Adobe ผู้สร้าง Software สำหรับงานสร้างสรรค์ชั้นนำ จัดงานสัมมนา Adobe MAX 2020 พร้อมเผยอัพเดทผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งใหญ่ ผสานการทำงานของ Cloud เข้ากับ Artificial Intelligence เสริมความแข็งแกร่งของ Solution ตัวชูโรง “Creative Cloud” และ Software ยอดฮิตอย่าง Photoshop, Illustrator ไปจนถึง Premiere Pro
Techsauce ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานแถลงข่าวออนไลน์ของ Adobe MAX 2020 จึงขอคัดเลือก 5 อัพเดทใหญ่ที่จะมีผลต่ออนาคตการทำงานสร้างสรรค์ในอนาคตให้ทุกท่านได้รับทราบกัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิดีโอเป็นสื่อที่ได้รับความนิยมอย่างสูงบน Platform อย่าง Smartphone ซึ่งข้อจำกัดของการรับชมสื่อเหล่านี้คือ บางสถานการณ์ เราไม่สามารถเปิดฟังเสียงสนทนาได้อย่างเต็มที่ การทำ Caption ประกอบเสียงพูดเลยมีส่วนช่วยให้ผู้ชมรับชมเนื้อหาได้อย่างเต็มประสบการณ์ และเพื่อให้งานของ Video Editor ง่ายขึ้น Adobe จึงพัฒนา Feature การแปลงเสียงพูดเป็นคำหรือ Speech-to-Text เต็มรูปแบบให้ใช้งานบน Premiere Pro โดยใช้พลังของ Sensei ซึ่งเป็น AI ที่พัฒนาโดย Adobe ทำการถอดเสียงพูดในคลิปออกมาเป็น Caption พร้อมใช้งานและดัดแปลงทันที
Augmented Reality เป็นอีกเทรนด์หนึ่งที่มีแนวโน้มจะเข้าแทนที่การแสดงผลแบบเดิมๆ ทำให้ Adobe จัดการอัพเดทใหญ่โปรแกรม Adobe Xd ซึ่งเป็นโปรแกรมออกแบบหน้าจอแสดงผล ให้สามารถทำงานแบบ 3 มิติได้ นักออกแบบจะสามารถออกแบบปุ่มหรือแถบแสดงผลที่มีความลึกและสร้างมุมมองใหม่ๆ เพื่อเปิดประตูสู่การใช้งาน Device ต่างๆ ในอนาคต
Augmented Reality ไม่ได้เป็นเทรนด์แค่ User Interface แต่เป็นโอกาสใหม่ๆ ของงานสร้างสรรค์รูปแบบต่างๆ ด้วย จึงเป็นที่มาให้ Adobe ประกาศนำ Adobe Aero โปรแกรมสร้างสรรค์ภาพแบบ AR มาใช้งานบน Desktop เต็มรูปแบบแล้ว หลังจากที่เปิดใช้งานบน iOS ตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งการยก Adobe Aero ขึ้นมาไว้บน Desktop จะเปิดโอกาสให้งานสร้างสรรค์แบบ AR แพร่หลายมากยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งเทรนด์ด้าน Hardware ที่น่าติดตามคือการประกาศหันมาพัฒนาชิปคอมพิวเตอร์สถาปัตยกรรม ARM ของ Apple ซึ่งมีผลต่อการพัฒนา Software และ Application โดยพื้นฐาน ทำให้ทาง Adobe ประกาศเพิ่มการพัฒนาโปรแกรมในปัจจุบันให้พร้อมรองรับการทำงาน ARM Chipset ได้ ซึ่งเป็นการการันตีอนาคตของ Platform จาก Adobe โดยตรง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการพัฒนา AI ใหม่ของ Adobe ทำให้การตัดต่อภาพแนบเนียนใกล้เคียงความเป็นจริงมากกว่าที่เคย ดังนั้น Adobe จึงร่วมมือกับสื่อและบริษัทเทคโนโลยี อาทิ BBC, The New York Times, Twitter, Microsoft, Qualcomm และอีกหลายราย ก่อตั้ง Content Authenticity Initiative ขึ้น โดยจะทำหน้าที่ใช้ AI แกะต้นทางภาพที่นำมา Retouch เพื่อยืนยันความจริงแท้ของภาพถ่าย ป้องกันการนำภาพตัดต่อไปใช้ประกอบเนื้อหาในทางที่ผิดหรือชี้นำว่าภาพดังกล่าวเป็นของจริง
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด