Apple รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ รายได้ตก 3 ไตรมาสติด ทั่วโลกรายได้หดหมดยกเว้นในยุโรปและจีน ยอดขายอุปกรณ์ยังตก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทำให้คนไม่จับจ่าย แต่ยังดีได้อานิสงส์ธุรกิจบริการช่วยไว้
หุ้นของ Apple ปรับตัวลงมากกว่า 2% ตอนปิดตลาดในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยรายได้ลดลงทั่วโลก ยกเว้นในจีน (จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ไต้หวัน) และยุโรป
Luca Maestri ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Apple กล่าวว่า ยอดขายของ Apple ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ทุบสถิติในเดือนมิถุนายนโดยส่วนใหญ่รายได้มาจากอุปกรณ์เสริม แม้ว่า Apple จะมีความพยายามลดการพึ่งพาจากจีนโดยหันไปสนใจประเทศในกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก โดยเฉพาะ อินเดีย ท่ามกลางสงครามการค้าของจีนและสหรัฐ
Samsung และ Apple ยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด 2 อันดับแรก ตามด้วย Xiaomi ซึ่งข้อมูลล่าสุดของไตรมาสที่ 2 ปี 2023 ส่วนแบ่งตลาดมือถือของ Samsung อยู่ที่ 21% และ Apple 17% ของตลาดมือถือทั้งโลก
ตรงกันข้ามกับ Huawei ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดังจากประเทศจีนที่ถึงแม้ว่าจะเคยกินส่วนแบ่งตลาดถึง 20% เมื่อปีที่แล้ว แต่เนื่องจาก Huawei โดนแบนห้ามขายในสหรัฐฯและยังมีผลกระทบ จากสภาวะ เศรษฐกิจซบเซาจึงทำให้หลุดออกจากตำแหน่งผู้ถือครองส่วนแบ่งตลาดมือถือ 5 อันดับแรกของโลก
Apple เป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ทั่วโลก โดยบริษัทจัดส่ง iPhone มากกว่า 225 ล้านเครื่องทั่วโลกในปี 2022 และมักจะทำยอดขายได้มากที่สุดในไตรมาสที่ 4 ของทุกปี
รายได้จากบริการของ Apple เป็นปัจจัยสำคัญ
แม้รายได้หลักของ Apple อย่าง iPhone จะทำกำไรไม่ได้ตามเป้าเท่าที่ควร แต่ Apple ยังคงมีรายได้อื่นๆจากบริการ ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากการ สมัครสมาชิกบริการต่างๆ ของ และค่าธรรมเนียมจาก App Store รวมไปถึง Apple Play
ผลประกอบการในเดือนมิถุนายนปีนี้กำไรจากบริการเพิ่มขึ้นกว่า 8% คิดเป็นเป็น 21,210 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.5% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ และบริษัทคาดว่ารายได้จากบริกาจะเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสหน้า
Apple กล่าวว่ามีลูกค้าแบบสมาชิกเป็นจำนวน 1 พันล้านราย ซึ่งเพิ่มขึ้นสองเท่าภายในสามปี และมีลูกค้าแบบสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 150 ล้านคนในปีที่แล้ว นอกจากนี้ลูกค้าแบบสมาชิกใน Apple TV+ ก็เพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากรายการ Major League Soccer บน Apple TV+ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากการย้ายสโมสรฟุตบอลของ Lionel Messi
นอกจากนี้รายได้ที่มาจากการเก็บค่าคอมมิชชันที่เรียกกันว่า Apple Tax จากการซื้อภายในแอป (In-app purchases) ในอัตรา 30% ที่มาจากการอัปเกรดระดับสมาชิก การซื้อของในเกม การ Subscribe เป็นต้น ซึ่ง Apple กำหนดให้นักพัฒนาแอปต้องใช้ระบบจ่ายเงินภายในแอปนี้เท่านั้น
แต่ก็มีการยกเว้นให้บางกรณี เช่น แอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดฟรี และสำหรับการสมัครบอกรับสมาชิก ภายในแอป หรือ Subscription จะถูกเรียกเก็บภาษี 30% ในปีแรก แต่ในปีต่อๆ ไปจะเหลือเพียง 15% นอกจากนั้นภาษีนี้จะเรียกเก็บเฉพาะกับบริการทางดิจิทัล ซึ่งไม่รวมกับสินค้าที่จับต้องได้ เช่น การสั่งอาหาร การเรียกรถผ่านแอป
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด