7 Tech Company ระดับโลกที่กำลังสร้างจักรวาล Metaverse ให้กลายเป็นจริง | Techsauce

7 Tech Company ระดับโลกที่กำลังสร้างจักรวาล Metaverse ให้กลายเป็นจริง

Metaverse อีกขั้นของเทคโนโลยีที่เป็นการรวมกันของ physical, augmented และ virtual reality ที่ถูกสร้างขึ้นในโลกออนไลน์  ที่ผู้ใช้งานรู้สึกอยู่ในโลกเสมือนจริง ๆ ไม่ใช่แค่เพียงการนั่งดูอยู่ภายนอก  ซึ่งมีความเห็นจากหลาย ๆ ส่วนว่า หากต้องการทำให้ Metaverse เกิดขึ้นและนำมาใช้ได้จริงนั้นจำเป็นต้องสร้างให้เป็น Decentralized System ที่หลาย ๆ บริษัทสามารถเข้ามาร่วมช่วยกันสร้างขึ้นมา ไม่ใช่ถูกควบคุมและกำหนดเพียงแค่บริษัทใดบริษัทหนึ่งเท่านั้น   ซึ่งปัจจุบันมีหลายหลายบริษัทที่ทำให้เรื่องนี้เข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น บทความนี้เราจะพาไปสำรวจกันว่าปัจจุบันมีบริษัทไหนทำอะไรอยู่บ้าง

Meta -Facebook

Facebook ต้องการเปลี่ยนจากบริษัท Social media ให้กลายเป็นบริษัท Metaverse ภายในระยะเวลา 5- 10 ปี  โดย Facebook ได้สร้างผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เราเข้าใกล้ Metaverse ได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น

  • Facebook Horizon ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนและสามารถพบปะผู้คน ได้ทั่วโลก และทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากมาย หรือแม้กระทั่งการสร้างโลกเสมือนของเราเองเช่นกัน

  • Facebook Workrooms คือพื้นที่ที่ทำให้ผู้คนสามารถเข้ามาทำงานและประชุมร่วมกันผ่านโลกเสมือนได้ ซึ่งไม่ต้องกังวลเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) 

นอกจากนี้ Facebook ยังมีแผนกการทำงานที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สำหรับชุมชน, การค้า, creators, VR และ AR  และแผนกเหล่านี้จะทำงานเพื่อสร้างและพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้รองรับสำหรับ Metaverse  ซึ่งทาง Facebook ทุ่มงบประมาณ 5 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปี เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เหล่านี้  และในอนาคตอันใกล้ Facebook อาจจะมอบรางวัลให้กับผู้ใช้งานเพื่อเป็นสิ่งจูงใจให้ผู้คนหันมาเข้าร่วมชุมชน Metaverse ซึ่งต้องใช้ อุปกรณ์บางอย่างที่สำคัญ เช่น ชุดหูฟัง VR และ AR  และเมื่อชุมชน Metaverse เติบโตและมีผู้ใช้งานมากขึ้น Facebook จะเริ่มทยอยเพิ่ม ฟีเจอร์ใหม่ ๆ และข้อเสนอต่าง ๆ เข้าไป เพื่อเพิ่ม Adoption Rates  นั่นเอง  

นอกจากชุดดหูฟัง Oculus VR ที่กำลังเป็นที่นิยมแล้ว   Facebook กำลังพัฒนาชุดหูฟัง AR อย่างต่อเนื่อง โดยมีนวัตกรรม semiconductor และ อุปกรณ์เชื่อมต่อการคำนวณระหว่างสมองและเครื่องจักร ที่จดสิทธิบัตรของ Facebook   และทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า Facebook มีเป้าหมาย ที่จะเป็นผู้บุกเบิกและเติบโตเป็นคนแรกในตลาดฮาร์ดแวร์และโซลูชันการทำงานใน Metaverse ecosystems

Epic games

Epic games มีผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น Fortnight, Roblox, Unreal Engine และ MetaHumans  และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Fortnight และ Roblox  มีองค์ประกอบหลายอย่างที่เกี่ยวกับ Metaverse เช่นการสร้างเศรษฐกิจเสมือนของตัวเอง และการสร้าง Avatar ในโลกเสมือนที่หลากหลาย  

ปัจจุบัน Epic games กำลังพัฒนา Decentralized Metaverse โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจของ Tim Sweeney CEO ของบริษัท ที่อธิบายถึงเหตุผล ว่าการที่ มีเพียงบริษัทใดบริษัทหนึ่งที่กำหนด Metaverse จะทำให้เกิดการควบคุมและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้ เนื่องจากจะทำให้บริษัทนั้นมีสิทธิ์ในการควบคุมชีวิตของผู้คนที่มากเกินไปและ และทำให้เกิดพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสม เช่น การตรวจสอบข้อมูลส่วนตัว หรือการปฏิสัมพันธ์ส่วนตัว (private interaction)  โดยในเดือนเมษายนปี 2021  Epic games ระดมทุน ได้ราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการสร้าง Metaverse 

