บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (Bitkub Blockchain Technology) ผู้นำด้านธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชนเทคโนโลยีในประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท เดอะมั้งค์ สตูดิโอ จำกัด (The Monk Studio) ผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการออกแบบและผลิต 3D เกม, แอนิเมชัน และวิชวลเอฟเฟค (Visual Effects) ให้กับสตูดิโอชั้นนำทั้งในเอเชีย, ยุโรป และอเมริกา ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เพื่อสร้างอาณาจักรโลกเสมือน “Bitkub Metaverse” แพลตฟอร์มโลกเสมือนจริงแห่งใหม่ ที่รวบรวมเอาแพลตฟอร์มภายใต้ Bitkub Chain ทั้งหมดอย่าง Decentralized Financial, Game Financial และ NFT Market มาสู่โลก Metaverse ผ่านการออกแบบโดยทีมผลิตแอนิเมชันระดับโลกอย่าง “The Monk” เปิดประสบการณ์สุดล้ำให้กับผู้ใช้งาน
“Metaverse” ขยายขอบเขตให้กับสังคมปัจจุบันอย่างมหาศาล เปรียบเสมือนโลกใบใหม่ที่ผู้เล่นสามารถเข้ามาปฏิสัมพันธ์กันได้ในโลกที่เขาเลือกเอง สามารถสร้างสรรค์รูปลักษณ์และเลือกการดำเนินชีวิตของตนเองได้ เป็นการเปิดช่องทางใหม่ๆ ให้กับหลากหลายธุรกิจ ทั้งด้านสื่อบันเทิง การท่องเที่ยว วัฒนธรรม และการศึกษา เปรียบเสมือนมิติคู่ขนานที่แยกออกจากโลกจริง สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้เราอย่างไร้ขีดจำกัด สุดแล้วแต่จะจินตนาการ
อย่างไรก็ดี การที่ผู้เล่นจะสามารถสัมผัสถึงประสบการณ์และรู้สึกเชื่อมโยงกับโลกเสมือนอย่าง Metaverse นี้ ต้องอาศัยทั้งเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ และจินตนาการในการเนรมิตโลกเสมือนที่สามารถเชื่อมโยงกับผู้คนที่เล่นอยู่หลังจอให้ได้มากที่สุด ต้องมีทั้งความสมจริงเพื่อถ่ายทอดการใช้ชีวิตของผู้เล่น แต่ก็ต้องคงไว้ซึ่งภาพแห่งจินตนาการที่รังสรรค์ให้โลกเสมือนจริงนี้มอบประสบการณ์ที่ไม่อาจหาได้ในชีวิตจริง
การผนึกกำลังครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างสองผู้นำในวงการอย่าง Bitkub และ The Monk ในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนชิ้นส่วนสำคัญที่จะผสมผสานความเชี่ยวชาญของ 2 บริษัทไว้ด้วยกัน คว้าโอกาสและความท้าทายที่จะสร้างโลกเสมือนที่แตกต่างและพิเศษกว่า ทั้งในฝั่งของบล็อกเชนซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญอันเป็นพื้นฐานในโลก Metaverse และฝั่งของแอนิเมชันซึ่งเป็นความสมจริงที่ช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ในโลกแห่งจินตนาการ
คุณอ๊อฟ-ภาสกร ปานนอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า “Bitkub Metaverse” จะเป็นอาณาจักรที่เปิดให้ผู้คนได้เข้ามาปฏิสัมพันธ์กัน ด้วยการเชื่อมโยงและรวบรวม “Bitkub Community” และ “Bitkub Partner” เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ผู้คนสามารถเลือกทำกิจกรรมที่แตกต่างหลากหลายได้บนแพลตฟอร์มเดียวกัน
“ยกตัวอย่างเช่น พื้นที่ส่วนตัวสำหรับลูกค้า Bitkub Next ที่สามารถปรับแต่งได้ทั้งแบบส่วนตัวและแบบสาธารณะ, การซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีทั้งผ่านระบบหรือระหว่างผู้เล่นด้วยกันแบบ P2P นอกจากนี้ ลูกค้า Bitkub NFT Store ที่เป็นพาร์ทเนอร์สามารถนำ Bitkub NFT เข้าสู่ Metaverse ได้ทันที เพื่อให้ผู้เล่นมีประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเป็นส่วนหนึ่งของโลกเสมือนจริงที่มี Interface ที่เป็นมิตรกับผู้เล่น ในส่วนนี้เองที่ The Monk เข้ามามีบทบาทสำคัญในการออกแบบ Interface ที่มีทั้งความน่าสนใจ และเข้าใจได้ง่าย” คุณภาสกร กล่าว
