เริ่มแล้ว! ขสมก. นำรถเมล์สาย A1 (ดอนเมือง-หมอชิต 2) และ A2 (ดอนเมือง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) ทดลองรับชำระค่าโดยสารผ่าน QR Code ก่อนเปิดใช้งานจริง 14 มิถุนายน 2561 นี้ เตรียมขยายให้บริการสาย A3 (ดอนเมือง-สวนลุมพินี) และสาย A4 (ดอนเมือง-สนามหลวง) วันที่ 1 กรกฎาคม 2561

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา บริเวณจุดจอดรถโดยสารอาคารผู้โดยสาร 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง ชั้น 1 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และ บมจ. ธนาคารกรุงไทย เปิดตัวโครงการรับชำระค่าโดยสารผ่านคิวอาร์โค้ด (QR Code) บนรถโดยสารปรับอากาศ Airport Bus ของ ขสมก. รวม 24 คัน ได้แก่

• สาย A1 (ดอนเมือง-หมอชิต 2) จำนวน 16 คัน
• สาย A2 (ดอนเมือง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) จำนวน 8 คัน

โดยหลังจากที่ทดลองโครงการรับชำระค่าโดยสารผ่าน QR Code บนรถโดยสารปรับอากาศ Airport Bus ของ ขสมก. ในวันที่ 4 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้โดยสารชำระค่าโดยสารผ่าน QR Code จำนวนทั้งสิ้น 376 คน แบ่งเป็น

• สาย A1 (ดอนเมือง-หมอชิต 2) จำนวน 273 คน
• สาย A2 (ดอนเมือง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) จำนวน 103 คน

"ส่วนมากเป็นผู้โดยสารที่มีแอพพลิเคชั่นของธนาคารต่างๆ ในไทยอยู่แล้ว และเป็นผู้โดยสารวัยทำงาน พนักงานออฟฟิศ ซึ่งได้ความสนใจจากผู้โดยสารกลุ่มนี้เป็นอย่างดี จากการทดลองใช้วันแรกยังไม่พบปัญหาแต่อย่างใด เนื่องจากผู้โดยสารสามารถชำระค่าโดยสารผ่าน QR Code ได้" นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ และรักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าว

โดยสติ๊กเกอร์ QR Code ค่าโดยสาร 30 บาทจะมีอยู่ 2 ที่ คือ ติดอยู่บนรถเมล์เหนือเก้าอี้ที่นั่งผู้โดยสารซ้าย-ขวาฝั่งละ 5 แผ่น รวม 10 แผ่น และอยู่ที่สายคล้องคอติดตัวพนักงานเก็บค่าโดยสาร ตอนนี้สติ๊กเกอร์ QR Code ยังเพียงพอต่อการใช้งาน อนาคตหากผู้ไม่เพียงพอและผู้โดยแนะนำไม่สะดวก สามารถติดเพิ่มได้ ซึ่งในวันที่ 14 มิถุนายน 2561 นี้จะเปิดตัวโครงการดังกล่าวอย่างเป็นทางการและใช้งานจริง

ตลอดจนขยายผลนำไปเปิดให้บริการในรถเมล์อีก 2 สาย ที่มีค่าโดยสาร 50 บาท ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2561 นี้ คือ

• สาย A3 (ดอนเมือง-สวนลุมพินี) จำนวน 6 คัน
• สาย A4 (ดอนเมือง-สนามหลวง) จำนวน 6 คัน

ก่อนที่จะพัฒนาการชำระค่าโดยสารแบบ QR Code นำไปใช้ในสายอื่นที่มีค่าโดยสารคิดตามระยะทางและให้ครอบคลุมต่อไป

อ้างอิงข้อมูลจาก เดนินิวส์ (1), (2) และ ขสมก.