สิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรม และโมเดล Adaptive Delta Management รับมือ Climate Change...

Responsive image

เบื้องหลัง 30 ปี SolidWorks จากโปรแกรมเดสก์ท็อป สู่เครื่องมือปลดปล่อยจินตนาการวิศวกร

ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซอฟต์แวร์ 3D CAD ถือเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ยากมาก จึงทำให้ SOLIDWORKS ต้องการสร้างซอฟต์แวร์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ จนในปี 1995 ซอฟต์แวร์ 3D CAD ตัวแรกของโลกที...