ภาพจาก theverge

ตัวอย่าง Use Case

  • Fortnight เป็นเกมที่ปัจจุบันมีผู้เล่นมากถึง 350 ล้านคน โดยผู้เล่นสามารถสร้าง avatar ที่มีลักษณะเฉพาะ และใช้ในการเข้าเล่นเกมด่านต่าง ๆ ซึ่งในปลายเดือนเมษายนปี 2020  ได้จัดงานคอนเสิร์ตเสมือนขึ้น และมี Travis Scott ปรากฏตัวขึ้นมาเป็น 1 ใน avatar ของคอนเสิร์ตนี้ และมีผู้เข้าร่วมงาน คอนเสิร์ตนี้มากถึง 12 ล้านคน  
  • Roblox ได้เปิดตัว Developer MarketPlace เมื่อปี 2019 ที่อนุญาตให้นักพัฒนาสามารถสร้างรายได้ไม่ใช่เพียงแค่เกมของตัวเองเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงทรัพย์สินต่าง ๆ, plug-ins, 3D model, ยานพาหนะ, รูปแบบภูมิประเทศต่าง ๆ และไอเท็มอื่น ๆ ที่นักพัฒนาได้คิดค้นขึ้นสำหรับเกมเหล่านั้น 
  • Unreal Engine อีกตัวอย่างสำคัญในช่วงแรกสุดของการสร้างโลกเสมือน และยังมีการนำเทคโนโลยีอัลกอริทึม Machine learning ที่สามารถสร้างสิ่งแวดล้อม และทรัพย์สินเสมือนได้ เข้ามาเสริมประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถของการสร้างสิ่งต่าง ๆ ในตัวเกม Unreal Engine อีกด้วย

และยังมี MetaHuman ที่จะใช้งานเพื่อสร้าง Avatar เสมือนจริง  เพื่อใช้ใน Decentralize Metaverse ต่อไป

Microsoft 

Microsoft ผู้นำด้านเครื่องมือและโซลูชันในการทำงานและสร้าง productivity ให้กับการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น The window operating system, Office 365, Microsoft Azure และ LinkedIn  โดยเวอร์ชั่นใหม่ของเครื่องมือเหล่านี้ในอนาคต จะสามารถทำงาน เข้ากันได้อย่างดีในระบบนิเวศของ Metaverse  

Microsoft ได้ให้นักพัฒนา Microsoft Azure สร้างโลกดิจิตอลที่คู่ขนานไปกับโลกจริงแบบ real-time  และการพัฒนาในครั้งนี้ทำให้สามารถจำลองรูปแบบของสิ่งแวดล้อมเสมือนจริง และวิเคราะห์แนวโน้มต่าง ๆ เพื่อสร้างสมมุติฐานที่มีความแม่นยำสูง ได้แบบ real-time   และ จะมีการนำรูปแบบโมเดลสิ่งแวดล้อมเสมือนไปใช้ในโลกแห่งความเป็นจริงในอนาคต

ภาพจาก gravityjack

Microsoft ยังได้ออกแบบ HoloLens ซึ่งเป็นชุดหูฟังที่ผสาน เทคโนโลยี holographic และ mixed-reality ได้ถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้งานสามารถใช้โต้ตอบกับวัตถุ เสมือนที่เกี่ยวข้องกับงานที่หลากหลายได้  และยังใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย อาทิ เช่น อุตสาหกรรมการผลิต  สุขภาพ และการศึกษา อีกด้วย  ซึ่ง โดยปกติจะถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ แต่เมื่อราคาของชุดหูฟังนี้ลดลง ชุดหูฟังนี้จึงถูกขายเพื่อใช้สำหรับวัตถุประสงค์ทั่วไป 

ยิ่งไปกว่านั้น Microsoft ยังได้มีการพัฒนา แอปพลิเคชัน ชื่อว่า Microsoft Mesh ซึ่งเป็นแอพที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถประชุมด้วย VR และ AR และตอบโต้กันกับผู้ใช้งานอื่นด้วยเนื้อหาที่เป็น 3D 

Microsoft ยังมี Xbox Game Pass และ Xbox cloud gaming ที่สามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ซอฟต์แวร์ ที่เป็นรูปแบบธุรกิจบริการที่มีองค์ประกอบของ Metaverse 

Google 

บริการต่างๆของ Google ช่วยส่งเสริมการพัฒนาของ Metaverse อาทิ เช่น Google Maps & Google Street View, Google Earth VR, Stadia, Google Fi(fie) และ Google Assistant  และล่าสุด Google พึ่งได้เปิดตัว Project Starline เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้การประชุมเสมือน รู้สึกคล้ายราวกับการประชุมนี้เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าจริง ๆ โดยไม่ต้องใช้ชุดหูฟังใด ๆ  และเทคโนโลโยนี้ ใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่สุดของ Computer vision, Machine learning, Spatial audio และ Real-time compression 

ยิ่งไปกว่านั้น Google ได้เปิดตัวฮาร์ดแวร์ที่ใช้ สนับสนุนเทคโนโลยี AR เช่น เวอร์ชั่นอัพเดทใหม่ล่าสุดของ Google Glass  ซึ่งดูเหมือนว่า Google ต้องการที่จะ พัฒนาชุดหูฟัง VR และ mixed reality เช่นกัน  นอกจากนี้ Google ยังได้สร้างแพลตฟอร์มสำหรับพัฒนาเทคโนโลยี AR ขึ้น เรียกว่า ARCore อีกด้วย

Apple 

Apple อาจจะไม่ต้องการสร้าง Decentralize Metaverse เพราะโดยปกติแล้ว Apple ต้องการที่จะควบคุมทุกอย่างเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ใน Ecosystems   และ Apple จะเป็นคู่แข่งหลักของ Facebook ในกลุ่มตลาดฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้องกับ AR และ รวมไปถึง VR และ Mixed Reality อีกด้วย 

Apple ได้สร้างชุดเครื่องมือที่ใช้สำหรับพัฒนาเทคโนโลยี AR ชื่อว่า ARKit  และ RealityKit  และเครื่องมือในการสร้างสรรค์งานต่าง ๆ เช่น Reality Composer และ Reality Coverter 

Nvidia 

Nvidia มีบริการที่ชื่อว่า Omniverse ที่ช่วยธุรกิจในการนำสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหลาย รวมเข้ากันเป็นหนึ่งเดียวในสภาพแวดล้อมเสมือน  ซึ่งจะ สามารถสร้างออฟฟิศหรือพื้นที่การทำงานใน Metaverse ซึ่งจะมีความคล้ายจริงเป็นอย่างมาก  

นอกจากนี้ Nvidia ยังได้สร้าง GPU ซึ่งจะเป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างกราฟฟิค 3 มิติ และ AI ภายในโลก Metaverse

Amazon 

Amazon ไม่มีความได้เปรียบใด ๆ ในตลาดส่วนประกอบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ที่ใช้สำหรับ Metaverse   แต่อย่างไรก็ตาม Matthew Ball อดีตหัวหน้าของ Amazon กล่าวว่า Amazon จะได้รับประโยชน์จากการใช้งานที่เพิ่มขึ้นของAmazon Web services (AWS) และธุรกรรมดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นในแพลตฟอร์ม

โดย Amazon ก็ได้มีการคิดค้น Amazon Alexa ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ผสานการทำงานด้วยเทคโนโลยี AR, VR, brain-machine interfaces และเทคโนโลยีอื่น ๆ ใน Metaverse Ecosystem 


อ้างอิง Future Business Tech




ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Metaverse บำบัดสุขภาพจิต

Metaverse for Mental Health เทคโนโลยีที่พัฒนาเพื่อสนับสนุนสุขภาพจิตในทุกด้าน ทั้งการป้องกัน การวินิจฉัย การบำบัด การรักษา รวมไปถึงการวิจัย ผ่านการเชื่อมต่อผประสบการณ์ด้วย VR และ AR...

Responsive image

เปิดระบบพลังงานบนโลก Bitkub Metaverse ไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ที่ชาว Rabbitian ไม่ควรพลาด!

Bitkub Metaverse ได้เนรมิตขึ้นภายใต้เรื่องราวในจักรวาล XRB Galaxy และสามารถถ่ายทอด Visual Effect ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ โดยผู้เล่นจะสามารถเข้ามาเดินบนดาวดวงนี้ ด้วยการสวมบทบาทเป็น...

Responsive image

ชวนรู้จักระบบสัมปทานบน Bitkub Metaverse กุญแจสำคัญสู่การขับเคลื่อนจักรวาลใบใหม่ฝีมือคนไทย

Bitkub Metaverse ชวนทำความรู้จักระบบสัมปทานก่อนการเปิดให้ทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์บนจักรวาลใบใหม่ที่จะเปิดในกลางปี 2566 นี้...