
Anthropic ตัดสินใจปล่อยหมัดเด็ดส่งท้ายปีด้วยการเปิดตัวโมเดลเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ‘Claude Opus 4.5’ ที่ไม่เพียงแต่เคลมว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุดในเวลานี้ แต่ยังโชว์ผลทดสอบที่ทุบสถิติเดิมของคู่แข่งอย่าง Google อย่างราบคาบ โดยเฉพาะในงานด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์
จุดขายที่น่าจับตามองที่สุดของ Opus 4.5 คือความสามารถในการเขียนโค้ด จากผลการทดสอบ SWE-bench ซึ่งเป็นมาตรฐานวัดความสามารถด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของ AI พบว่า Opus 4.5 ทำคะแนนทะลุ 80% แซงหน้าแชมป์เก่าระยะสั้นอย่าง Gemini 3 Pro ของ Google ที่เพิ่งทำคะแนนไว้ที่ 76.2% เมื่อสัปดาห์ก่อน
Scott White หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Anthropic ถึงกับกล่าวอย่างมั่นใจว่า ‘โมเดลนี้ทำคะแนนได้สูงกว่ามนุษย์ทุกคน ในข้อสอบวิศวกรรมที่เราใช้คัดเลือกพนักงานเข้าบริษัทเสียอีก’ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า เส้นแบ่งความสามารถระหว่าง AI และมนุษย์ในงานเฉพาะทางเริ่มเลือนลางลงทุกที
แม้จะชูจุดเด่นเรื่องโค้ด แต่ Opus 4.5 ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่แค่หน้าจอ Terminal ทาง Anthropic นิยามว่านี่คือ ‘โมเดลที่ดีที่สุดในโลก’ สำหรับการขับเคลื่อนระบบ AI Agents และการสั่งงานคอมพิวเตอร์
ผลทดสอบยังชี้ให้เห็นว่า Opus 4.5 มีความโดดเด่นในด้านการแก้ปัญหาใหม่ๆ และการใช้งานเครื่องมือต่างๆ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการทำงานจริงที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและความไม่แน่นอน โดยโมเดลรุ่นใหม่นี้สามารถตัดสินใจและชั่งน้ำหนักทางเลือกต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง ลดภาระที่มนุษย์ต้องคอยกำกับดูแลลงอย่างเห็นได้ชัด
ในเชิงธุรกิจ Anthropic ไม่ได้มาเล่นๆ โดยมีการยกตัวอย่างความสำเร็จจาก Fundamental Research Labs ที่นำโมเดลนี้ไปใช้กับงาน Automation บน Excel พบว่าความแม่นยำเพิ่มขึ้นถึง 20% และประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมเพิ่มขึ้น 15%
นอกจากนี้ Anthropic ยังเดินหน้าปล่อยฟีเจอร์ใหม่เอาใจสายทำงาน ไม่ว่าจะเป็นส่วนเสริม Claude สำหรับ Chrome (Beta) ที่ขยายให้ผู้ใช้ Mac ทุกคนได้ใช้งาน และ Claude for Excel ที่เปิดให้ลูกค้าองค์กรระดับ Team และ Enterprise บน Mac ได้ทดลองใช้แล้ว
Claude Opus 4.5 จะถูกตั้งเป็นโมเดลเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้งานแพ็กเกจระดับสูง และเปิดให้เลือกใช้ได้สำหรับลูกค้า Pro, Team และ Enterprise ทันที ส่วนนักพัฒนาก็สามารถเข้าถึงผ่าน API หรือผ่านผู้ให้บริการ Cloud ยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon Bedrock, Google Vertex และ Microsoft Azure ได้เช่นกัน
การขยับตัวครั้งนี้ของ Anthropic ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า สงคราม AI ไม่ได้จบลงแค่ความฉลาดในการตอบคำถาม แต่กำลังมุ่งไปสู่ความสามารถในการ "ลงมือทำ" และแก้ปัญหาที่ซับซ้อนแทนมนุษย์ได้อย่างแท้จริง
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด