ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งหนังสือต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าในวันที่ 12 ธันวาคม2562 ธนาคารได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นโดยมีเงื่อนไขกับ กับ Standard Chartered Bank และ PT Astra International Tbk เพื่อเสนอซื้อหุ้นกลุ่ม ข. จำนวนทั้งหมด 24,991,429,332 หุ้นใน PT Bank Permata จากStandard Chartered Bank และ PT Astra International Tbk คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 89.12 ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ PT Bank Permata ตามมติเห็นชอบของที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่12/2562 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562 โดย Standard Chartered Bank และ PT Astra International Tbk จะขายหุ้นกลุ่ม ข. เป็นจำนวนรายละ 12,495,714,666 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 44.56 ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของPT Bank Permata. ให้แก่ธนาคาร ทั้งนี้ การซื้อขายหุ้นดังกล่าวจะแล้วเสร็จได้ต่อเมื่อได้มีการปฏิบัติตามเงื่อนไขบังคับก่อนในสัญญาซื้อขายหุ้นอย่างครบถ้วนแล้ว
สำหรับ PT Bank Permata เป็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของอินโดนีเซีย ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2498 ประกอบกิจการเสนอขายผลิตภัณฑ์และให้บริการด้านการธนาคารอย่างเต็มรูปแบบ มีลูกค้ารายย่อย ลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และลูกค้าองค์กร รวมกว่า 3.5 ล้านราย ได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย
โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 PT Bank Permata มีสำนักงานรวม 332 แห่ง (แบ่งออกเป็น สำนักงานสาขาและสาขา เคลื่อนที่) มีเครื่องบริการเบิก-ถอนเงินสดอัตโนมัติ (เอทีเอ็ม) รวม 989 เครื่องใน 62 เมืองทั่วประเทศอินโดนีเซีย และ ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 PT Bank Permata มีเงินให้สินเชื่อจำนวน 108 ล้านล้านรูเปีย(เทียบเท่ากับ 7.6 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 234,000 ล้านบาทโดยประมาณ) มีเงินรับฝากจำนวน 120 ล้านล้านรูเปีย (เทียบเท่ากับ 8.5 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 259,000 ล้านบาท1โดยประมาณ) และมีพนักงานรวมทั้งสิ้น7,670 คน
ด้านแหล่งที่มาของเงินทุนในการเข้าทำธุรกรรมครั้งนี้ของธนาคารกรุงเทพ ธนาคารคาดว่าจะใช้เงินทุนภายในและแหล่งเงินทุนที่ได้จากการจัดหาเงินทุนตามปกติของธนาคาร ซึ่งเป็นกระแสเงินสดและกำไรจากการดำเนินงานของธนาคารเอง และมีเพียงพอต่อการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวโดยที่ธนาคารไม่ต้องเพิ่มทุนแต่อย่างใด และคาดว่าการดำเนินการเข้าซื้อ กระบวนการจะแล้วเสร็จภายในปี 2563
นายเดชา ตุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กล่าวว่า สำหรับเหตุผลในการเข้าซื้อกิจการของ PT Bank Permata ครั้งนี้ เนื่องจากจะทำให้ธนาคาร เข้าถึงตลาดอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ เป็นจำนวน 1.04 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และมีประชากรรวม 267 ล้านคน ที่ประกอบไปด้วยประชากรวัยทำงานที่มีอายุน้อยจำนวนมาก มีจำนวนประชากรที่มีรายได้ระดับปานกลางและสูงที่เพิ่มขึ้น และที่สำคัญประเทศอินโดนีเซียยังมีอัตราการเริ่มใช้งานระบบดิจิตอลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีอัตราการเติบโตของสินเชื่อที่สูง และมีประชากรที่ยังไม่ได้ใช้บริการของธนาคารใดๆ เป็นจำนวนมาก
ซึ่งทำให้ธนาคารได้เข้าไปขยายตลาดการเงิน เพื่อรองรับการทำธุรกรรมของลูกค้ารายใหญ่ของธนาคารในประเทศไทยที่ได้เข้าไปลงทุนในอินโดนีเซีย รวมถึงเป็นการเปิดช่องทางสำหรับลูกค้าของ PT Bank Permata ที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ธนาคารสามารถสร้างเครือข่าย และตอบโจทย์ต่อกลยุทธ์ที่สำคัญของธนาคารที่วางไว้ว่าจะขยายธุรกิจไปต่างประเทศ และเป็นธนาคารระดับภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่การทำธุรกรรมดังกล่าวสำเร็จแล้ว จะส่งผลให้ธนาคารกรุงเทพมีสินทรัพย์เพิ่มเป็น 3.3 ล้านล้านบาท จากปัจจุบัน 3 ล้านล้านบาท มีสัดส่วนสินเชื่อต่างประเทศเพิ่มเป็น 25% ของสินเชื่อทั้งหมดจากเดิมอยู่ที่ 17% ส่วนในอินโดนีเซียเองจะทำให้ PT Bank Permata ก้าวขึ้นมาเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับที่10 ในอินโดนีเซีย จากเดิมอยู่ที่ลำดับที่ 12
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด