รู้จัก 4 ตัวช่วยจาก Startup ไทย ปรับธุรกิจสู่ดิจิทัล ตอบรับกระแส New Normal | Techsauce

รู้จัก 4 ตัวช่วยจาก Startup ไทย ปรับธุรกิจสู่ดิจิทัล ตอบรับกระแส New Normal

การเกิดขึ้นของ COVID-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลกมีการปรับเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ทั้งเรื่องการปรับเปลี่ยนไปทำงานที่บ้าน, พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอย, กิจกรรมระหว่างกักตัวอยู่ที่บ้าน, การดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากไวรัส ซึ่งสิ่งที่ทำกันอยู่ในช่วงล็อกดาวน์นั้นก็ได้ปรับเปลี่ยนกลายมาเป็นความเคยชินหรือที่เรียกกันว่า “New Normal” และมีแนวโน้มจะกลายเป็นพฤติกรรมใหม่ ทำให้หลากหลายธุรกิจต้องการที่จะปรับตัวเข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้น เพื่อที่จะตอบรับกับความต้องการใหม่ ๆ จากสังคม

ซึ่งทางสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับเหล่า Startup ทั้ง 4 ท่านที่มีบริการที่จะช่วยให้การปรับธุรกิจสู่ดิจิทัลนั้นง่ายและสะดวกมากขึ้นในรายการ Startup Thailand Marketplace 

4 Startup ช่วยปรับธุรกิจสู่ดิจิทัล

1. HAPPEN

Happen บริษัทด้านเทคโนโลยีการจัดการงานอีเวนต์ ประชุมและสัมมนาแบบครบวงจร ทั้งระบบหน้างานแบบออฟไลน์-ออนไลน์ และระบบเสมือนจริง (Virtual Event) โดยเน้นการจัดทำแพลตฟอร์มเพื่อลูกค้าองค์กรเป็นหลักและมีจุดหมายการขยายธุรกิจไปทั่วโลก โดยขณะนี้มีทั้งลูกค้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เช่น United Nations, IKEA, PWC, ธนาคารแห่งประเทศไทย, Nestle, LINE และ PTT เป็นต้น ซึ่งการให้บริการของ Happen นั้นให้ประสบการณ์ที่ลึกกว่าเรื่องการจัดงาน เป็นการเก็บข้อมูลผู้เข้าชมจนครบ Journey และเป็น All in One Event Technology

ซึ่ง Happen นั้นเป็น Software As a Service แบบครบวงจรด้านอีเวนต์ทั้งในส่วนของการบริหารจัดการอีเวนต์แบบออฟไลน์ และออนไลน์ ซึ่ง Happen นั้นยังเป็นผู้ให้บริการ Virtual Event Platform ที่มีประสบการณ์ Interactive Features เต็มรูปแบบทั้งอีเวนต์ Website และ Application, Business Matching, Live Streaming, Q&A, Polling, Business Networking และ E-Commerce

จุดเด่นบริการของ HAPPEN

Happen เป็น White-Lable Platform ที่มีความปลอดภัยสูง Certified โดย GDPR มาตรฐานความปลอดภัยระดับประเทศ โดยมีจุดเด่นของ Technology ในด้าน Communication, Engagement, Data Analytics และ Event Listening โดยเทคโนโลยีที่ใช้แบ่งเป็น 4 ส่วนหลักด้วยกันได้ แก่

  1. ระบบลงทะเบียนออนไลน์ที่ตอบรับการลงทะเบียนได้หลากหลาย เช่น ลงทะเบียนเข้าชมโดยเพียงแค่กรอกรหัสผ่านหรือรหัสพนักงาน
  2. ระบบการชมอีเวนต์ออนไลน์ที่สามารถสร้างเว็บไซต์และ Application ได้ภายใน 5 นาทีเพียงแค่ Drag & Drop ข้อมูล พร้อมระบบ Live Streaming และยังสามารถดูย้อนหลัง
  3. ระบบจับคู่ธุรกิจที่เชื่อมผู้ร่วมงานที่มีความสนใจคล้าย ๆ กัน มาคุยกันบนโลกออนไลน์ ทำให้ผู้เข้าร่วมงานสัมผัสประสบการณ์เหมือนได้มางานอีเวนต์จริง และพบปะสื่อผู้คนที่มีความสนใจเหมือนกันซึ่งนำไปสู่การทำธุรกิจ และระบบยังสามารถเปิดให้ทำการซื้อ-ขายของผ่าน Virtual Event ได้อีกด้วย
  4. ระบบการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่เราเก็บไว้โดยละเอียดมาวิเคราะห์พฤติกรรม เพื่อบูรณาการในการทำ Event Listening 
  5. เชื่อมต่อ E-commerce สามารถจัดอีเวนต์บนโลก Virtual และจำหน่ายสินค้า หรือให้ผู้เข้าร่วมงานจองโปรโมชั่นได้

2. NIPA

NIPA เป็น Technology Digital Marketing Agency ที่นำนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดออนไลน์พร้อมผลักดันการตลาดให้รวดเร็วฉับไวทันต่อสถานการณ์เสมอ ด้วยระบบ Agile Management โดยบริการของ NIPA นั้นมีอยู่ 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ

  1. ธุรกิจ Digital Marketing Agency มีบริการที่ครอบคลุมในการทำตลาดออนไลน์แบบ One-stop Service ตั้งแต่ การวิเคราะห์ธุรกิจ วางกลยุทธ์การลงโฆษณา และขึ้นโฆษณาพร้อม รายงานผลการโฆษณา นอกจากนี้ยังมี Innovate Solution อีกมากมาย เช่น Marketing Innovation, AI Chat และ CRM
  2. ธุรกิจ Cloud Computing บริการ Cloud Platform สำหรับธุรกิจออนไลน์ที่ลูกค้าสามารถบริหารจัดการทรัพยากรด้าน IT ได้ด้วยตนเอง โดยแบ่งเป็น Public Cloud, Hybrid Cloud และ Multi Cloud นอกจากนี้ยังมีบริการ Co-location และ Dedicated Server ที่เป็นการเช่าพื้นที่และวางเครื่อง Server บน Data Server ของเราเองอีกด้วย

NIPA จะแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

โดยบริการของ NIPA จะช่วยแก้ Pain Point ในด้านการโฆษณาออนไลน์ โดยให้คำปรึกษา ช่วยแก้ปัญหาและลดความยุ่งยากของการทำการตลาดออนไลน์ที่มีความสลับซับซ้อนให้เป็นเรื่องง่าย มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่าที่สุด และเมื่อ COVID-19 เข้ามา ทำให้ทุกองค์กรมองหาการลดต้นทุน NIPA CLOUD จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ SME เพราะไม่ต้องลงทุนด้านไอทีทั้ง Hardware และทรัพยากรบุคคล สามารถขยายตัวอย่างคล่องแคล่วและยกเลิกเมื่อไม่มีความจำเป็น

3. QueQ

QueQ เป็นแพลตฟอร์มที่พร้อมเข้าไปแก้ปัญหาความหนาแน่นในสถานที่ที่มีผู้ต้องการใช้บริการมาก ๆ ช่วยจัดการการใช้เวลาด้วยระบบที่มีประสิทธิภาพที่เหมาะสมกับแต่ละสถานที่ เช่น สถานที่ราชการ ธนาคาร ร้านอาหาร สถานพยาบาล และที่อื่น ๆ ที่เกิดปัญหา และยังช่วยสร้าง Social Distancing และ Carrying Capacity Control ให้กับทุก ๆ สถานที่ได้อีกด้วย

ซึ่งสำหรับในฝั่งผู้ให้บริการ ทาง QueQ นั้นมีระบบที่หลากหลายที่สามารถปรับให้เข้ากับการบริการในแต่ละสถานที่ได้อย่างสะดวก มีการติดตั้งที่รวดเร็ว และสามารถนำไปแก้ปัญหาการบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนของฝั่งผู้รับบริการ สามารถใช้งานได้โดยดาวน์โหลดแอพลิเคชัน จาก AppStore, PlayStore และ Huawei App Gallery ก็สามารถใช้บริการได้ทันที

QueQ จะแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

โดยบริการของ QueQ นั้นจะช่วยให้ผู้รับบริการของทุก ๆ สถานที่ที่มีความต้องการการใช้บริการสูง มีปัญหาที่เกิดจากการเสียเวลาในการรอคอยเป็นเวลานาน ซึ่งการคืนเวลาเหล่านั้นกลับไปให้ผู้ใช้บริการ เป็นการเพิ่มความสะดวก สามารถวางแผนการรับบริการ และลดความหนาแน่นในพื้นที่อันก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ซึ่งเป็นหนึ่งใน Pain Point ที่ใหญ่ระดับโลกในปัจจุบันเลยทีเดียว

4. UNICORN HOUSE

Unicorn House เป็น Digital Marketing Agency นั้นเกิดขึ้นมาเนื่องจากเป็นปัญหาของคนที่อยากเริ่มทำการค้าขาย Online แต่ไม่มีประสบการณ์ ซึ่งทาง Unicorn House และพาร์ทเนอร์นั้นมองเห็นถึงการที่จะเข้าไปสนับสนุนหรือว่าช่วยเหลือ SMEs เหล่านี้เพื่อให้มี Mindset กระบวนการคิด การทำงานและความเข้าใจที่ถูกต้อง พร้อมกับใช้เครื่องมือ Digital Platform ให้เหมาะสมธุรกิจ

ซึ่งบริการของ Unicorn House นั้นครอบคลุมตั้งแต่การทำ Content Marketing, รูปภาพ Ads Buying, Google-Facebook-LINE Ads และ LINE Official Account รวมถึงแพลตฟอร์มที่มาแรงอย่าง TikTok, Twitter หรือ LinkedIn นอกจากนั้นยังมี Platform Digital อย่าง Chatbot

Unicorn House จะแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

บริการของ Unicorn House นั้นจะเข้ามาช่วย SME หรือผู้ประกอบการที่ไม่รู้จะเริ่มยังไงภายใต้ยุค Digital Transformation เช่นนี้ ทาง Unicorn House จะช่วยดูการวางแผน และทำให้ธุรกิจนั้นสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และด้วยความยั่งยืนนี้ของผู้ประกอบการรายเล็กจะสามารถทำให้พวกเขานั้นสามารถเติบโตและอยู่รอด ไม่ใช่ช่วยเฉพาะแค่ตัวธุรกิจเองแต่รวมไปถึงระดับชุมชนและประเทศที่ทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ช่วยเหลือเศรษฐกิจให้มีเงินหมุนเวียนช่วยเหลือกันเองได้ในท้องถิ่นหรือในประเทศ

ซึ่งหลาย ๆ ประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งหรือฟื้นตัวได้เร็วจากเศรษฐกิจที่ซบเซาก็มาจากธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ประเทศเยอรมนี ที่มีสัดส่วนของธุรกิจขนาดเล็กและกลางค้ำจุนไว้ถึง 50% ของ GDP ในประเทศ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทยที่มีแต่ทุนใหญ่มากกว่า 70% ของประเทศ นั้นจะทำให้เวลาได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจะใช้เวลานานและฟื้นได้ยากมากกว่า

ติดตาม Startup ไทยที่มีโซลูชันและบริการดี ๆ ได้ใน “Startup Marketplace is Live Now” รายการที่จะช่วยสร้างช่องทางการตลาดให้กับ Startup ไทย ในช่วงสถานการณ์วิกฤต โดย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA และข้อมูลข่าวสารได้ที่

FB Page: Startup Thailand

FB Group: Startup Thailand Marketplace

บทความนี้เป็น Advertorial

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

OpenAI เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน ChatGPT วิเคราะห์-โต้ตอบวิดีโอได้แบบเรียลไทม์

OpenAI อัปเดทความสามารถ ChatGPT บนโหมดสนทนาด้วยเสียงหรือ Advanced Voice Mode สามารถวิเคราะห์และโต้ตอบจากวิดีโอได้แบบเรียลไทม์ นับเป็นการเปิดตัวฟีเจอร์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ในแคมเปญ...

Responsive image

Microsoft เปิดตัว Phi-4 โมเดล AI รุ่นใหม่ เน้นแก้โจทย์คณิตศาสตร์

Phi-4 ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด Small Language Model (SLM) มีขนาด 14 พันล้านพารามิเตอร์ ซึ่งเล็กกว่าโมเดลภาษาขนาดใหญ่อย่าง GPT-4 แต่ยังคงความรวดเร็วและต้นทุนการประมวลผลที่ต่ำกว่า และพร้...

Responsive image

เคอีเอ็กซ์ประกาศ การลาออกของซีอีโอ พร้อมตั้งผู้บริหารร่วม (Co-CEO) รับช่วงต่อ

บริษัท เคอีเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือแจ้งการลาออกจากตำแหน่งประธ...