Adobe เผยวิสัยทัศน์และกลยุทธ์หลังเข้าซื้อกิจการ Magento ผู้ผลิตซอฟต์แวร์สำเร็จรูปที่ช่วยให้สร้างเว็บ E-Commerce ได้โดยง่าย ระบุเตรียมเสริมศักยภาพ Magento Commerce Cloud พัฒนาการค้าคอมเมิร์ซขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมสำหรับการค้าขาย
ก่อนหน้านี้ เมื่อปลายเดือนพฤาภาคมที่ผ่านมา Adobe ได้เข้าซื้อกิจการของ Magento ผู้ผลิตซอฟต์แวร์สำเร็จรูปที่ช่วยให้สร้างเว็บ E-Commerce ได้โดยง่าย โดยการซื้อกิจการครั้งนี้ใช้เงินจำนวน 1,680 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดจะมาช่วยเติมเต็มในเรื่อง E-Commerce Platform ทั้งในฝั่ง B2B และ B2C ที่ Adobe ยังขาดตรงนี้อยู่
ล่าสุด อะโดบี (Adobe) เผยวิสัยทัศน์และกลยุทธ์เพื่อสร้างประสบการณ์ซื้อ-ขายสินค้าและบริการที่มีประสิทธิภาพ เชื่อมแบรนด์ให้เข้าถึงทุกจังหวะสำคัญของลูกค้า ด้วยการผนึกกำลัง Magento Commerce Cloud ร่วมกับ Adobe Experience Cloud นำเสนอโซลูชั่นการจัดการคอนเทนต์ ความสามารถในการปรับแต่งรูปแบบเฉพาะแบรนด์เพื่อสร้างเอกลักษณ์ รวมทั้งระบบวิเคราะห์ข้อมูล ตอบโจทย์แบรนด์ที่ต้องการขยายโอกาสทางธุรกิจเข้าสู่ตลาดชั้นนำทั่วโลก นอกจากนี้ อะโดบียังได้เปิดตัวอัพเดตสำคัญของแพลตฟอร์ม Magento เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและเพิ่มความคล่องตัวแก่ผู้ประกอบการรายย่อยช่วยเพิ่มโอกาสสู่การเป็นผู้นำตลาดด้วยนวัตกรรมสำหรับการค้าขาย
ท่ามกลางสภาพการแข่งขันที่รุนแรงและความคาดหวังของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น แบรนด์ต่างๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญ คือ คุณภาพการให้บริการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแก่ลูกค้าในทุกขั้นตอนของการติดต่อสื่อสารทั้งออนไลน์และออฟไลน์ วิสัยทัศน์ของอะโดบีสำหรับระบบการค้าที่ขับเคลื่อนด้วยประสบการณ์มุ่งเน้นการเสริมสร้างขีดความสามารถให้แก่แบรนด์ต่างๆ เพื่อเข้าถึงประสบการณ์ลูกค้าแบบครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบเว็บไซต์ไปจนถึงการให้บริการซื้อ-ขาย รวมทั้งการสร้างแบรนด์เพื่อครองใจลูกค้า และแนวทางการขยายธุรกิจให้เติบโต
นายมาร์ค ลาเวลล์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการค้าของอะโดบี และอดีตซีอีโอของมาเจนโต้ (Magento) กล่าวว่า “ปัจจุบันผู้บริโภคต่างคาดหวังว่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพ ง่าย และตอบโจทย์ความต้องการได้ครบถ้วนจากทุกๆ การให้บริการของแบรนด์ ขณะที่แบรนด์ต่างๆ กลับประสบปัญหาในการมอบประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคลที่สอดคล้องกันผ่านช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย นวัตกรรมที่เรานำออกสู่ตลาดจะช่วยให้บริษัททุกขนาดในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมสามารถทำให้ทุกประสบการณ์เอื้อต่อการช้อปสินค้า”
ความสามารถสำหรับองค์กรขนาดใหญ่
การผนวกรวมระบบครั้งแรกระหว่างโซลูชั่นชั้นนำของอะโดบีสำหรับการจัดการเนื้อหาคอนเทนต์ การปรับแต่งแบบเฉพาะบุคคล และการวิเคราะห์ข้อมูลใน Adobe Experience Cloud กับ Magento Commerce Cloud พร้อมใช้งานแล้ว และจะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถ:
- สร้างสรรค์ประสบการณ์ช้อปปิ้งที่น่าดึงดูดใจอย่างมาก: การผนวกรวมเข้ากับ Adobe Experience Manager ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถสร้างและจัดการประสบการณ์ช้อปปิ้งได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านทุกช่องทางการติดต่อในทุกขั้นตอนการดำเนินการของลูกค้า
- ปรับแต่งทุกประสบการณ์ให้สอดรับกับบุคคล: การผนวกรวมเข้ากับระบบ Adobe Target ที่ขับเคลื่อนด้วย Adobe Sensei ซึ่งเป็นเทคโนโลยี AI และ Machine Learning ของอะโดบี จะช่วยให้บริษัทต่างๆ ปรับแต่งและนำเสนอประสบการณ์ช้อปปิ้งที่มีความเกี่ยวข้องตามบริบท ส่งผลให้ลูกค้าเกิดความภักดีต่อแบรนด์ และธุรกิจแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- คาดการณ์ความต้องการของลูกค้า: การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ใน Adobe Analytics ซึ่งขับเคลื่อนด้วย Adobe Sensei จะช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เพื่อค้นหาแบบแผน และคาดการณ์พฤติกรรมในอนาคตของลูกค้า เพื่อตรวจจับปัญหาท้าทายที่อาจเกิดขึ้น เช่น ความต้องการแบบพิเศษในการจัดส่งสินค้า หรือสินค้าขาดสต็อก และสามารถเปลี่ยนวิกฤติให้กลายเป็นโอกาสได้อย่างเหมาะสม
นายจอร์แดน จีเวลล์ นักวิเคราะห์อาวุโสของ IDC กล่าวว่า “การผนวกรวมระบบ Magento Commerce Cloud เข้ากับ Adobe Experience Cloud นับเป็นการพลิกเกมครั้งสำคัญสำหรับลูกค้าของอะโดบีและมาเจนโต้ การผนึกกำลังร่วมกันของมาเจนโต้และอะโดบีจะช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถสร้างจุดขายที่แตกต่างด้วยการนำเสนอประสบการณ์ด้านการค้าที่มุ่งเน้นลูกค้าและมีการปรับแต่งแบบเฉพาะบุคคลอย่างเหมาะสม และใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกเพื่อมอบประสบการณ์ที่สอดรับกับบริบท ดึงดูดลูกค้า เป็นไปตามกรอบเวลาที่เหมาะสม และเอื้อต่อการซื้อสินค้า โดยครอบคลุมทุกขั้นตอนการดำเนินการของลูกค้า ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดดิจิทัลคอมเมิร์ซในปัจจุบัน องค์กรทุกขนาดและทุกรูปแบบจำเป็นที่จะต้องมองหาหนทางที่จะนำเสนอประสบการณ์ด้านการค้าที่ไร้รอยต่อและดึงดูดลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ความสามารถสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMB)
รีลีสล่าสุดของแพลตฟอร์ม Magento ซึ่งรองรับระบบ Magento Commerce Cloud ผสานรวมคำแนะนำที่สำคัญจากชุมชนผู้ใช้และนักพัฒนา และนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เหนือชั้น โดยจะช่วยให้ผู้ค้าและนักพัฒนาสามารถ:
- สร้างเนื้อหาเว็บไซต์ที่น่าดึงดูดใจอย่างรวดเร็ว: นักการตลาดออนไลน์ในปัจจุบันต้องการมีบทบาทโดยตรงในการพัฒนาประสบการณ์สำหรับไซต์ออนไลน์ และต้องการที่จะเข้าถึงเครื่องมือด้านการสร้างคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้สามารถออกแบบ ทดสอบ และเปิดตัวคอนเทนต์ใหม่ๆ บนเว็บไซต์ได้อย่างต่อเนื่อง PageBuilder คือเครื่องมือสำหรับการแก้ไขคอนเทนต์บนเว็บไซต์แบบ drag-and-drop ที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ค้าสามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ช้อปปิ้งระดับชั้นนำ โดยไม่มีข้อจำกัดด้านงานครีเอทีฟ และไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากนักพัฒนา แบรนด์ที่ต้องการสร้างและเผยแพร่คอนเทนต์ผ่านหลากหลายช่องทาง รวมถึงการจัดการวงจรการใช้งาน จะสามารถใช้ประโยชน์จากการผนวกรวมระบบเข้ากับ Adobe Experience Manager
- สร้างสรรค์ประสบการณ์โมบายล์ที่มีประสิทธิภาพ: ขณะที่โมบายล์คอมเมิร์ซมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แบรนด์ต้องประสบปัญหาเรื่องอัตราการซื้อสินค้าที่ลดลง และความยุ่งยากซับซ้อนในการสร้างและจัดการประสบการณ์หลากหลายรูปแบบผ่านช่องทางที่หลากหลาย โซลูชั่น Magento Progressive Web Applications (PWA) Studio จะช่วยให้แบรนด์และนักพัฒนาสามารถสร้างประสบการณ์โมบายล์ที่รวดเร็ว ไว้ใจได้ และน่าดึงดูดใจ เพื่อกระตุ้นการซื้อและผลักดันการมีส่วนร่วมของลูกค้า
- เพิ่มความคล่องตัวในการชำระเงินและการบริหารความเสี่ยง: แบรนด์มักจะประสบปัญหาในการปรับใช้บริการใหม่ๆ สำหรับการชำระเงินและดิจิทัลวอลเล็ต และสร้างความไม่พอใจให้แก่ลูกค้าในขั้นตอนชำระค่าสินค้า ด้วยการเปิดตัวระบบ Magento Payments ตอนนี้แบรนด์จะสามารถรับชำระเงินจากลูกค้าได้ทันที ทั้งยังสามารถทำการประมูลสินค้าได้อย่างเหมาะสม จัดการการดำเนินงานได้อย่างง่ายดาย และป้องกันความเสียหายจากการปลอมแปลงและการขอคืนเงิน
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ: มาเจนโต้ผนวกรวมระบบเข้ากับช่องทางการขายของ Amazon เพื่อให้แบรนด์สามารถซิงค์ร้านค้าบน Magento ได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่อขยายขอบเขตการเข้าถึงลูกค้า และโปรโมต ขาย และจัดส่งสินค้าผ่านหลากหลายช่องทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนการผนวกรวมระบบเข้ากับ Google Merchant Center และช่องทางโฆษณาสำหรับ Google Smart Shopping Campaigns จะช่วยให้ผู้แบรนด์สามารถสร้างและโฆษณาแคมเปญภายใต้แบรนด์ของตนเอง
- ปรับปรุงประสิทธิภาพและประโยชน์ใช้สอย: การเปิดตัว Bulk APIs และ Asynchronous APIs ช่วยปรับปรุงประโยชน์ใช้สอยและประสิทธิภาพของการผนวกรวมระบบเข้ากับ Magento ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงการลงทุนอย่างจริงจังใน Magento Open Source ซึ่งมีความสามารถสำคัญๆ เช่น Multi-Source Inventory, PWA และ GraphQL รวมไปถึง ElasticSearch และ Rabbit Message Queues
- เพิ่มความคล่องตัวในการจัดการข้อมูลผลิตภัณฑ์และการรีวิว: ด้วยการเพิ่มเติม Akeneo PIM และการจัดเรตติ้งและการรีวิวสินค้าของ Yotpo ให้กับโครงการ Magento Premier Technology Partner ผู้ค้าจะสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลสินค้าที่มีคุณภาพสูง และการรับรองทางโซเชียล เพื่อเพิ่มอัตราการซื้อสินค้า และลดยอดการส่งคืนสินค้า
- วิเคราะห์และปรับปรุงประสบการณ์ช้อปปิ้ง: ความสามารถด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและการปรับแต่งสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ตอนนี้ขยายไปสู่ธุรกิจขนาดเล็ก อะโดบีได้ผนวกรวม Launch เข้ากับเทคโนโลยีของ Magento ช่วยให้ผู้ค้าสามารถวิเคราะห์ข้อมูลการค้าได้อย่างรวดเร็ว และปรับแต่งประสบการณ์ช้อปปิ้งได้อย่างเหมาะสม