เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลังจากเกิดการระบาดของไวรัส COVID-19 ทั่วโลก อุตสาหกรรมและธุรกิจต่าง ๆ กลับได้รับผลกระทบอย่างมหาศาล แต่ยังมีอีกหนึ่งอุตสาหกรรมหนึ่งที่ถือว่าได้รับผลดีจากการเกิดเหตุการณ์นี้นั้นก็คืออุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ จากการที่ผู้คนนั้นต้องล็อกดาวน์อยู่บ้าน ทำให้พวกเขานั้นหันมาจับจ่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งเมื่อสถานการณ์ได้บรรเทาไปบ้างแล้ว ผู้คนนั้นก็ยังคงดำเนินพฤติกรรมเหล่านี้ต่อไปอยู่ เรียกได้ว่า COVID-19 นั้นถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้ที่ไม่เคยใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมาก่อนนั้นเปิดใจและยอมรับการใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์มากขึ้น

ทาง Lazada ได้เผยถึงภาพรวมธุรกิจช่วงล็อกดาวน์เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ซึ่งมีนักช้อปรายใหม่ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นหลายล้านราย จำนวนผู้ขายรายใหม่ที่สามารถสร้างรายได้บนแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นกว่า 75% โดยสรุปช่วงครึ่งปีแรกของ 2563 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ผู้ขายและแบรนด์บน Lazada นั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว ซึ่งยังมีการคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2563 ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยจะมีมูลค่ากว่า 2.2 แสนล้านบาท หรือเติบโตสูงขึ้น 35% จากปี 2562

ทำให้จากต่อนี้ไปอีคอมเมิร์ซนั้นจะไม่ใช่แค่ทางเลือกรอง แต่จะกลายมาเป็นทางเลือกหลักของธุรกิจค้าขายในยุค COVID-19 ทำให้ผู้ประกอบการนั้นจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจและทักษะเทคนิคการขายสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซมากขึ้น ไม่เพียงแต่การขายเท่านั้น แต่รวมถึงขั้นตอนต่าง ๆ ในการขายผ่านช่องทางออนไลน์ เช่นกัน 

ดังนั้นในช่วงที่เกิดวิกฤติโรค COVID-19 นี้ทางสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ได้เกิดรายการใหม่เพื่อสนับสนุน Startup ไทย เพื่อให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน จึงจะพาทุกคนไปรู้จัก 4 แพลตฟอร์มจาก Startup ไทยที่จะเข้ามาช่วยให้การขายของออนไลน์นั้นง่ายและสะดวกมากขึ้น

รู้จัก 4 แพลตฟอร์มจาก Startup ไทย เสริมศักยภาพในการขายสินค้าออนไลน์

1. GIZTIX บริการรถขนส่งออนไลน์สำหรับธุรกิจ

เนื่องจากการทำธุรกิจออนไลน์นั้นจำเป็นที่จะต้องใช้บริการขนส่งสินค้าเป็นประจำ ซึ่งหลาย ๆ บริษัทนั้นก็เผชิญกับปัญหาทางด้านขนส่งบ่อย ๆ เช่น ระบบขนส่งที่ล่าช้า ไม่ตรงเวลา และปัญหาขนส่งที่มีระบบแบบ Manual การทำงานออฟไลน์และไม่มีระบบที่แน่นอน ทำให้มีโอกาสผิดพลาดในการดำเนินงานขนส่ง รวมถึงยังมีราคาค่าขนส่งสูงและไม่มีมาตรฐาน ส่งผลให้ความน่าเช่ือถือจากลูกค้าน้อยลง ดังนั้นการหาผู้ให้บริการขนส่งที่มีความน่าเชื่อถือนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากต่อการเติบโตของธุรกิจ

จะแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

ด้วย Pain Point นี้ ทำให้ทาง GIZTIX นั้นสร้างแพลตฟอร์มจองรถขนส่งเหมาคันสำหรับธุรกิจ ที่จะทำให้ส่งสินค้าด่วนได้รวดเร็วทั่วไทย ด้วยเทคโนโลยี และเครือข่าย รถขนส่งจำนวนมาก และสามารถเช็คราคาค่าขนส่ง รวมถึงจองและแมชท์รถขนส่งได้ทันที โดย GIZTIX มีให้บริการรถขนส่งเหมาคันตั้งแต่รถกระบะ 4 ล้อ, รถบรรทุก 6 ล้อ / 10 ล้อ และรถหัวลาก 

เหมาะกับผู้ที่ทำธุรกิจแบบ B2B ที่ต้องการขนส่งสินค้าจำนวนมากหรือสินค้าขนาดใหญ่ ซึ่งทาง GIZTIX เองนั้นยังพัฒนาแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับธุรกิจในเรื่องของราคา ที่เมื่อยิ่งส่งสินค้ามากก็ยิ่งถูกลงไปอีก รวมถึงฟีเจอร์การใช้งานต่าง ๆ ที่ลดขั้นตอนการทำงานในเรื่องของการจัดสินค้า และการจัดเส้นทางที่มีประสิทธิภาพ

2. MyCloudFulfillment คลังสินค้าสำหรับธุรกิจออนไลน์ จัดเก็บ-แพ็ค-ส่ง โดยมืออาชีพ

ในปัจจุบันนี้มีธุรกิจหลายรายนั้นไม่สามารถที่จะจัดการระบบภายใน เช่น การจัดการสต๊อกและการจัดการหลังร้าน รวมถึงการขายสินค้าหลากหลายช่องทาง ทำให้ไม่มีเวลาไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจของตัวเอง ทำให้ MyCloudFulfillment นั้นจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาด้วยบริการ ‘จัดเก็บ-แพ็ค-ส่งสินค้า’ แทนร้านค้า

โดยมีระบบให้ใช้งาน แบบออนไลน์เรียลไทม์ ซึ่งระบบของทาง MyCloudFulfillment ทำงานควบคู่กันคือ ระบบจัดการออเดอร์ OMS ที่เชื่อมต่อกับหลาย ๆ ช่องทางการขาย เช่น Marketplace อย่าง Lazada, Shopee หรือ เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซต่าง ๆ หรือการคีย์ออเดอร์เข้ามาที่ระบบ MyCloud System ซึ่งเป็นระบบที่ร้านค้าสามารถสร้างออเดอร์ได้อย่างง่าย ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ ในออเดอร์นั้นจะส่งมาที่ระบบจัดการคลังสินค้า WMS และทาง MyCloudFulfillment จะแพ็คและจัดส่งสินค้าให้เอง

จุดเด่นของ MyCloudFulfillment 

โดยทาง MyCloudFulfillment นั้นได้ให้บริการที่แตกต่างกับผู้ให้บริการอื่น ๆ  เพราะลูกค้าสามารถปรับแต่งแพ็คเกจจิ้งได้ตามต้องการและได้ตามแต่ละออเดอร์ได้ เช่น ออเดอร์นี้ต้องการให้ผูกโบ ใส่การ์ดขอบคุณ คูปองส่วนลด หรือเขียนโน้ต ทาง MyCloudFulfillment ก็สามารถทำให้ได้ และนอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อกับบริษัทขนส่งชั้นนำ ทำให้ได้เรทราคาพิเศษ เช่น ไปรษณีย์ และ SCG Express ทางบริการของ MyCloudFulfillment นั้นยังมีความยืดหยุ่นสูงสำหรับออร์เดอร์ที่ไม่คงที่ หากวันไหนมีออเดอร์น้อยหรือมีออเดอร์มาก ก็สามารถปรับความยืดหยุ่นตามจำนวนออร์เดอร์ที่เข้ามาได้

3. PEAK Online Accounting Software โปรแกรมบัญชีออนไลน์

PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยทำให้งานบัญชีเป็นอัตโนมัติมากที่สุด ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลบัญชีของตัวเอง และช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น โดย PEAK นั้นมีการให้บริการอยู่ 3 ส่วนคือ

1. บริการโปรแกรมบัญชีออนไลน์สำเร็จรูป ที่ลูกค้าสามารถเข้าใช้งานได้เองเลย 
2. บริการรับทำบัญชีครบวงจรที่ช่วยจัดการเรื่องบัญชี ภาษี รวมไปถึงช่วยหาผู้สอบบัญชีให้ด้วย ทาง PEAK นั้นมีพันธมิตรสำนักงานบัญชีที่พร้อมให้บริการกว่า 260 สำนักงานทั่วประเทศ 
3. บริการเชื่อมต่อระบบผ่าน API เพื่อบันทึกบัญชีอัตโนมัติ เพื่อช่วย ให้ธุรกิจ e-Commerce เติบโตได้โดยไม่ต้องกังวลงานหลังบ้าน ซึ่งในตอนนี้ PEAK มีกิจการที่ใช้งานรวมกว่า 5,000 กิจการ และจัดการเอกสารเดือนละกว่า 3 แสนฉบับ มูลค่ารวมกว่า 12,000 ล้านบาท

จะแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

ทาง PEAK นั้นจะช่วยแก้ Pain Point ของลูกค้าโดยช่วยจัดการงานเอกสารภายใน โดยทาง PEAK นั้นมีระบบเอกสารที่ช่วยในการสร้าง แก้ไข รวมไปถึง Customized เอกสารให้ได้ ช่วยออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือสร้างใบหัก ณ ที่จ่าย รวมไปถึงแบบภาษีและรายงานภาษีได้จากในโปรแกรมเลย รวมถึงยังช่วยให้ลูกค้าได้งบการเงินที่ถูกต้องและทันเวลา โดย PEAK ช่วยบันทึกบัญชี และจัดทำงบการเงินให้ได้เลย สามารถออกงบตอนไหนก็ได้ ไม่ต้องปิดงบ และสามารถตรวจสอบได้ง่าย

จุดเด่นของ PEAK

สำหรับจุดเด่นของ PEAK แล้ว อย่างแรกคือเรื่องของเทคโนโลยี ทางบริษัทได้มีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ในการช่วยทำระบบอัตโนมัติแบบที่อื่นไม่มี เช่น การใช้ AI, RPA และ API เพื่อช่วยลดเวลากระบวนการทำงานต่าง ๆ และ PEAK ยังเป็นเพียงไม่กี่แห่งที่ให้บริการ API และมีการลงทุนพัฒนาในส่วนนี้อย่างจริง ๆ ซึ่งยังเป็นโปรแกรมบัญชีออนไลน์ในไทยที่มีการเชื่อมต่อกับระบบต่าง ๆ มากที่สุด นอกจากนี้ PEAK ยังมีมีเครือข่ายพันธมิตรสำนักงานบัญชีที่ให้บริการมากที่สุดในประเทศกว่า 300 สำนักงาน รองรับเพื่อให้บริการลูกค้าด้านบัญชี

4. ZTRUS บริการแปลงเอกสารกระดาษเป็นรูปแบบดิจิทัล

เนื่องจากในปัจจุบันหลาย ๆ องค์กรนั้นมีเอกสารในรูปแบบกระดาษที่ค่อนข้างเยอะ และอยากที่จะลดจำนวนเอกสารตรงส่วนนี้ และเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลแทน ซึ่งทาง Ztrus นั้นก็ได้ให้บริการในการแปลงข้อมูลจากเอกสารที่เป็นกระดาษ เข้าไปอยู่ในรูปแบบดิจิตอล ด้วยกระบวนการ OCR (Optical Character Recognition) และ AI Technology ที่ออกแบบมาเพื่อประเภทเอกสารที่หลากหลาย โดยใช้เทคโนโลยีที่มีความสามารถในการเรียนรู้จากพฤติกรรมของมนุษย์ ในการเข้าใจรูปแบบเอกสารใหม่ ๆ และดึงข้อมูลจากกระดาษออกมาได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถที่จะทำการดึงข้อมูลจากเอกสารกึ่งโครงสร้าง (Semi-structured) หรือเอกสารที่มีโครงสร้างหลากหลายแต่มีข้อมูลสำคัญชุดเดียวกัน เพื่อให้ลูกค้านั้นได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และคุ้มค่าที่สุดในการทำงาน โดยบริการของ Ztrus นั้นเหมาะกับลูกค้าอย่างสถาบันการเงิน สถาบันการศึกษา ธุรกิจประกันภัย หน่วยงานภาครัฐ บริษัทเอกชน และบริษัทมหาชนขนาดกลาง

จุดเด่นของ ZTRUS

สำหรับบริการจาก Ztrus แล้วจุดเด่นหลัก ๆ นั้นจะอยู่ที่ความแม่นยำของระบบ ด้วยเทคโนโลยีที่สามารถรองรับความแม่นยำสูงถึง 93% และยังสามารถที่พัฒนาขึ้นไปได้อีกหลัง AI นั้นได้เรียนรู้ประเภทของเอกสารต่าง ๆ เพิ่มเติม นอกจากนี้ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ให้ความรวดเร็วมากกว่าการใช้พนักงานในการคีย์ข้อมูลเข้าระบบได้ถึง 10 เท่านั้นทำให้บริการของ Ztrus นั้นมีความคุ้มค่า ประหยัดค่าใช้จ่ายและประหยัดเวลา รวมถึงยังสะดวกสบายและปลอดภัยด้วยระบบของ Ztrus ที่ทำให้ลูกค้านั้นสามารถทำงานได้แบบลื่นไหลไม่มีติดขัดและยังสบายใจด้วยความปลอดภัยที่รัดกุมอีกด้วย

สุดท้ายนี้ สามารถติดตามรับชมรายการสด Startup Thailand Marketplace is LIVE now. ได้ทุกวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ เวลา 17.00-18.00 น.หรือรับชมย้อนหลังได้ทาง Facebook: Startup Thailand