นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงเตรียมหารือกับเว็บไซต์ Agoda.com ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจองห้องพักในโรงแรมที่มีเครือข่ายมากสุดในโลก ในเรื่องการทำตลาดด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะประเด็นการไม่ให้ Agoda กดราคาห้องพักกับผู้ประกอบการ และอยากให้เป็นอิสระตามกลไกตลาด
หลังจากที่ผ่านมาพบว่า Agoda จะมีข้อตกลงกับผู้ประกอบการโรงแรมว่า ผู้ที่จะมาลงลิสต์รายชื่อให้บริการเช่าห้องพักผ่านเว็บไซต์นั้น ต้องตั้งราคาที่ Agoda ถูกสุดเท่านั้น ทำให้ผู้ประกอบการไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และเสียโครงสร้างด้านราคา
พร้อมกับหารือเรื่องตรวจสอบรายชื่อของห้องพักในกลุ่มของโรงแรมผิดกฎหมายและถูกกฎหมาย ซึ่งกระทรวงจะขอความร่วมมืออโกด้าให้พิจารณาเลือกเฉพาะโรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเข้าไว้ในระบบ เชื่อว่าระยะยาวจะเปลี่ยนแปลงได้
ที่มา มติชนออนไลน์
ยิ่งช่วงนี้บ้านเรากำลังมีดราม่ากรณี Grab/Uber กำลังถูกกดดันให้ปิดตัว และมีผู้บริโภคจำนวนมากออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย กรณีของ Agoda จึงเป็นเหมือนภาคต่อของข้อถกเถียงในครั้งนี้ ว่าสรุปแล้ว รัฐบาลจะให้การสนับสนุนกับแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น จริงหรือเปล่า? และจะนำกฏเกณฑ์เรื่องเพดานราคา มาใช้กับโลกออนไลน์อันกว้างขวางอย่าง E-commerce หรือ?
สำหรับกรณีของ Agoda นั้น ฝั่งผู้ไม่เห็นด้วย มีการมองว่ากรณีเรื่องของกลไกราคา ราคานั้นเกิดจากผู้ประกอบการตัดสินใจตั้งเอง และเกิดจากการแข่งขันเพื่อชิงความสนใจจากผู้บริโภค ผู้บริโภคจึงได้ประโยชน์ และไม่ควรเป็นความผิดของแพลตฟอร์มอย่าง Agoda หากเขาทำออกมาได้ดี มีการการันตีในหลายๆ เรื่อง ตอบโจทย์ผู้บริโภค จนทำให้ธุรกิจนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก
ในขณะเดียวกัน ในฝั่งผู้ที่เห็นด้วยนั้น ก็มองว่าฝั่งผู้ประกอบการในปัจจุบันมีการแข่งขันทางราคาที่สูงมาก และ Agoda หรือเว็บไซต์ต่างๆ ก็เป็นหนึ่งในเชื้อเพลิงที่ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคา
มีผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ได้ให้ข้อมูลกับเราตามนี้
4-5 ปีที่ผ่านมา มีปัญหาแบบนึงเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมนี้ คือ Agoda ใช้เงินซื้อ ads พร้อมทั้งวิธีการทำ SEO ที่ทำให้ Agoda ขึ้นมาก่อนเว็บของโรงแรม แทนที่คนจะจองกับโรงแรม กลับไปจองผ่าน Agoda ซึ่ง Agoda เรียกถึง 35% และสั่งห้ามโรงแรมขายราคาต่ำกว่า ถ้าผิดกฏจะเอาออกจาก Agoda ซึ่งจะเสียลูกค้ามหาศาล เลยเกิดเป็น Agoda crisis ที่ทำลายธุรกิจ เคสนี้ไม่เหมือน uber โรงแรมไม่ผิด แต่ agoda ใช้เทคโนโลยีที่เหนือกว่า ตัดช่องทางและเรียกค่า commission โรงแรมมากกว่า 50% ในประเทศไทย เว็บของตัวเองอยู่ต่ำกว่า agoda บน Google Search Result
แล้วคุณผู้อ่านล่ะ มีความคิดเห็นอย่างไร? แล้วคิดว่าการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องที่สุดควรเป็นอย่างไร?
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด