คลายเครียดอย่างไรให้ไม่ต้องพึ่งยา? รู้จักกับ 4 ตัวช่วยเรื่องการแพทย์จาก Startup ไทย | Techsauce

คลายเครียดอย่างไรให้ไม่ต้องพึ่งยา? รู้จักกับ 4 ตัวช่วยเรื่องการแพทย์จาก Startup ไทย

‘ความเครียด’ เป็นเรื่องของร่างกายและจิตใจ ซึ่งแน่นอนว่าทุก ๆ คนนั้นจะต้องเผชิญกับความเครียด ไม่ว่าจะจากเรื่องการเงิน การทำงาน ครอบครัวและสุขภาพ หรือในอีกทางหนึ่งคือความเครียดที่เกิดจากการคิดและการประเมินสถานการณ์ของแต่ละบุคคล เช่น การมองโลกในแง่ลบ ความใจร้อน การเอาจริงเอาจังกับชีวิต และการอยู่แบบโดดเดี่ยว

ความเครียดจากสิ่งเหล่านี้นั้นทำให้เกิดผลกระทบใน 3 ด้านหลัก ๆ ได้แก่

  1. ด้านร่างกาย: มักมีอาการ ปวดหัว ปวดไมเกรน ใจสั่น นอนไม่หลับ ง่วงเหงาหาวนอนตลอดเวลา ท้องเสียหรือท้องผูก ท้องอืดท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ประจำเดือนมาไม่ปกติ เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เป็นต้น
  2. ด้านจิตใจ: อาการที่พบบ่อย เช่น คิดมาก วิตกกังวล ไม่มีสมาธิ โกรธง่าย หงุดหงิดง่าย เบื่อหน่าย ท้อแท้ ซึมเศร้า สิ้นหวัง หมดความสนุกสนาน เป็นต้น
  3. ด้านพฤติกรรม: จะมีพฤติกรรม อย่างเช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรี่มากขึ้น ใช้ยานอนหลับหรือสารเสพติด มีความขัดแย้งกับผู้อื่นบ่อย ๆ โวยวาย เก็บตัว ดึงผม กัดเล็บ เป็นต้น

ซึ่งแต่ละคนนั้นจะมีวิธีจัดการกับความเครียดที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย นั่งสมาธิ หากิจกรรมที่ช่วยปลดปล่อยความเครียด หรือขอรับบริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต เป็นต้น แต่วันนี้ทาง สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA จะพาไปรู้จัก 4 ตัวช่วยด้านการแพทย์ที่ทำให้ไม่ต้องพึ่งยาอีกต่อไป

4 ตัวช่วยจาก Startup ไทย ให้การรักษาทางการแพทย์นั้นเป็นเรื่องง่าย

1. Automa

Clicknic เป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการปรึกษาแพทย์แบบครบวงจร เริ่มตั้งแต่บริการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผ่าน VDO call รวมถึงบริการฝากซื้อยาจากร้านยาชั้นนำกว่า 40 แห่ง โดยมีใบสั่งยาจากแพทย์ พร้อมคำแนะนำโดยเภสัชกร และเชื่อมต่อกับระบบขนส่งโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงประสบการณ์การดูแลสุขภาพรูปแบบใหม่ที่มีคุณภาพ สะดวก รวดเร็ว ทำได้ทุกที่ ทุกเวลา และสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และระบบ Android

" Zoocial คือคำตอบที่เป็นมากกว่าของเล่น แต่สามารถเป็นเพื่อนให้กับเด็ก ๆ และยังเก็บข้อมูลและคาดการณ์พฤติกรรมของเด็ก ๆ "

โดยหุ่นยนต์ Zoocial จะทำหน้าที่ในการเก็บข้อมูลจากเด็กที่มีการปฏิสัมพันธ์ในขณะนั้นเพื่อสร้างพฤติกรรมที่สอดล้องกับเด็ก จึงสามารถนำเสนอข้อมูลพฤติกรรมของหุ่นยนต์ที่เกิดขึ้นจากเด็กและสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มานำเสนอให้ผู้ปกครองเข้าใจง่ายผ่านแอปพลิเคชัน รวมถึงให้คำแนะนำกับผู้ปกครองถึงลักษณะการเลี้ยงดูลูกของตนอย่างไร เพื่อช่วยให้เด็กนั้นเติบโตและพัฒนาอย่างถูกหลักการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและ ลดปัญหาการเจริญเติบโตของเด็กที่เด็กและพ่อแม่ไม่เข้าใจซึ่งกันและกันอาจทำให้เกิดปัญหาภายในครอบครัว รวมถึงลดปัญหาด้านการเข้าสังคมของเด็กในอนาคตอีกด้วย

2. Clicknic Application

Clicknic เป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการปรึกษาแพทย์แบบครบวงจร เริ่มตั้งแต่บริการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผ่าน VDO call รวมถึงบริการฝากซื้อยาจากร้านยาชั้นนำกว่า 40 แห่ง พร้อมคำแนะนำโดยเภสัชกร และเชื่อมต่อกับระบบขนส่งโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงประสบการณ์การดูแลสุขภาพรูปแบบใหม่ที่มีคุณภาพ สะดวก รวดเร็ว ทำได้ทุกที่ ทุกเวลา และสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และระบบ Android 

โดยปัจจุบัน ทางคลิกนิก ได้ให้บริการแบ่งเป็น 3 ภาคส่วน ได้แก่ 

  • ส่วนที่ 1 การให้บริการในภาครัฐ ทางบริษัท ให้บริการวางระบบ Telemedicine ครบวงจร เริ่มตั้งแต่ระบบ Teleconsultation เพื่อให้คนไข้รับคำปรึกษาจากคุณหมอ,ระบบ Telepharmacy เพื่อรับคำแนะนำเรื่องการใช้ยาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ระบบการจัดการสต๊อก รวมไปถึงการจัดการเรื่องการเชื่อมต่อข้อมูลกับฐานข้อมูลของโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) 
  • ส่วนที่ 2 การให้บริการภาคเอกชนที่เป็นองค์กร ทางบริษัท ให้บริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ โดยทีมแพทย์ผ่านระบบ Telemedicine และบริการจัดหาเวชภัณฑ์และจัดส่งโดยระบบโลจิสติกส์ถึงมือผู้รับบริการ โดยลูกค้าองค์การสามารถใช้สวัสดิการหรือประกันสุขภาพในการจัดการค่าใช้จ่ายได้ และยังมีบริการจัดตั้งห้องพยาบาลอัจฉริยะ (ซึ่งมี Pre-check Up Kiosk) สำหรับตรวจวัดสัญญาณชีพเบื้องต้น ภายในบริษัทขนาดใหญ่หรือโรงงานต่าง ๆ เพื่อเป็นสวัสดิการของพนักงานในบริษัทต่างๆ 
  • ส่วนที่ 3 การให้บริการภาคเอกชนที่เป็นบุคคล ทางบริษัท ให้บริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ โดยทีมแพทย์ผ่านระบบ Telemedicine และบริการจัดหาเวชภัณฑ์และจัดส่งโดยระบบโลจิสติกส์ถึงมือผู้รับบริการ

Clicknic Application จะแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

ในสถานการณ์ปัจจุบัน การเดินทางไปหาหมอที่โรงพยาบาลมักมีความไม่สะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความลำบากในการเดินทาง โดยเฉพาะในกรุงเทพไปกลับเฉลี่ยประมาณ 1 ชั่วโมง การรอคิวคุณหมอที่โรงพยาบาลซึ่งอาจทำให้เสียเวลานาน และค่าใช้จ่ายในการหาหมอที่ค่อนข้างสูง นอกจากนี้แล้ว จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID -19 ก็ยิ่งทำให้ผู้คนไม่อยากไปโรงพยาบาลหากไม่มีความจำเป็นจริง ๆ บริการของ Clicknic Application นั้นจะเข้าไปช่วยให้ผู้ป่วยไม่ต้องเจอปัญหาที่กล่าวมา ด้วย Clicknic Application ผู้ป่วยสามารถพบแพทย์ผ่าน VDO Call ฝากซื้อยาที่แพทย์สั่งไปที่ร้านยาชั้นนำ ได้คุยและรับคำปรึกษาเพิ่มเติมจากเภสัชกร และรอรับยาอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงานได้เลย ทั้งนี้ บริการจากทางคลิกนิกจึงลดการเดินทาง ทำให้ผู้ป่วยประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และยังลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลโดยรวมอีกด้วย

3. Ooca

Ooca เป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการคำปรึกษาด้านสุขภาพจิตจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยาออนไลน์ โดยที่ต้องการมุ่งให้ผู้คนสามารถเข้าถึงบริการด้านจิตใจได้อย่างสะดวก รวดเร็ว มีมาตรฐานทางจิตวิทยา และที่สำคัญคือมีความปลอดภัยของข้อมูล ผู้เข้าปรึกษาสามารถเข้าปรึกษาแบบไม่เปิดเผยชื่อ เปิดตัวตน ทุกคนจึงสามารถเข้ารับการปรึกษาได้อย่างสะดวกใจ ไม่ต้องเดินทางก็สามารถคุยกับจิตแพทย์ออนไลน์ได้ผ่านแอปพลิเคชันในมือถือจากที่ไหนก็ได้ 

ซึ่งในตัวแอปพลิเคชันมีฟังก์ชันที่ช่วยทำการนัดหมายกับผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งวิธีการปรึกษาจะเป็นการคุยผ่านวิดีโอคอล ถ้าหากว่ายังไม่แน่ใจว่าตัวเองอยู่ในระดับไหนแล้ว ควรพบจิตแพทย์หรือยัง ในแอปพลิเคชันยังมีแบบทดสอบความเครียดให้ลองทำดูได้และเก็บ Record เอาไว้

โดยในตอนนี้ Ooca นั้นมีการให้บริการอยู่ 3 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้

  1. Ooca Application (C2C Model) สำหรับบุคคลทั่วไปที่สามารถชำระเงินต่อทุกการปรึกษา 
  2. Ooca for Corporates (B2B Model) สำหรับองค์กรที่ต้องการสวัสดิการดูแลใจพนักงาน
  3. Ooca for Hospitals/Clinic (B2B2C Model) การเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ให้สถานพยาบาล

บริการของ Ooca จะช่วยแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

ปกติแล้วถ้าหากอยากพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา จะต้องเสียหรือแลกกับอะไรบางอย่าง อย่างเช่น เสียเวลาในการรอการนัดหมายที่ใช้เวลานาน เสียเวลาในการเดินทาง บริการจากทาง Ooca จึงเป็นแพลตฟอร์มที่ ช่วยในเรื่องของความสะดวก รวดเร็ว ในราคาที่เหมาะสมพอดี ที่จะทำให้ผู้ใช้บริการนั้นไม่ต้องพบกับปัญหาทั้งเรื่องของเวลาและเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นอีกต่อไป

4. Sharmble

บริการห้องยาเคลื่อนที่สำหรับผู้ให้บริการทางการแพทย์ ผ่านศูนย์กลางการจัดการใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่อเข้ากับร้านขายยาท้องถิ่นสำหรับการให้บริบาลทางเภสัชกรรม โดยจะใช้ APIs สำหรับจัดการใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่อเข้ากับร้านขายยาท้องถิ่นสำหรับการให้บริการรับยาใกล้บ้าน หรือจัดส่งยาแบบเดลิเวอรี ซึ่งบริการจาก Sharmble นั้นจะเหมาะกับทั้งหน่วยงานหรืองค์กรที่ให้บริการด้านสุขภาพ รวมถึงบริษัทประกันต่าง ๆ

Sharmble จะช่วยแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

หลาย ๆ ท่านอาจจะประสบกับปัญหากับการเดินทางไปหาแพทย์และมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง หรือไม่สะดวกที่จะเดินทางไปรับยา ทำให้บริการจาก Sharmble นั้นจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยการจัดส่งยาให้ถึงบ้าน เพียงมีใบสั่งยาจากแพทย์ ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางไปรับยาเอง  พร้อมรับรองความปลอดภัยของระบบที่ผ่านการรับรองของบริษัทประกันภัย

ทุกท่านสามารถติดตามสตาร์ทอัพไทยที่มีโซลูชั่นและบริการดีๆ ได้ใน “Startup Marketplace is Live Now” รายการที่จะช่วยสร้างช่องทางการตลาดให้กับสตาร์ทอัพไทย ในช่วงสถานการณ์วิกฤต โดย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA  และข้อมูลข่าวสาร ได้ที่

FB Page: Startup Thailand 

FB Group: Startup Thailand Marketplace




ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

OpenAI เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน ChatGPT วิเคราะห์-โต้ตอบวิดีโอได้แบบเรียลไทม์

OpenAI อัปเดทความสามารถ ChatGPT บนโหมดสนทนาด้วยเสียงหรือ Advanced Voice Mode สามารถวิเคราะห์และโต้ตอบจากวิดีโอได้แบบเรียลไทม์ นับเป็นการเปิดตัวฟีเจอร์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ในแคมเปญ...

Responsive image

Microsoft เปิดตัว Phi-4 โมเดล AI รุ่นใหม่ เน้นแก้โจทย์คณิตศาสตร์

Phi-4 ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด Small Language Model (SLM) มีขนาด 14 พันล้านพารามิเตอร์ ซึ่งเล็กกว่าโมเดลภาษาขนาดใหญ่อย่าง GPT-4 แต่ยังคงความรวดเร็วและต้นทุนการประมวลผลที่ต่ำกว่า และพร้...

Responsive image

เคอีเอ็กซ์ประกาศ การลาออกของซีอีโอ พร้อมตั้งผู้บริหารร่วม (Co-CEO) รับช่วงต่อ

บริษัท เคอีเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือแจ้งการลาออกจากตำแหน่งประธ...