คุณจั๊ก-สุภณวิชญ์ สมสมาน Creative Director และ ผู้ก่อตั้ง บริษัท เดอะมั้งค์ สตูดิโอ จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า ทั้งบริษัทบิทคับ บล็อคเชนฯ และ The Monk นำจุดแข็งและความเชี่ยวชาญที่มีมาประสานพลัง เพื่อจุดมุ่งหมายในการสร้างสรรค์โลก Metaverse ให้ก้าวไปอีกระดับ ซึ่งทาง The Monk เองมีความชำนาญในการสร้าง Virtual World ขณะที่ Bitkub มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีบล็อกเชน ดังนั้นการร่วมงานกันในครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่ 1 + 1 เท่ากับ 2 แต่จะเกิดก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่มากกว่านั้น
“จริงๆการสร้างโลก Metaverse ก็เหมือนการสร้างแอนิเมชันเราเป็น story teller ผู้ที่สร้างสรรค์โลกแห่งจินตนาการเกิดเป็นงานดีไซน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยภาพและคาแรคเตอร์ต่างๆ ร้อยเรียงเป็นเรื่องราวความสนุกสนานให้ผู้คนได้รับชม ซึ่งนี่คือสิ่งที่ The Monk เชี่ยวชาญของ แตกต่างเพียงแค่ย้ายจากภาพบนจอภาพยนตร์มาเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ โลก Metaverse ที่สามารถ Interact กับผู้คนได้ทันทีแบบ REAL-TIME” คุณสุภณวิชญ์ กล่าว
“เราคำนึงถึงการใช้งานที่ต้องเข้าถึงคนได้ทุกเพศทุกวัย สนุกไปกับกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถเลือกสรรได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เพลิดเพลินไปกับการเล่าเรื่อง งานดีไซน์เมืองและคาแรคเตอร์ พร้อมไอเดียสนุกๆที่ทีมงานของเราได้แฝงเข้าไป ให้ทุกคนได้ทั้งความบันเทิงและได้ประโยชน์ในหลากหลายมิติ ซึ่งนี่คือเสน่ห์และความพิเศษของ Metaverse แห่งนี้ และนอกจากทีมที่เชี่ยวชาญด้านการเนรมิตโลกใบใหม่ เรายังได้ คุณ Steve Gray อดีต Lead Engineer ของ Tencent Game and Interactive, Electronic Arts และ Square Enix มาเป็นหัวเรือใหญ่ในการสร้างเกม และ เทคโนโลยี Interactive กับเราด้วย” คุณสุภณวิชญ์ กล่าวปิดท้าย
“The Monk” มีเป้าหมายหลักคือ การสร้างอาณาจักร Metaverse ขนาดใหญ่ภายใต้ชื่อ “XRB Galaxy” ซึ่งมาจากคำว่า “Extended Reality and Beyond” เป็นตัวแทนของจักรวาลที่ถูกขยายขอบเขตออกไปอย่างไม่สิ้นสุด โลกเสมือนที่สร้างขึ้นจากจินตนาการอันน่าตื่นตาและเทคโนโลยีสุดไฮเทค อันประกอบไปด้วยดาวเคราะห์ Metaverse มากมาย โดยมี “Bitkub Metaverse” เป็นตัวชูโรง
ลองจินตนาการถึงแพลตฟอร์มที่เราสามารถซื้อขาย ที่ดิน, สิ่งก่อสร้าง, ไอเท็ม, NFT, และจัดกิจกรรมภายในโลกใบนี้ได้อย่างอิสระ เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็นนักเล่นเกม Play-to-Earn, นักสะสม NFT, นักลงทุน, หรือแม้แต่อาชีพที่คุณเนรมิตขึ้นเอง ระบบเกมเปิดโอกาสให้คุณสร้างอาชีพและความเป็นไปได้ใหม่ๆ ได้อย่างไม่รู้จบ ไม่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหนก็สามารถสนุกสนานไปใน Metaverse ของเราได้อย่างแท้จริง มีขอบเขตเพียงแค่จินตนาการของคุณเท่านั้น! นับเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญที่จะช่วยกรุยทางให้ Metaverse หลากหลายรูปแบบได้เข้ามาสรรค์สร้างและเนรมิตจักรวาลใบใหม่นี้ร่วมกัน
ทั้งนี้ คาดว่า “Bitkub Metaverse” จะเปิดให้คนไทยได้เข้ามาโลดแล่นภายในเดือนสิงหาคมนี้
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด