ธนาคารแห่งประเทศไทยจับมือสมาคมธนาคารไทยและธนาคารพาณิชย์ 15 แห่ง ร่วมลงนามความร่วมมือพัฒนาแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ คาดพร้อมใช้ภายในปลายปี 2020

เมื่อพูดถึงสถานการณ์ด้านสภาพแวดล้อม หลายคนอาจมองว่าภาคการเงินเป็นภาคที่ห่างไกลจากสถานการณ์นี้ แต่อันที่จริงแล้ว ภาคการเงินมีส่วนต่อเรื่องของสภาพแวดล้อมไม่น้อย โดยเฉพาะด้านการจัดสรรทุนกับผู้ที่มีส่วนในปัญหานี้ ซึ่งล่าสุด ผู้กำหนดนโยบายอย่างธนาคารแห่งประเทศไทยได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นและศักยภาพของภาคการเงินในการช่วยบรรเทาและแก้ไขปัญหาสภาพแวดล้อม

ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงจับมือกับสมาคมธนาคารไทยและธนาคารพาณิชย์ 15 แห่ง ร่วมลงนามความร่วมมือพัฒนาแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending Guideline) ที่งาน Thailand Sustainable Banking Forum 2019 ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา

คุณวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในงาน Thailand Sustainable Banking Forum 2019 ได้มีการพูดถึงผลลัพธ์ของการดำเนินธุรกิจการเงินโดยขาดความรับผิดชอบต่อแนวทาง ESG (Environment, Social and Corporate Governance) ซึ่งการละเลยแนวทางเหล่านี้ย้อนกลับมาสร้างปัญหาให้กับธุรกิจธนาคารและเศรษฐกิจภาพรวมของโลกเอง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อมจากปัญหาฝุ่นควันและน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ภาคสังคมอย่างหนี้ครัวเรือนในไทยที่สูงขึ้น และภาครัฐที่เกิดปัญหาคอร์รัปชัน

ทั้งนี้สถาบันการเงินสามารถช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดได้ ด้วยการเป็นผู้จัดสรรทุนที่มีความรับผิดชอบ ธนาคารแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยสมาคมธนาคารและธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย 15 แห่ง จึงแสดงเจตจำนงในการ ยกระดับการทำงานของภาคสถาบันการเงินไทย ด้วยการมีแนวนโยบายและแนวปฏิบัติร่วมกันในการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิด ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวจะให้ความสำคัญ 3 ข้อ ได้แก่ การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ตรวจสอบติดตามการปฏิบัต และ เปิดเผยข้อมูลการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ โดยคุณวิรไทคาดว่าแนวทางนี้จะประกาศใช้อย่างเป็นทางการภายในปลายปี 2020

คุณปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า สถาบันการเงินที่ปฏิบัติตามแนวทางด้วยความรับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้รับบริการในระยะยาว อันเป็นการช่วยให้รูปแบบธุรกิจธนาคารเพื่อความยั่งยืนเกิดขึ้นอย่างมั่นคง ทั้งนี้ แนวทางที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดจะช่วยให้ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาและความรับผิดชอบมากขึ้น