ปัญหา App Retention แอปพลิเคชันไม่ถูกใช้งานเกิดจากอะไรได้บ้าง? | Techsauce

ปัญหา App Retention แอปพลิเคชันไม่ถูกใช้งานเกิดจากอะไรได้บ้าง?

600px-8-UX-Pitfalls-To-Avoid-In-Mobile-App-Design

เคยรู้สึกบ้างไหมว่าแอปพลิเคชันต่างๆ ที่เราดาวน์โหลดกันมามากมาย จนบางทีก็เต็มพื้นที่เครื่องไปหมด นานวันเข้าเริ่มรู้สึกว่าไม่ต้องการแอปพวกนี้แล้ว แถมยังเปลืองเนื้อที่ เปลืองความจุอีกต่างหาก อะไรคือทางออกที่จะคืนชีพแอปพลิเคชันที่ถูกลืมเหล่านั้นให้เป็นที่รู้จักและถูกใช้อย่างสม่ำเสมอ? เลยเป็นที่มาของงานวิจัยในบทความนี้

จากการวิจัยของ Nielsen research เห็นได้ว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนในสหรัฐฯ เฉลี่ยประมาณ 30 ชั่วโมงต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงเลยทีเดียว อีกทั้งจะเห็นได้ว่าจากผลเฉลี่ยของผู้ใช้กลุ่มนี้ พวกเขาเล่นเพียง 1 ถึง 4 จากทั้งหมด 41 แอปพลิเคชันที่ถูกดาวน์โหลดและเก็บไว้ในเครื่อง และเป็นไปได้สูงที่แอปพลิเคชันบางตัวอาจจะถูกลบออกไปเพราะไม่ค่อยได้ใช้

nielsen_state-of-the-appnation-2012

เป้าหมายหลักของเราคือ ทำอย่างไรให้แอปพลิเคชันของเราขึ้นไปเป็น 1 ใน 4 แอปพลิเคชันที่คนใช้บ่อยที่สุด เพราะยิ่งคนใช้แอปพลิเคชันของเราเยอะขึ้น นั่นก็หมายความว่าแอปพลิเคชันของเรายังปลอดภัย ไม่ถูกลบออกจากเครื่อง อย่างแน่นอนและ

ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลให้คนตัดสินใจลบแอปพลิเคชันออกจากสมาร์ทโฟน ซึ่งจากการสำรวจของ Entrepreneur infographic พบว่า ร้อยละ 48 ของผู้ใช้สมาร์ทโฟน ลบแอปพลิเคชัน เพราะความล่าช้าในการใช้งานแอปพลิเคชันนั้นๆ และในเวลาเดียวกัน อีกร้อยละ 32 ที่กำลังมองหาแอปพลิเคชันอื่นที่สามารถตอบสนองการใช้งานเหมือนกัน แต่มีประสิทธิภาพดีกว่าและเร็วกว่า

1434144787-info

นักพัฒนาหลายท่านได้กล่าวไว้ว่า เป็นไปได้ยากมากที่จะทำให้แอปพลิเคชันใช้งานได้ดีและเร็วตลอดเวลา เพราะยังมีปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบให้แอปพลิเคชันทำงานได้ช้าลง เช่น คลื่นสัญญาณติดขัด หรือแบตเตอรี่ต่ำ ซึ่งอาจส่งผลทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชันลดลงได้เช่นกัน และทางฝ่ายพัฒนาไม่สามารถแก้ไขได้ด้วย แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงทำให้ผู้ใช้ยังคงเก็บและใช้งานแอปพลิเคชันนั้นอยู่ ก็คือประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับนั่นเอง

คำถามที่ตามมาก็คือ จะหลีกเลี่ยงอย่างไรไม่ให้แอปพลิเคชันถูกลบออกจากสมาร์ทโฟน? สิ่งที่สามารถตอบได้ก็คือทำให้ผู้ใช้งานเห็นถึงประโยชน์ที่พวกเค้าได้รับจากแอปพลิเคชันของเรามากที่สุด สร้างความโดดเด่นและความแตกต่างที่จะแสดงให้เห็นถึงเหตุผลว่า ทำไมพวกเขาต้องการแอปพลิเคชันนี้

Ben Leventhal CEO ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันของ “Resy” แอปพลิเคชันที่ช่วยเรื่องของการจองโต๊ะในร้านอาหารชื่อดัง ได้ให้สัมภาษณ์และตอบคำถามว่า ทำไมเขาสามารถรักษาแอปพลิเคชันบางตัวให้ใช้เป็นประจำได้ ซึ่งเขาบอกว่า “แอปพลิเคชันที่เขาใช้คือส่ิงที่ทำให้เขารู้สึกว่ามีเวทมนต์ เพราะไม่ว่าจะเสกให้มีรถมารับ หรือสามารถจองโต๊ะอาหารในร้านที่มีคิวยาวเหยียดได้ภายในครึ่งนาที หรือไม่ว่าจะติดตามข่าวจากอีกฟากของโลกที่กำลังเกิดขึ้น ณ เวลานั้น ก็ไม่ใช่ปัญหา ดังนั้นแอปพลิเคชันคือส่ิงที่ทั้งมีประโยชน์อย่างมากและเชื่อมต่อโลกเข้าไว้ในที่เดียว”

อีกตัวอย่างที่จะยกขึ้นมาก็คือ Born2invest เป็นแอปพลิเคชันที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารธุรกิจและการเงิน ที่มีเนื้อหาสั้นและได้ใจความ Dom Einhorn ผู้ก่อตั้งและ CEO รู้ว่า กลุ่มนักอ่านที่สนใจในเรื่องธุรกิจและการเงินคือกลุ่มเป้าหมายหลักของเขา และเขาก็ทำแอปนี้ให้ตรงตามความต้องการที่แน่นอนของผู้อ่าน และ Dom ก็ได้กล่าวไว้ว่า “คู่แข่งของเราทุกๆ คนดูเหมือนว่าจะพยายามเกาะติดอยู่กับแค่ข่าวสารที่เป็นภาษาอังกฤษ แต่ในขณะเดียวกัน เราสร้างเนื้อหาที่เจาะจง กระจ่าง และง่ายต่อการทำความเข้าใจ มากไปกว่านั้นเรายังสามารถแปลเนื้อหาได้มากกว่า 50 ภาษาทั่วโลก”

จากบทความนี้แล้ว เราสามารถบอกได้คร่าวๆ ว่า Startup มือใหม่หรือนักพัฒนาที่กำลังพยายามพัฒนาแอปเพื่อให้มียอดดาวน์โหลดเยอะขึ้น เป็นเรื่องดีที่ควรจะตั้งเป้าเอาไว้สูง ทว่าสิ่งนี้ยังไม่ใช่เป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายสำหรับพวกคุณ แต่มันคือการที่จะทำยังไงให้แอปพลิเคชันของเราเป็นที่ต้องการและถูกใช้อย่างสม่ำเสมอนั่นเอง

ที่มา: Tech In Asia

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน เป็นไปได้จริงด้วย AI ส่องโอกาสและความท้าทายที่ต้องรับมือ

กระแสการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่การจะก้าวไปสู่การทำงานรูปแบบใหม่นี้ได้จริง จำเป็นต้องมีปัจจัยสนับสนุนที่แข็งแกร่ง และหนึ่งในป...

Responsive image

กระทราง DOGE ใต้การดูแลของอีลอน มัสก์ ปลดพนักงานสำนักงานนิวเคลียร์สหรัฐฯ นับ 300 ชีวิต สั่นคลอนความมั่นคงชาติ

เจ้าหน้าที่กว่า 300 คนที่สำนักงานบริหารความมั่นคงนิวเคลียร์แห่งชาติ (NNSA) ถูกปลดออกจากงาน อันเป็นส่วนหนึ่งของการปลดพนักงานของกระทรวงพลังงาน จากการสนับสนุนของ DOGE โดยไม่ทันคิดให้ร...

Responsive image

อดีต CTO OpenAI เปิดตัว Thinking Machines Lab สตาร์ทอัพ AI แห่งใหม่

Mira Murati อดีต Chief Technology Officer (CTO) จาก OpenAI เปิดตัวสตาร์ทอัพใหม่ ชื่อว่า "Thinking Machines Lab" ซึ่งแน่นอนว่าจุดโฟกัสหลักยังคงอยู่ที่ AI...