Alipay+ เผยข้อมูลเชิงลึก พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยน! หันใช้แอปจ่ายเงินข้ามประเทศ นิยมใช้จ่ายเพื่อสัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่น
อาลีเพย์พลัส (Alipay+) ภายใต้ แอนท์ อินเตอร์เนชันแนล (Ant International) แพลตฟอร์มการชำระเงินและบริการดิจิทัลระดับสากล เผย 3 เทรนด์การท่องเที่ยวสำคัญ ที่ส่งผลให้ยอดการใช้จ่ายผ่าน Alipay+ เพิ่มขึ้นสามเท่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2567 พร้อมชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป โดยลดการใช้จ่ายในการช้อปปิ้ง และหันมาเน้นประสบการณ์ท้องถิ่นมากขึ้น
คุณดักลาส ฟีกิน, ประธาน, แอนท์ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า การท่องเที่ยวเป็นเสาหลักสำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจึงต้องก้าวให้ทันโลกด้วยนวัตกรรมและความร่วมมือ Alipay+ มุ่งมั่นพัฒนาโซลูชันเพื่อเชื่อมโยงผู้บริโภค และธุรกิจเข้าด้วยกัน ผ่านบริการชำระเงินข้ามประเทศ การชำระเงิน ณ จุดหมายปลายทาง และบริการด้านไลฟ์สไตล์ เพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทาง และสร้างการเดินทางรูปแบบใหม่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
1. นักท่องเที่ยวนิยมใช้แอปชำระเงินจากประเทศของตนเองในการซื้อสินค้าหรือบริการในต่างประเทศมากกว่าการใช้ช่องทางการชำระเงินท้องถิ่น
Alipay+ ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้แอปจากประเทศของตัวเองในการชำระเงินซื้อสินค้าหรือบริการที่ต่างประเทศ และจากการขยายเครือข่ายผู้ประกอบการร้านค้าที่รับชำระเงิน รวมถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้จำนวนการชำระเงินผ่านระบบของ Alipay+ ทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน อีกทั้งการใช้จ่ายผ่านระบบของ Alipay+ ยังช่วยเสริมประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวในต่างแดนให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้จ่ายได้เหมือนคนในท้องถิ่น
ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2558 แอป Alipay ที่ใช้งานในกลุ่มผู้ใช้ชาวจีน และแอปที่เป็นพันธมิตรของ Alipay+ สามารถใช้จ่ายเพื่อชำระเงินที่ร้านค้ามากมายทั่วโลก และจำนวนร้านค้าที่รับชำระด้วย Alipay และ Alipay+ ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผู้ให้บริการชำระเงินผ่านมือถือจากทั่วโลกที่เข้ามาเป็นพันธมิตรกับ Alipay+ มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยจากข้อมูลยังพบว่า จำนวนผู้ใช้แอปชำระเงินผ่านระบบของ Alipay+ ในช่วงเก้าเดือนที่ผ่านมาของปี พ.ศ. 2567 มีเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัว อีกทั้งจำนวนครั้งของการชำระเงินก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า
ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 รายงานว่า Alipay+ มีพันธมิตรด้านการชำระเงินอันได้แก่ ธนาคารชั้นนำ และพันธมิตร E-Wallet ในทวีปเอเชีย มากกว่า 30 ราย โดยสามารถเชื่อมโยงผู้ใช้งานกว่า 1.6 พันล้านคนเข้ากับผู้ประกอบการ 90 ล้านราย ใน 66 ประเทศทั่วโลก
ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยว Alipay+ กำลังทำการขยายเครือข่ายผู้ค้าอย่างต่อเนื่องโดยมีโครงการ QR ทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจทุกขนาดอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะสำหรับ SMEs ตัวอย่างเช่น ผ่าน DuitNow QR ของ PayNet ในมาเลเซีย Alipay+ รายงานว่า จำนวนธุรกรรมมีการเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 142% ต่อไตรมาสในช่วงเก้าเดือนแรกของปีพ.ศ. 2567 โดยความสะดวกในการทำธุรกรรมผ่าน Alipay+ ยังช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมเมืองเล็กๆ ได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้จำนวนธุรกรรมในเมืองเหล่านี้เพิ่มขึ้น เช่น เมืองโกตา กินาบาลู เซลังงอร์ และปีนัง
จากข้อมูลยังพบว่า นักท่องเที่ยวใช้แอปชำระเงินจากประเทศของตนเองในการซื้อที่พักบนแพลตฟอร์มให้บริการจองที่พักและบริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำผ่านระบบของ Alipay+ โดยการใช้บริการดังกล่าวส่งผลให้ จำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นอกจากนี้ Alipay+ ยังได้รับการยอมรับบนแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวอื่น ๆ รวมถึงสายการบินชั้นนำ อาทิ การบินไทย มาเลเซียแอร์ไลน์ และแอร์เอเชีย รวมถึงโรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อีกด้วย
2. นักท่องเที่ยวใช้จ่ายไปกับการซื้อประสบการณ์ท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น
พันธมิตรการชำระเงินของ Alipay+ ประกอบด้วยแอปชำระเงินชั้นนำจากทั่วเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น Alipay (สาธารณรัฐประชาชนจีน), AlipayHK (ฮ่องกง), Touch ‘n Go eWallet (มาเลเซีย), GCash (ฟิลิปปินส์), KakaoPay, Toss Pay และ Naver Pay (เกาหลีใต้), OCBC (สิงคโปร์), TrueMoney (ไทย) และอื่น ๆ นักท่องเที่ยวชาวเอเชียเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางในภูมิภาคมากขึ้น โดยมีจำนวนธุรกรรม Alipay+ สูงสุดในสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น ไทย มาเก๊า และเกาหลีใต้
พฤติกรรมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนหลังจากการระบาดของโควิด-19 แม้ว่านักท่องเที่ยวจะใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยรวม แต่การใช้จ่ายในด้านการช้อปปิ้งกลับลดลง และหันมามุ่งเน้นที่การซื้อสินค้าและบริการเพื่อให้เข้าถึงการท่องเที่ยวที่ท้องถิ่นมากขึ้น เช่น การใช้จ่ายผ่านระบบ Alipay+ ในกลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 80% การใช้จ่ายเพื่อชำระค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 50% ขณะเดียวกัน การใช้จ่ายสำหรับการเดินทาง เช่น ค่ารถแท็กซี่ รถโดยสารประจำทาง และรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 120% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มในการสำรวจจุดหมายปลายทางอย่างอิสระ ปราศจากข้อจำกัดในการทำธุรกรรม
3. แอปการชำระเงินแบบครบวงจร (All-in-one payment apps ) กำลังมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเดินทาง
แอปการชำระเงินแบบครบวงจรกำลังกลายเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวเอเชีย เนื่องจากมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เช่น TrueMoney ซึ่งเป็นพันธมิตรการชำระเงินของ Alipay+ ในประเทศไทย มีปริมาณธุรกรรมผ่าน Alipay+ เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของการชำระเงินแบบดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียที่เป็นผู้นำด้านการชำระเงินผ่านมือถือ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่เพียงภูมิภาคเอเชียเท่านั้น โดยในภูมิภาคอื่น ๆ เช่น ยุโรป ก็มีการนำโซลูชันการชำระเงินผ่านมือถือมาใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากการเปิดตัวกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ Tinaba ในประเทศอิตาลี และโซลูชันเทคโนโลยีที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่าง Bluecode ในยุโรป
พันธมิตร E-wallet และผู้ประกอบการที่รับชำระเงินผ่านเครือข่ายของ Alipay+ เริ่มหันมาใช้ฟีเจอร์ตัวช่วยต่าง ๆ ที่ Alipay+ นำเสนอเพื่อมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้นให้แก่ผู้ใช้งาน โดยมีเป้าหมายในการมอบบริการที่ไร้รอยต่อ และสร้างความสะดวกสบายในทุกขั้นตอนของการเดินทาง
สำนักงานการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการร้านค้าสามารถใช้ฟีเจอร์ A+Rewards ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการตลาด ที่ผู้ใช้สามารถปรับแต่งข้อมูลได้ตามความต้องการ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า และรายละเอียดการเดินทาง โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาดูได้ตั้งแต่ก่อนเดินทาง โดยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ระบบของ Alipay+ ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย รายงานจำนวนคูปองที่นักท่องเที่ยวใช้จาก A+Rewards เพิ่มขึ้น 53% ในปีพ.ศ. 2567
นอกจากนี้ ร้านค้าสามารถใช้ฐานข้อมูลผู้ใช้จากการเป็นพันธมิตรกับ Alipay+ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านบริการการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัล เช่น เพื่อชำระค่าเดินทาง สั่งซื้ออาหาร การคืนภาษี และอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น บริการแท็กซี่ FREENOW จากยุโรป ที่เพิ่งเปิดตัวมินิโปรแกรมบนแอปพลิเคชัน Alipay+ เพื่อเสริมสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้
การเติบโตของ Alipay+ สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมนักท่องเที่ยว ที่หันมาใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้แอปฯ ชำระเงินจากประเทศของตนเอง และให้ความสำคัญกับประสบการณ์ท้องถิ่น ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจึงควรปรับตัว นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวในยุคดิจิทัล
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด