Arincare Startup สัญชาติไทยผู้ให้บริการระบบบริหารร้านขายยาและเภสัชกร รับเงินระดมทุนในรอบ Series A นำโดย NEXTER VENTURES ลงทุนร่วมกับ Mitsubishi Corporation และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ที่เป็นผู้ร่วมลงทุน
การระดมทุนครั้งนี้ นับเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญของภาครัฐ ภาคเอกชนและแหล่งเงินทุนจากต่างประเทศเพื่อเสริมสร้างศักยภาพ Startup ไทยในการพัฒนาเทคโนโลยีด้าน Telepharmacy เพื่อหนุนร้านขายยาชุมชน ตลอดจนต่อยอดการเติบโตของ Health Tech Ecosystem ในเมืองไทยเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนสังคม โดย Arincare ถือเป็น Healthcare Startup รายแรกและเป็น Startup ไทยรายเดียวจากทั้งหมด 4 Startup ที่ทาง NEXTER VENTURES ร่วมลงทุน ซึ่งเงินลงทุนจาก CVC อย่าง NEXTER VENTURES บริษัทในเครือ SCG Cement Building Materials ที่เข้ามาร่วมลงทุนครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตหมายใหม่ของวงการ Healthcare ที่กำลังจะเกิดการผลักดันร่วมกันระหว่าง Startup ภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อยกระดับระบบสาธารณสุขไทย มากกว่านั้น Arincare ยังได้รับเงินทุนจากบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง Mitsubishi Corporation ในการระดมทุนรอบ Series A ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ดี ที่บ่งบอกถึงศักยภาพของ Startup ไทยในมุมมองระดับสากล ‘การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมไทย’ คือจุดร่วมของทั้ง 4 ภาคส่วนในการผนึกกำลังครั้งนี้
คุณธีระ กนกกาญจนรัตน์ CEO & Co-founder กล่าวถึงจุดเริ่มต้นและก้าวต่อไปของ Arincare ว่า ‘ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปีที่ได้พัฒนาระบบบริหารจัดการออนไลน์ e-Pharmacy สำหรับร้านขายยา (หรือ “โปรแกรมร้านยารูปแบบใหม่”) ที่มุ่งให้ผู้ประกอบการเจ้าของร้านยาและเภสัชกรได้มีเครื่องมือที่ช่วยบริหารธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อหนุนเภสัชกรชุมชนและร้านขายยา SME ให้อยู่รอดและสามารถแข่งขันกับร้านขายยา Chain หรือบริษัทใหญ่ๆ ที่มาทุ่มตลาดได้ จากจุดเริ่มต้นที่มุ่งมั่นจะ Empowered ใน Healthcare Industry แต่จากนี้เป้าหมายของ Arincare จะใหญ่กว่าเดิม โดยจะพัฒนาบริการไปสู่แนวคิดที่ว่า ‘Make Healthcare Affordable’ เพื่อให้ทุกคนในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึง ‘ยา’ ได้ง่าย ในราคาที่ทุกคนจ่ายได้’ โดยในก้าวใหม่ของการเติบโตนี้ คุณธีระเชื่อว่าบริการของ Arincare จะสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกที่กว้างขึ้นและจะสามารถสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับประเทศได้
ในส่วนของ NEXTER VENTURES ซึ่งนำทัพโดยคุณวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Service Solution Business ที่กำลังมองหา Innovation ใหม่ๆ เพื่อเชื่อมโยงกับธุรกิจเดิมของ SCG Cement Building Materials ได้กล่าวถึงการร่วมลงทุนในครั้งนี้ ว่า ‘Arincare เป็น Healthcare Startup รายแรกและเป็น Startup ไทยรายเดียวจากทั้งหมด 4 Startup ที่ทาง NEXTER VENTURES ร่วมลงทุนซึ่ง Arincare มีความน่าสนใจตรงที่เป็น Startup ที่เอาดิจิทัลเข้ามาช่วยให้ระบบด้านสาธารณสุขดีขึ้น ที่ทาง NEXTER VENTURES มองว่าเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเพราะร้านขายยาเป็นที่ที่คนเข้าถึงง่าย มีอยู่ในทุกพื้นที่ในประเทศไทย
ซึ่งจะทำให้มีคนที่จะได้ประโยชน์จากตรงนี้จำนวนมาก และเราเชื่อว่าการลงทุนในธุรกิจด้าน Health and Well Being จะนำไปสู่การพัฒนาในด้าน Smart Living ที่สอดรับกับแนวคิดการทำธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนในยุคนี้ ที่จะสามารถนำไปสู่ความยั่งยืนและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมได้ในระยะยาว’ จากแนวคิดนี้ การร่วมลงทุนครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงผลตอบแทนด้านธุรกิจเท่านั้น แต่ทาง NEXTER VENTURES ยังมองไปถึงเรื่องของการร่วมผลักดันและการขับเคลื่อนธุรกิจของ SCG Cement Building Materials ว่าจะสามารถเข้าไปส่งเสริมศักยภาพด้าน Logistics เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการให้บริการของ Arincare ได้อย่างแน่นอน
การร่วมลงทุนในครั้งนี้ เสริมทัพโดยบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง Mitsubishi Corporation ที่ได้เข้ามาร่วมเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อต่อยอดบริการของ Arincare ไปสู่การพัฒนาเพื่อให้ทุกคนในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงยาคุณภาพได้ในราคาที่เป็นธรรม โดย Mr. Shoichi Ogiwara ซึ่งดำรงตำแหน่งประธาน บริษัท President of Mitsubishi Company (Thailand),Ltd และบริษัท Thai-MC Company Limited ได้ให้เหตุผลการร่วมลงทุนในครั้งนี้ ว่า ‘เราสนใจปัญหาสังคม ซึ่ง Arincare กำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเข้าไปแก้ไขปัญหาข้อนี้ เราเล็งเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคม
ซึ่งผมเห็นว่า Arincare คือผู้เล่นสำคัญในระบบนิเวศน์ของ Healthcare ในประเทศไทย โดยมีการบริการและรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่เหมาะสมกับการจัดหายาในราคาที่เหมาะสมให้กับคนไทย นอกจากนี้ผมคิดว่าเราจะสามารถเรียนรู้ธุรกิจนี้ในประเทศไทยและจะสามารถพัฒนาไปสู่ธุรกิจการดูแลสุขภาพในประเทศญี่ปุ่นได้โดย ส่วนที่สำคัญที่สุดในการร่วมระดมทุนครั้งนี้ เรามีความเชื่อมั่นในทีมงาน Arincare ผมเชื่อว่าหากเราเชื่อมั่นในกันและกัน เราจะสามารถบริหารธุรกิจร่วมกัน พัฒนาร่วมกันและเติบโตไปด้วยกันได้อย่างแน่นอน’
ด้านการลงทุนใน Healthcare Startup ของ Mitsubishi Corporation นั้น Mr. Shoichi Ogiwara ได้กล่าวว่า ‘Mitsubishi Corporation เอง ได้ดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพมาตั้งแต่ศตวรรศที่ 20 แล้ว ฉะนั้นเราจึงมีความรู้ในอุตสาหกรรมด้านนี้ ในขณะเดียวกันสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และ SCG ก็มีความเชี่ยวชาญในด้านธุรกิจต่างๆ ฉะนั้นหมายความว่า Mitsubishi Corporation จะสามารถนำประสบการณ์และความรู้รอบในด้านนี้มาผนวกเข้ากับความชำนาญของ SCG และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เมื่อรวมพลังกันเราจะสามารถเพิ่มศักยภาพในการผลักดัน Arincare ได้’
ดร.ชินาวุธ ชินะประยูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ ด้านเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นบทบาทสำคัญในการผลักดัน Arincare กล่าวว่า ‘การร่วมระดมทุนจาก Corporate ไทยนับเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของ CVC ในการสนับสนุน Startup ไทย ในขณะเดียวกันเงินทุนจาก Mitsubishi Corporation ซึ่งเป็นบริษัทต่างชาติที่มาร่วมลงทุน ก็สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ Startup ไทยและระบบสาธารณสุขไทย ซึ่งมีแนวโน้มและโอกาสเติบโต ตลอดจนขยายกิจการไปในต่างประเทศได้’
ทั้งนี้ ดร.ชินาวุธยังเล็งเห็นว่า การร่วมระดมทุนในครั้งนี้สามารถเป็นกรณีตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การหา Synergy Value ร่วมกับ Startup นั้นเป็นไปได้หลายวิธี ซึ่งจุดเริ่มต้นนี้จะสามารถนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ ของ Healthcare Industry ที่จะต่อยอดไปสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ภาครัฐเองก็จะได้รับประโยชน์จากการผลักดันในเรื่องของ Digital Transformation ด้วย ในวันนี้สายตาจากทั่วโลกจับจ้องมาที่บริการด้านสาธารณสุขในประเทศไทย ซึ่ง Healthcare ก็นับเป็นกลุ่ม Rising Star และจะเป็นอุตสาหกรรมที่จะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศได้และท้ายที่สุดก็จะสามารถไปสู่การพัฒนาและการสร้างโอกาสใหม่เพื่อสร้าง S-Curve ให้ประเทศได้
Arincare ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 โดยคุณธีระ กนกกาญจนรัตน์ อดีตนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ร่วมกับคุณชายพงษ์ นิยมกิจ ซึ่งเป็น CFO & Co-Founder โดยมีเภสัชกรวิรุณ เวชศิริ ผู้มีประสบการณ์ประกอบธุรกิจยามานานกว่า 18 ปีมาร่วมด้วยในฐานะที่ปรึกษา
ด้วยจำนวนของร้านขายยาในเมืองไทยที่มีมากกว่า 20,000 แห่งและดำเนินกิจการโดยเภสัชกรชุมชนมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ในแต่ละวันมีผู้ใช้บริการสูงถึงวันละ 2 ล้านคน แต่การบริหารจัดการร้านขายยาเหล่านี้ยังไม่ถูกจัดการอย่างเป็นระบบและข้อมูลก็ไม่ถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ Arincare ได้เล็งเห็นปัญหานี้ภายใต้ความคิดที่ว่า ‘Healthcare ไม่สามารถ Disrupt ได้แต่ต้อง Transform’ จึงได้พัฒนาระบบซอร์ฟแวร์เพื่อส่งเสริมระบบภายในร้านขายยาของเภสัชกร จากปัญหาที่พบก็ถูกพัฒนาไปสู่ ‘Digital Pharmacy Solution’ เพื่อให้เภสัชกรนำไปใช้งานได้ฟรีๆ ภายใต้ความเชื่อมั่นว่าต้องการยกระดับร้านขายยาให้ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นนี้ จะช่วยส่งเสริมธุรกิจร้านขายยาในชุมชุมและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ผู้รับบริการ ให้ทุกคนในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงยาได้ง่าย ในราคาที่เป็นธรรม
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด