LINE TV ครบรอบ 5 ปีเตรียมขยายฐานผู้ชมทั่วประเทศ เพิ่ม Content ให้หลากหลายยิ่งขึ้น พร้อมเปิดตัวแอปพลิเคชัันบน Andriod TV และต่อยอดสู่ Apple TV ในอนาคต เตรียมสร้างฐานผู้ชมหน้าใหม่ และเพิ่มรายการพิเศษ

คุณกณพ ศุภมานพ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจคอนเทนท์ LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า LINE TV เติบโตมาได้ตลอด 5 ปีด้วยยอดผู้ชมกว่า 8,000 ล้านวิว จนครองตำแหน่งแพลตฟอร์มดูทีวีย้อนหลังอันดับหนึ่งในไทย โดยที่ผ่านมาการเติบโตของ LINE TV ประสบความสำเร็จผ่านการเป็นฟรี Content และยังเพิ่มเติมด้วย Content Original ที่เข้ามาสร้างความหลากหลายให้กับผู้ชมจนได้รับกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก 

โดยข้อมูลที่ผ่านมามีการแสดงให้เห็นถึงตัวเลขที่น่าสนใจดังนี้ 

• ผู้ชมใช้เวลากว่า 176 นาที หรือเกือบ 3 ชั่วโมงในการเข้าชม LINE TV 

• มีพันธมิตรในการสร้าง Content กว่า 220 ราย 

• มี Content รวมกว่า 1,000 Contents 

• ยอดผู้ชมสำหรับ Contents ยอดนิยมจะอยู่ที่ 250 ล้านวิว 

• รายการบันเทิงและวาไรตี้ต่างๆ มียอดผู้ชมรองลงมาที่ 70 ล้านวิว 

นอกจากนี้ ข้อมูลยังแสดงให้เห็นถึงพื้นที่ของผู้ชมที่มีความนิยม ซึ่งเป็นเมืองหลักๆ อย่างกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ๆ โดย 10 จังหวัดยอดนิยมคือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา สงขลา นครปฐม นครสวรรค์ ภูเก็ต และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งนี่ทำให้ LINE TV เริ่มมีการขยาย Content ให้เข้าถึงกลุ่มคนต่างจังหวัดมากขึ้น 

ปัจจัยที่จะช่วยให้ LINE TV ขยายฐานผู้ชมได้เร็วขึ้นคือการพัฒนารอบด้าน 

1. ความหลากหลายของคอนเทนต์  

2. การพัฒนาฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้ชมมากขึ้น ทั้งรองรับการสตรีมมิ่งขึ้นทีวีผ่าน Chromecast และเปิดให้ดาวน์โหลดแอพฯ LINE TV ใน Android TV

 3. การพัฒนาการระบบการค้นหาคอนเทนต์ให้ง่ายและรวดเร็ว โดยมีการเพิ่ม Tab ใหม่อีก 2 Tab คือ 

• 100 ล้านวิว Tab และ Movie Tab ซึ่ง 100 ล้านวิว Tab จะเป็น Tab ที่แสดงคอนเทนต์ยอดนิยมของ LINE TV ที่มั่นใจได้ในความสนุกและคุณภาพ  

• Movie Tab จะเป็น Tab เมนูการรับชมภาพยนตร์แบบเต็มเรื่อง จากพาร์ทเนอร์กลุ่มภาพยนตร์จำนวนมาก ที่เข้ามาช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ชมมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดจะเข้ามาช่วยยกระดับประสบการณ์ในการรับชมรายการจาก LINE TV ได้ดียิ่งขึ้น

ในส่วนฐานผู้ชมที่ LINE TV จะโฟกัสในการนำเสนอคอนเทนต์ให้เหมาะสม จะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ 

1.Youngster เป็นวัยรุ่นและวัยเรียน อายุ 14-25 ปี 

2. Premium Mass วัยทำงาน อายุ 21-34 ปี 

3.Segmented Users ซึ่งเป็นกลุ่มที่ครอบคลุมช่วงอายุกว้างตั้งแต่ 14-34 ปี แต่มีความชื่นชอบคอนเทนต์ที่มีลักษณะเฉพาะทั้งรูปแบบและเนื้อหา   

4. Mass เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด โดยครอบคลุมอายุ 14- 45 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเป็นผู้ชมใหม่ โดยเน้นเนื้อหาที่ดูง่ายแบบครอบครัว ซึ่งนี่จะเป็นกลุ่มใหม่ที่ LINE TV ต้องการขยายฐานผู้ชม 

ช่วงเวลาที่มีผู้ชมรายการของ LINE TV มากที่สุดก็คือ 

15.00 – 18.00 น. ทั้งวันธรรมดาและสุดสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นถึงการเข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้าการรับชมรายการทีวีของ LINE TV เพราะในช่วงเวลาดังกล่าว ถือว่าเป็นช่วงที่คนดูทีวีปกติค่อนข้างน้อย ไม่ได้มีคอนเทนต์ปังๆ บนช่องทีวีมากนัก เพราะผู้ชมส่วนใหญ่ยังคงเดินทางอยู่นอกบ้าน LINE TV จึงสามารถเข้ามาช่วยทลาย Pain Point ในการรับชมของผู้ชมระหว่างเดินทาง หรือช่วงที่เริ่มมีเวลาว่างหลังเลิกเรียนหรือเลิกงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งคือสิ่งที่ LINE TV ต้องการจะบอกผู้ชมว่าทุกคนสามารถสร้างไพร์มไทม์ของตัวเองได้ และบอกกับผู้ผลิตคอนเทนต์และอุตสาหกรรมโฆษณาว่า คนดูไม่ได้เลิกดูรายการทีวี เพียงแต่เราต้องเข้าใจกับพฤติกรรมที่ใหม่ที่เป็น New normal ของผู้ชม ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของ LINE TV นอกจากนี้ยังมีช่วงเวลาที่น่าสนใจอย่าง 20:00 - 22:00 น. ที่เป็นช่วงกลับบ้านและ 12:00 - 14:00 น. ที่เป็นช่วงพักกลางวัน 

ที่ผ่านมาผู้ชมเข้าถึง LINE TV ผ่านหลากหลายช่องทาง อาทิ ผ่านทางแอปฯ LINE TV 52% LINE Ecosystem 24% Mobile App 14% ซึ่งทั้งหมดนี้บ่งชี้ได้ว่าผู้ชมชาวไทยนั้นมีการรับชมผ่านทางโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก อีกทั้งยังมีตัวเลขแสดงว่า 70% คือผู้ชมที่เข้ามาอย่างตั้งใจ อีกทั้งมีผู้เข้าชมในปัจจุบันกว่า 40 ล้านคนทั่วไทย ซึ่งเทียบสัดส่วนผู้ชมทีวีในไทยที่อยู่ที่ 55 ล้านคน 

ก้าวต่อไปของ LINE TV จะเริ่มมีการผลักดันการใช้งานทางจอใหญ่เพิ่มมากขึ้นซึ่งนี่จะช่วยให้ LINE TV เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนอีกด้วย โดยที่ผ่านมานี้ทาง LINE TV ก็ได้มีการเปิดให้ใช้ผ่านทาง CHROMECAST ด้วย ซึ่งเนื้อหาที่ได้รับนิยมก็คือ ละคร ซีรีส์ ซิทคอม อะนิเมชัน และรายการต่างๆ พร้อมเตรียม Content ใหม่ด้านกีฬา ดึงผู้ชมชายเข้าแพลตฟอร์มมากขึ้น 

ซึ่งคุณกณพ เชื่อว่า LINE TV จะตอบโจทย์ผู้ชมมากยิ่งขึ้นเพราะด้วยยุคที่เปลี่ยนไปทำให้การจัดการเวลาต่างออกไป การที่จะสามารถกำหนดช่วงเวลารับชมทีวีและรายการโปรดจึงนับว่าเป็นทางเลือกใหม่ที่เหมาะสมกับผู้คนในปัจจุบัน