จาก Lightning สู่ USB-C การต่อต้านสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Apple | Techsauce

จาก Lightning สู่ USB-C การต่อต้านสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Apple

จะเกิดอะไรขึ้นหาก Apple เปลี่ยนไปใช้สายชาร์จ USB-C ตามกฎของสหภาพยุโรป ผู้ใช้อย่างเราจะได้จะเสียอะไร และทำไม Apple ถึงต่อต้านการเปลี่ยนแปลงนี้มาตลอด 

Apple

ทำไม Apple ต้องเปลี่ยนไปใช้ USB-C

สหภาพยุโรปได้ออกกฎว่า ภายในวันที่ 24 ธันวาคม ปี 2024 สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดตั้งแต่ โทรศัพท์ แท็บเล็ต ไปจนถึงหูฟัง จะต้องใช้สายชาร์จไฟแบบ USB-C 

สาเหตุก็มาจากในปี 2020 มีการสำรวจว่าผู้บริโภคในสหภาพยุโรปซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประมาณ 420 ล้านเครื่อง โดยเฉลี่ยแล้วพวกเขามีที่ชาร์จสามเครื่องสำหรับชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และผู้บริโภคส่วนใหญ่ประสบปัญหาขาดแคลนที่พอร์ตชาร์จไฟที่รองรับในแต่ละอุปกรณ์ถึง 38% 

จนทำให้ในวันที่ 23 กันยายน ปี 2021 คณะกรรมาธิการยุโรปจึงเริ่มยื่นข้อเสนอในประเด็นนี้ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้บริโภคแล้ว ยังช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ถึง 12,125 ตัน ในยุโรป 

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ปี 2022 ซึ่งคณะมนตรีและรัฐสภายุโรปบรรลุข้อตกลงชั่วคราวในการรองรับการใช้ สายชาร์จแบบ USB-C ซึ่งได้รับการรับรองโดยตัวแทนของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ปี 2022

Apple ต่อต้านมาตลอด

Apple ถือเป็นบริษัทที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากกฎหมายดังกล่าวของสหภาพยุโรป ทำให้บริษัทมีความพยายามที่จะต่อต้านการแบนและควบคุมการใช้สายชาร์จแบบ Lightning ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท

Apple ได้เพิ่มฟังก์ชัน Made For iPhone หรือ MFi สำหรับการตรวจสอบของแท้หรือเทียมเพื่อ จำกัดอุปกรณ์หรือสายชาร์จสำหรับ iPhone พร้อมให้สิทธิ์การใช้งานแค่กับแบรนด์ที่เข้าร่วมเท่านั้น 

ในเรื่องของสายชาร์จ Apple ศึกษาเรื่องการทำพอร์ตชาร์จที่คล้ายกับ USB-C โดยจะมีชิปที่จำกัดทั้งอุปกรณ์และความเร็วในการชาร์จ ซึ่งผิดกฎของสหภาพยุโรปที่ห้ามทุกบริษัทจำกัดความเร็วในการชาร์จอย่างไม่สมเหตุสมผล 

จนทำให้ Thierry Breton กรรมาธิการยุโรปส่งจดหมายถึง Apple ตักเตือนการกระทำดังกล่าวและหากไม่หยุด Apple ก็จะต้องหยุดการขาย iPhone ใน 27 ประเทศ ทั่วยุโรป

Greg Joswiak หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Apple มองว่าการกระทำของสหภาพยุโรปอาจสร้างผลกระทบในเชิงลบต่อการออกแบบผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ในยุโรป 

แต่จนในที่สุด Apple ก็เริ่มมีท่าทียอมกับกฎของสหภาพยุโรปโดยมีรายงานออกมาว่าเมื่อช่วงต้นปี 2022 Apple เริ่มมีการทดสอบพอร์ตชาร์จแบบ USB-C กับ iPhone ที่ออกแบบมารองรับพอร์ตชาร์จดังกล่าว ซึ่งการเปิดตัว iPhone 15 ในวันที่ 13 กันยายน นี้จึงมีการคาดการณ์กันว่า Apple อาจมีการเปลี่ยนสายชาร์จจาก Lightning ไปเป็น USB-C หรือไม่โดยเริ่มจาก iPhone 15

สายชาร์จแบบ Lightning มีข้อดีข้อเสียอะไร

หากพูดถึงข้อดีข้อเสียสายชาร์จ Lightning ของ Apple ซึ่งจะพูดในมุมของผู้ใช้งาน 

ข้อดีของการใช้สายแบบ Lightning ก็คือ 

  1. ใช้ได้กับทุกผลิตภัณฑ์ iPhone เพราะรองรับฟังก์ชัน Made for iPhone
  2. เอกลักษณ์ที่ชัดเจนง่ายต่อการเลือกซื้อ
  3. ความเร็วในการชาร์จที่พอดี

ส่วนข้อเสียก็คือ 

  1. ราคาที่แพงเพราะต้นทุนการผลิตสูงและแบ่งตามความยาวของสายชาร์จ เช่น พอร์ตชาร์จความยาว 1 เมตร ราคา 790 บาท แต่ถ้าเป็น 2 เมตร ก็จะเริ่มที่ 1,290 บาท
  2. ความเร็วในการชาร์จที่ปัจจุบันสู้ USB-C ไม่ได้เนื่องจากไม่ได้รองรับ Thunderbolt 3 และ USB 3.1 กับ Fast Charge ถ้าเป็น Lightning แบบแท้ๆ ไม่ได้มีพอร์ตอีกด้านเป็น USB-C แบบในปัจจุบัน
  3. ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นที่ไม่ใช่ iPhone ไม่ได้
  4. การถ่ายโอนข้อมูลช้ากว่า USB-C

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ Apple เปลี่ยนมาใช้ USB-C

อันที่จริงอุปกรณ์ของ Apple หลายตัวเปลี่ยนไปใช้ USB-C กันหมดแล้ว เช่น iPad Air, iPad Pro และกลุ่มผลิตภัณฑ์ MacBooks จะมีก็แต่กลุ่ม iPhone ที่ยังไม่เปลี่ยน 

หาก Apple เปลี่ยนสายชาร์จจาก Lightning ไปเป็น USB-C มันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบทศวรรษ 

การเปลี่ยนแปลงนี้จะเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้งานใช้พอร์ตชาร์จร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆได้ทั้ง iOS และ Android ซึ่งนั่นอาจจะเป็นข้อกังวลของ Apple ที่กลัวว่าอาจทำให้ฐานลูกค้าเปลี่ยนใจไปใช้ผลิตภัณฑ์คู่แข่ง 

การเปลี่ยนไปใช้ใช้พอร์ตชาร์จแบบ USB-C จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของ Apple ในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนช่องเสียบและพอร์ตจาก Lightning เป็น USB-C มากขึ้น หรือมีการปรับแต่งฟังก์ชัน Made For iPhone ใหม่อีกครั้ง ทำให้ Apple เพิ่ม Ecosystem ให้กับอุปกรณ์เสริมของตนเอง 

อย่างไรก็ตามคงต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการของ Apple ในวันที่ 13 กันยายนนี้ตามเวลาประเทศไทยในงาน Apple Event Wonderlust ที่จะมีการเปิดตัว iPhone 15 ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์แรกที่ใช้พอร์ตชาร์จแบบ USB-C แบบ 100%

ที่มา : The Verge, Bloomberg, Laptopmag, Europarl, Cnet

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะลึก Sovereign AI สำคัญอย่างไร ? จากปาก Jensen Huang ในวันที่ ‘ข้อมูลไทย’ คือทรัพยากรใหม่

สำรวจบทบาทของ Sovereign AI ในการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย พร้อมคำอธิบายจาก Jensen Huang CEO ของ NVIDIA เกี่ยวกับ AI ไทยและ Open Thai GPT ที่จะเปลี่ยนอนาคตของเทคโนโลยีในประเทศไทย...

Responsive image

สรุป 3 ความร่วมมือ Jensen Huang ร่วมงาน AI Vision for Thailand ไทยได้อะไรบ้าง ?

Jensen Huang เดินทางเข้าร่วมงาน AI Vision for Thailand จัดขึ้นโดย SIAM.AI CLOUD โดยได้เผยวิสัยทัศน์การขับเคลื่อน AI ในประเทศไทย ทั้งนี้ Siam.AI ได้เปิดตัวโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ...

Responsive image

Apple เสนอลงทุนในอินโดฯ เพิ่ม 10 เท่า มูลค่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐ สู้ปลดแบน iPhone 16

Apple ทุ่มสุดตัว! เพิ่มเงินลงทุนในอินโดนีเซีย 10 เท่า เป็น 1,000 ล้านดอลลาร์ จากเดิม 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังข้อเสนอเดิมถูกปัดตก เป้าหมายปลดแบนการขาย iPhone 16 ในอินโดฯ ให้สำเร็จ...