5 เรื่องต้องรู้จาก WEF 2025 โดยคุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล | Techsauce

5 เรื่องต้องรู้จาก WEF 2025 โดยคุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล

World Economic Forum (WEF) 2025 ได้หยิบยกหลายประเด็นสำคัญที่กำหนดทิศทางโลก โดย กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล แม่ทัพแห่ง KBTG ได้สรุป 5 ปัจจัยหลักที่เราต้องรู้ ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA Digital Economy), Agentic AI และ Digital Trust, การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแรงงานโลก (Workforce Transformation), รวมถึง แนวโน้มพลังงานที่อาจเป็นข้อได้เปรียบของไทย

ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของ WEF ปีนี้คือความคืบหน้าของ Digital Economy Framework Agreement ที่มุ่งเชื่อมโยงเศรษฐกิจดิจิทัลของประชากร 600 ล้านคนในอาเซียน ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มมูลค่าจาก 1 ล้านล้านดอลลาร์ เป็น 2 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2030

Agentic AI & Digital Trust กำลังเปลี่ยนโลกการทำงาน

AI จะไม่ใช่แค่เครื่องมืออีกต่อไป แต่กำลังเป็น “ผู้ช่วย” สำคัญในองค์กร โดยแนวโน้มที่ถูกพูดถึงมากในปีนี้คือ Agentic AI หรือ AI ที่มีความสามารถในการตัดสินใจได้เอง

ในขณะเดียวกัน Digital Trust หรือความเชื่อมั่นในระบบดิจิทัลก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เมื่อ AI ถูกนำมาใช้มากขึ้น องค์กรต้องสร้างความไว้วางใจผ่าน AI Governance, AI Safety และ AI Guardrails เพื่อให้การใช้ AI เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

"อนาคตของ AI ไม่ใช่การแทนที่มนุษย์ แต่เป็นการเสริมศักยภาพ (Augmentation) ให้มนุษย์ทำงานร่วมกับ AI ได้ดียิ่งขึ้น" คุณระทิง เรืองโรจน์ พูนผลประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป กล่าว

โมเดล AI ดีอย่างเดียวไม่พอแล้ว ต้อง Transform ทั้งองค์กร

แม้การพัฒนา AI Model จะสำคัญ แต่มันมีผลต่อความสำเร็จเพียง 10% เท่านั้น อีก 20% มาจากการ Transform Process หรือการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้รองรับ AI และ 70% คือการ Change Management หรือการบริหารการเปลี่ยนแปลงแบบองค์รวม หากองค์กรพึ่งพา AI แต่ไม่เปลี่ยนกระบวนการทำงาน อาจเกิด Productivity Leakage หรือประสิทธิภาพรั่วไหลได้

AI & Quantum Computing คือตัวเร่งนวัตกรรมและการค้นพบทางวิทยาศาสตร์

WEF 2024 ยังเน้นย้ำว่า AI และ Quantum Computing จะช่วยเร่งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมได้อย่างมหาศาล องค์กรที่สามารถใช้เทคโนโลยีเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นผู้นำในยุคต่อไป

Workforce Transformation จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา

ยุคต่อไปงานจะไม่ได้ถูกกำหนดโดย "Job" หรือ "Role" แต่จะเป็น "Skill-Based" 

ซึ่งคุณกระทิงกล่าวไว้ว่า

  • ในอนาคตองค์กรจะ Lean มากขึ้น – ลดโครงสร้างที่ซับซ้อนและทำให้การทำงานคล่องตัวขึ้น
  • CEO ในอนาคตจะไม่ได้บริหารแค่ “มนุษย์” อีกต่อไป แต่ต้องบริหารทั้งคนและ AI Agent

องค์กรที่ยังยึดติดกับระบบเดิมอาจไม่สามารถแข่งขันได้ เพราะ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกภาคธุรกิจ

‘พลังงานไทย’ โอกาสที่ควรคว้าไว้ในยุค AI

อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงคือ "AI ใช้พลังงานมหาศาล" ทั้งไฟฟ้าและน้ำ ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพด้าน Access Energy สูงเมื่อเทียบกับหลายประเทศ นั่นหมายความว่า ไทยอาจมีข้อได้เปรียบในการพัฒนา AI และดึงดูดการลงทุนด้าน Data Center & Cloud Computing ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญที่ควรนำมาพิจารณา

อ้างอิง: tiktok

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

OpenAI จับมือกับ Kakao ขยายบริการ AI บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายใหญ่ของเกาหลีใต้

บริษัท Kakao Corp. และ OpenAI ได้บรรลุข้อตกลงในการนำ ChatGPT และบริการ AI อื่นๆ เข้าไปใช้งานในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของ Sam Altma...

Responsive image

Shein บุกอินเดียอีกครั้ง จับมือ Reliance Retail ค้าปลีกรายใหญ่ของอินเดีย กับความร่วมมือที่ต้องแลกมาด้วยเงื่อนไขที่เข้มงวด

Shein เกิดใหม่อีกครั้งในอินเดีย! หลังจากถูกแบนไปเกือบ 5 ปีจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างอินเดียและจีน Shein ได้กลับมาเปิดตัวอีกครั้งในอินเดีย จากการร่วมมือกับ Reliance Retail ค...

Responsive image

รักโลกต้องทำงาน 4 วัน ทั้งปลดล็อกชีวิตสมดุล และลดคาร์บอนปีละ 127 ล้านตัน

จะดีแค่ไหน หากการมีวันหยุดเพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์ ไม่เพียงแต่ทำให้ชีวิตสมดุลขึ้น แต่ยังช่วยรักษ์โลกได้อีกด้วย? รายงานล่าสุดเผยว่า การทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ไม่เพียงเพิ่มเวลาว่างถึง 50% ...