PLAUD NOTE เครื่องบันทึกเสียง AI ราคาครึ่งหมื่น ต่างอะไรจากแอปจดในมือถือ ?

PLAUD NOTE เครื่องบันทึกเสียง AI ราคาครึ่งหมื่น ต่างอะไรจากแอปจดในมือถือ?

เมื่อข้อมูลหรือเนื้อหาทำให้คนกลายเป็นผู้ได้เปรียบในหลายๆ สถานการณ์ ทั้งชีวิตการเรียน การทำงาน ไปจนถึงการบริหารในผู้บริหารระดับสูง ถือว่าใครก็ตามที่เป็นผู้ที่จดข้อมูลได้มากที่สุด ก็จะนำไปทบทวนซ้ำ วิเคราะห์ต่อยอดให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ได้มากกว่าเสมอ

แต่นั่นอาจมาพร้อมปัญหาที่ว่าบางครั้งเมื่อเราต้องการฟังอย่างตั้งใจ แต่ก็ไม่อยากพลาดที่จะจดข้อมูลไปด้วย ทำให้ทั้งการฟังและการจดกลับไม่มีประสิทธิภาพทั้งสองอย่างเลย หรือหลายคนอาจจะคิดว่าเดี๋ยวจำเอาดีกว่า แต่กลับกัน บ่อยครั้งคำพูดหรือข้อตกลง มักจบลงและจางหายไปพร้อมกับการประชุมนั้นด้วย

มาทำความรู้จัก PLAUD NOTE เครื่องมือเปลี่ยนเกมสำหรับผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่นักกฎหมายที่ทำการเบิกความ ไปจนถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่บันทึกปฏิสัมพันธ์กับผู้ป่วย หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่รู้ภาษาต่างประเทศ แต่แค่พกเจ้าเครื่อง PLAUD NOTE ไปด้วย ก็สามารถถอดเสียงบันทึก พร้อมสรุปใจความให้เป็นภาษาที่เราเข้าใจได้แบบเรียลไทม์

ทำไมถึงกลายเป็นเครื่องมือเปลี่ยนเกม    

ในปี 2021 บริษัท PLAUD.AI ถูกก่อตั้งขึ้น โดยผู้ก่อตั้ง (CEO) ได้แก่ Nathan Hsu (หรือ Nathan Xu) และ Gao Xu โดยมีทีมงานทั้งในซานฟรานซิสโก ซีแอตเทิล โตเกียว และเซินเจิ้น

ด้วยภารกิจในการเปลี่ยนการสนทนาและเสียงในชีวิตประจำวันให้กลายเป็น “ข้อมูลที่ใช้งานได้จริง” ผ่านเทคโนโลยี AI ผลิตภัณฑ์แรกของบริษัท PLAUD.AI ก็คือ PLAUD NOTE ที่เปิดตัวไปเมื่อ 28 มิถุนายน 2023 ซึ่งเป็นเครื่องบันทึกเสียงแบบ “AI native note-taking device” ที่สามารถบันทึกเสียง ถอดข้อความ และสรุปใจความโดยทันทีได้แบบแม่นยำ ตามมาด้วย NotePin ซึ่งเป็นอุปกรณ์ AI แบบพกพาที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องบันทึกเสียง ช่วยจดบันทึกและสรุปเนื้อหาประชุมบทสนทาแบบอัตโนมัติ

เพียงเวลาไม่นานหลังจากเปิดตัว PLAUD.AI เติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยยอดผู้ใช้งานกว่า 700,000 คนทั่วโลก กลายเป็นผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ AI ที่มีปริมาณการใช้งานอันดับสองของโลก เป็นรองแค่ Meta Ray-Ban

PLAUD NOTE ต่างจากแอปฯ จดในมือถืออย่างไร ?

แน่นอนว่าโทรศัพท์ของเราก็มีแอปพลิเคชันให้กดอัดเสียง หรือแม้แต่การเข้า Google เพื่อเสิร์ชเรียกตัว ChatGPT มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลก็ย่อมทำได้ ไหนจะ Google Doc ที่ให้เราถอดเสียงฟรีอีก เพราะฉะนั้น ใช้แค่โทรศัพท์เครื่องเดียวก็พอแล้ว?

การหยิบมือถือขึ้นมา ปลดล็อก ปัดหาแอปฯ กดอัดเสียง และคอยระวังไม่ให้มีแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาขัดจังหวะ ทุกขั้นตอนคือสิ่งที่ดึงสมาธิของเราออกจากบทสนทนาตรงหน้า และบ่อยครั้งจังหวะที่ดีที่สุดก็ผ่านไปในช่วงเวลาที่เรากำลังวุ่นอยู่กับเครื่องมือพอดี

ต่างกับ PLAUD NOTE ที่ทำงานตรงกันข้ามกับมือถืออย่างสิ้นเชิง มันไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อทำทุกอย่าง แต่ถูกสร้างมาเพื่อทำสิ่งเดียวให้ ‘ไร้รอยต่อ’ ที่สุด

ภารกิจของมันคือการลดสิ่งรบกวนให้เป็นศูนย์ แค่กดปุ่มเดียว ทุกอย่างก็เริ่มทำงานโดยที่เราไม่ต้องละสายตาหรือสมาธิไปจากคู่สนทนา มันคือเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อให้เรา ‘ลืม’ ว่ามีมันอยู่ เพื่อปลดปล่อยให้เรากลับไปโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญกว่าเทคโนโลยี... นั่นคือมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้า

จุดเด่นของ PLAUD NOTE 

นอกจากระบบ AI ที่ฝังตัวอยู่ในอุปกรณ์แล้ว ตัวเครื่องยังถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในทุกสถานการณ์ เพราะทั้งบางเฉียบ พกพาง่าย น้ำหนักเบา แต่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์เด็ดๆ ไม่ว่าจะเป็น

1. แปลงเสียงเป็นข้อความอัตโนมัติ

PLAUD NOTE ใช้เทคโนโลยีการจำเสียงและแปลงเป็นข้อความด้วยระบบประมวลผลภาษาธรรมชาติ ซึ่งสามารถแยกแยะน้ำเสียง จังหวะการพูด และความหมายของคำพูดได้อย่างแม่นยำ ถึงแม้ว่าจะมีผู้พูดมากกว่า 2 คน ตัวเครื่องก็สามารถประมวลได้ว่าเสียงไหนคือเสียงของบุคคลที่ 1, 2 หรือ 3

2. รองรับการใช้งานได้หลายภาษา 

ทั้งภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น จีน และที่สำคัญคือภาษาไทย โดยมีความแม่นยำถึง 95% ช่วยประหยัดเวลาในการจดบันทึกได้มากกว่า 60% เมื่อเทียบกับการจดโน้ตแบบเดิม

3. รองรับการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน

มีแอปพลิเคชันที่พัฒนามาเพื่อใช้งานคู่กับ PLAUD NOTE เพื่อให้การจัดการไฟล์เสียงและข้อความเป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น มีทั้งฟังก์ชันการจัดเรียงและจัดหมวดหมู่ไฟล์อัตโนมัติ พร้อมทั้งระบบค้นหาอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์เนื้อหาและค้นหาคำสำคัญ ทำให้สามารถเรียกคืนข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว แม้จะมีไฟล์จำนวนมากก็ตาม

4. ถึงเครื่องจะหาย แต่ข้อมูลไม่หาย

แม้ผู้ใช้จะทำตัวเครื่อง PLAUD NOTE หล่นหายก็ไม่ต้องเป็นกังวลว่าความลับจะหลุดไปด้วย เพราะทุกครั้งที่กดบันทึกเสร็จ ระบบจะทำการโอนไฟล์เสียงเข้าสมาร์ทโฟนที่มีแอปพลิเคชันทันที

5. อัดเสร็จปุ๊บ ซิงก์ข้อมูลกับ Cloud ปั๊บ

จากข้อ 4 ถึงแม้เราจะกลัวทำโทรศัพท์หายอีกทีก็หมดห่วง เพราะข้อมูลที่บันทึกด้วย PLAUD NOTE สามารถซิงก์ขึ้นระบบ Cloud ได้แบบอัตโนมัติและปลอดภัย โดยข้อมูลจะถูกเข้ารหัสก่อนการจัดเก็บบน Cloud Storage ที่ได้มาตรฐานระดับสากล พร้อมทั้งสามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงและแชร์ข้อมูลกับทีมงานได้ด้วย

6. เลือก Version ของ AI ได้

ในตัวเครื่องจะมีการตั้งค่าให้ผู้ใช้งานเลือกได้เลยว่าจะใช้งานระบบ AI ตัวไหน ไม่ว่าจะเป็นแบบ Auto (ที่มากับเครื่อง), GPT-4o, Claude 3.5, o3 mini และอีกหลายๆ ตัวที่จะมีในอนาคต ส่วนใครที่จ่ายค่า Subscription ให้กับตัว GPT อยู่แล้ว ก็สามารถนำมาใช้กับตัวเครื่อง PLAUD NOTE ได้เลย พร้อมทั้งเลือกระดับความโปรตามกำลังเงินได้เช่นกัน

7. สายใช้ฟรี ก็มีให้

คือถ้าใครไม่ต้องการจ่ายรายเดือนให้กับระบบ AI ใดๆ ก็สามารถถอดเสียงและสรุปข้อความได้ฟรีถึง 300 นาที/เดือน

จุดแข็งนำไปสู่ความเติบโต

หลังเปิดตัว PLAUD NOTE บริษัท PLAUD.ai ก็ได้รับความสนใจและเริ่มเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีผู้ใช้ขยายตัวทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มนักศึกษา คนทำงาน และผู้ที่ต้องเข้าประชุมบ่อยไปจนถึงระดับผู้บริหาร เพราะนอกจากจะบันทึกเสียงได้แล้ว ยังสามารถสร้าง Mind map, To-do list และบันทึกเสียงการโทรได้อีก ถึงขนาดเปิดตัวน้องใหม่เพิ่ม เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2024 เป็นเจ้า Plaud NotePin รุ่น Wearable ที่เหน็บหรือติดเสื้อผ้าได้ เพื่อความสะดวกในการใช้ในชีวิตประจำวันยิ่งกว่าเดิม 

จนภายในเวลาเพียงสองปีเศษ บริษัทเติบโตจนมีรายได้ต่อปีสูงถึง 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตถึง 10 เท่าต่อปีเป็นเวลาสองปีติดต่อกัน ถึงแม้ตัวเครื่องจะยังมีข้อจำกัดด้านความแม่นยำที่ยังไม่สมบูรณ์ 100% โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีเสียง noise หรือฟีเจอร์บางอย่างที่ต้องสมัครสมาชิก (Subscription) เช่น การถอดเสียงไม่จำกัด และพื้นที่ Cloud แต่ก็นับว่า PLAUD NOTE เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยงานด้านการจดบันทึกข้อมูล ที่ทำให้ผู้ใช้ไม่พลาดจังหวะสำคัญของการฟังได้เป็นอย่างดี

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ ‘Starlink’ จักรวาลอินเทอร์เน็ตของ Elon Musk และยุคไร้จุดอับสัญญาณ

เจาะลึกประวัติศาสตร์ Starlink เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตดาวเทียมพลิกโลกของ Elon Musk ตั้งแต่นวัตกรรม V2 Mini, Laser Links, Direct-to-Cell จนถึงบทบาทสำคัญในสงครามและภารกิจกู้ภัยน้ำท่วมหา...

Responsive image

เนเธอร์แลนด์กับสงครามน้ำพันปี ถอดรหัส ‘Delta Works’ จากปัญหามหาอุทกภัย สู่การบริหารจัดการแบบปรับตัว

เจาะลึก Delta Works โครงการป้องกันน้ำท่วมระดับโลกของเนเธอร์แลนด์ จากหายนะปี 1953 สู่สิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรม และโมเดล Adaptive Delta Management รับมือ Climate Change...

Responsive image

เบื้องหลัง 30 ปี SolidWorks จากโปรแกรมเดสก์ท็อป สู่เครื่องมือปลดปล่อยจินตนาการวิศวกร

ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซอฟต์แวร์ 3D CAD ถือเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ยากมาก จึงทำให้ SOLIDWORKS ต้องการสร้างซอฟต์แวร์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ จนในปี 1995 ซอฟต์แวร์ 3D CAD ตัวแรกของโลกที...