Techsauce Global Summit ร่วมกับ START Malaysia จัด BaseConf2020 งาน Tech Conference ระดับภูมิภาคครั้งใหญ่ที่สุดของ Iskandar Malaysia พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษในรัฐยะโฮร์บาห์รู (Johor Bahru) ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 15-16 มกราคมที่ผ่านมา

“งานนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อให้คนจากหลายพื้นที่ได้เห็น Startup Ecosystem ของที่นี่ อีกทั้งเป็นการสร้างแพลตฟอร์มสำหรับ Startup ผู้ประกอบการทั้งในท้องถิ่น และนานาชาติ ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และเป็นโอกาสในการขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” Feng Lim ซีอีโอ START Malaysia กล่าว

คุณอมฤต เจริญพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง ฮับบ้า ไทยแลนด์ กล่าวว่า “รัฐยะโฮร์บาห์รู สร้างขึ้นมาจากพื้นดินเปล่าจนกลายเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมและอีคอมเมิร์ซ ซึ่งมีความใกล้เคียงกับสิงคโปร์อย่างน่าทึ่ง เราได้เห็นรัฐบาลของรัฐหลายแห่งในมาเลเซียพยายามที่จะเปิดสถานที่นี้ ไม่เพียงแต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังรวมถึงการนำผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุนจากหลายสถานที่ ทุ่มงบประมาณและความสามารถที่จะทำให้สถานที่แห่งนี้เจริญรุ่งเรือง ผมคิดว่ายะโฮร์บาห์รูจะเป็นจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยม ไม่เพียงสำหรับการจัดงาน Conference เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงโอกาสที่จะสร้างบางสิ่งที่น่าทึ่งและไม่เหมือนใคร”

Sai Kit Ng หัวหน้าผู้บริหาร Captii Ventures แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภูมิทัศน์ของ Startup ในเมืองนี้ว่า “Startup ที่นี่ ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เรามีประวัติในด้านความสำเร็จเล็กน้อย สิ่งที่ผมอยากที่จะเห็นในรุ่นต่อไปก็คือ การที่ Startup ได้รับประโยชน์และเติบโตจากแพลตฟอร์มอย่างเช่นงาน Base Conference เช่นนี้ ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้พูดคุยและเรียนรู้จากนักลงทุนระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ”

ภายในงาน Base Conference ตลอด 2 วัน มีการบรรยายกว่า 20 หัวข้อเสวนา โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรชั้นแนวหน้าในแวดวงอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ใช้เทคโนโลยีในการขับเคลื่อนกว่า 56 ท่าน นอกจากนี้ยังมีการ Showcase เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ จากในภูมิภาค กิจกรรม Workshop Business matching และการแข่งขัน Startup Fight Club

โดยธีมหลักของหัวข้อสนทนาที่น่าสนใจในงานได้แก่

1. Corporate Innovation
2. Venture Investment
3. Startup War Stories
4. Future Technology
5. Digital Transformation
6. E-Commerce

BaseConf2020 ได้นำวิทยากรจากบริษัทชั้นนำเข้าร่วมงานอย่าง Alibaba, Traveloka, Ant Financial และ Techstars เปิดเซสชั่นแรกโดย Riddhiman Das ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท TripleBlind ซึ่งก่อนหน้าเขาเคยดำรงตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายการลงทุนเทคโนโลยีระหว่างประเทศให้กับ Ant Financial และ Alibaba นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้นำการลงทุนในด้าน Blockchain AI Security และ IoT “เทรนด์การนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาแก้ปัญหาสังคมในตลาดเกิดใหม่นั้นกำลังลดลง” Das กล่าว

จึงเป็นความจำเป็นที่เราจะต้องช่วยกันผลักดันสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาสังคม

Aldrich Huang ซีอีโอ บริษัท UXTesting แสดงความรู้สึกในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานครั้งนี้ว่า “รู้สึกประทับใจและตื้นเต้นมากครับ เพราะนี่เป็นงานระดับภูมิภาคครั้งแรกในยะโฮร์ บาห์รู จะเห็นได้ว่ามีผู้คนมากมายเข้าร่วมงานนี้ อีกทั้งหลายบริษัท นักลงทุนก็มาที่นี่ ดังนั้นผมสามารถบอกได้ว่าที่นี่จะมีการพัฒนาที่ยอดเยี่ยมในอนาคต"

นับว่าเรื่อง Digital transformation ยังคงเป็นหัวข้อที่ฮอตฮิต โดย Aldrich ได้ให้คำแนะนำถึงสิ่งที่บริษัทควรรู้ก่อนเริ่มเส้นทาง Digital Transformation ไว้ว่า “ก่อนอื่นบริษัทจะต้องรู้ว่าสิ่งที่กำลังจะทำมีปรัสิทธิภาพหรือไม่ (Efficiency) ทำไมคนในบริษัทจะใช้วิธีดิจิทัลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ต่อมาคือ การนำไปใช้เพื่อให้เกิดประสิทธิผล (Effectiveness) เพราะหากทำการเปลี่ยนมากเป็นดิจิทัล หมายความว่ากำลังใช้ข้อมูลจำนวนมาก ดังนั้น บริษัทจะทำการเก็บและตีความข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างไร นี่คือกุญแจสำคัญที่องค์กรต้องขบคิด สุดท้ายคือ ความพึงพอใจ (Satisfaction) เพราะสุดท้ายแล้วการทำ Digital transformation ก็เพื่อทำให้ทุกคนพึงพอใจและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิม ดังนั้นการรู้ความต้องการของทุกฝ่ายนั้นจึงเป็นความจำเป็นมาก”

นอกจากนี้ยังมีการแข่งขัน Startup Fight Club จาก ณ Main Stage ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของงานในปีนี้ โดย Startup ที่ชนะเลิศได้แก่ทีม Supplycart จากประเทศมาเลเซีย

ทางด้าน YB Jimmy Puah Wee Tse ประธานคณะกรรมการการค้าการลงทุนและการสาธารณูปโภคระหว่างประเทศรัฐยะโฮร์ อีกทั้งแกนนำในการยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลของภาครัฐ ทำการกล่าวปิดท้ายภายในงานครั้งนี้ว่า “ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นว่าการประชุมธุรกิจและเทคโนโลยีระดับนานาชาติเช่นนี้จัดขึ้นที่ยะโฮร์บาห์รู ผมเชื่อว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั้งต่อเมืองนี้ และรัฐบาล และทาง JCEB จะยังคงให้การสนับสนุนและจัดกิจกรรมที่น่าสนใจในปีต่อ ๆ ไป”