Beacon VC เดินหน้าลงทุนเพื่อความยั่งยืน ผ่านกองทุน Beacon Impact Fund หนุนสตาร์ทอัพ ตอกย้ำพันธกิจผลักดันโซลูชันความยั่งยืน | Techsauce

Beacon VC เดินหน้าลงทุนเพื่อความยั่งยืน ผ่านกองทุน Beacon Impact Fund หนุนสตาร์ทอัพ ตอกย้ำพันธกิจผลักดันโซลูชันความยั่งยืน

ธนาคารกสิกรไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ผ่านกองทุน Beacon Impact Fund ภายใต้การบริหารงานของ บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล (Beacon VC) โดยมุ่งเน้นการลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในการสร้างโซลูชันเพื่อแก้ปัญหาสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) พร้อมขยายผลกระทบเชิงบวกไปทั่วโลก

Beacon VC เดินหน้าลงทุนเพื่อความยั่งยืน ผ่านกองทุน Beacon Impact Fund  หนุนสตาร์ทอัพ ตอกย้ำพันธกิจผลักดันโซลูชันความยั่งยืน

Beacon Impact Fund คืออะไร?

กองทุนนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2566 ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 1,200 ล้านบาท หรือประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในสตาร์ทอัพที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืน วัดผลได้จริง และมีศักยภาพในการขยายผลในวงกว้าง สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ และเจตนารมณ์ของธนาคารกสิกรไทยในการขับเคลื่อนธุรกิจบนหลักการธนาคารแห่งความยั่งยืน (Bank of Sustainability)

กลยุทธ์การลงทุนของ Beacon Impact Fund

Beacon Impact Fund เน้นลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพหลากหลายรูปแบบ ทั้งการลงทุนโดยตรง และการลงทุนผ่านกองทุนร่วมลงทุน โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มธุรกิจที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น (Early Stage) และช่วงเติบโต (Growth Stage) โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ ธุรกิจที่นำเสนอเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาสำคัญใน 3 ด้านหลัก ได้แก่

  • การลดการปล่อยคาร์บอนในชั้นบรรยากาศ (Decarbonization): กองทุนได้ลงทุนในสตาร์ทอัพและกองทุนที่สนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจก และเทคโนโลยีที่มีส่วนช่วยในการจับและเก็บคาร์บอน เช่น Wavemaker Impact, Neutreeno, PlanetFWD และ Siam Capital ซึ่งมุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • เทคโนโลยีที่ส่งเสริมความยั่งยืนด้านสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม (Climate Tech): เน้นการลงทุนในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น Wavemaker Impact และ Avaana Capital ซึ่งมุ่งเน้นการจัดการการปล่อยคาร์บอน
  • การเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion): Beacon Impact Fund ได้ลงทุนในธุรกิจที่สนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงิน เช่น Algbra , Majoo และ Quona Opportunity Fund ที่ช่วยให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน ได้รับโอกาสในการเข้าถึงบริการเหล่านั้นมากขึ้น

ไฮไลท์การลงทุนของ Beacon Impact Fund ในปี 2567 ที่น่าจับตามอง

Beacon VC ได้ประกาศการลงทุนใน 5 โครงการสำคัญ ตามกลยุทธ์ และขยายขอบเขตการลงทุนไปยังตลาดที่มีศักยภาพสูงพร้อมขยายผลกระทบเชิงบวกไปทั่วโลก 

  • Neutreeno: สตาร์ทอัพจากสหราชอาณาจักร ที่พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับองค์กรต่างๆ ในการติดตามและลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ Neutreeno ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างแม่นยำ ทั้งจากกระบวนการภายในองค์กร และตลอดห่วงโซ่อุปทาน พร้อมนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้ธุรกิจสามารถวางแผนลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • PlanetFWD: เป็นแพลตฟอร์มจากสหรัฐอเมริกาที่ช่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคในการวัดและประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิตและการจำหน่ายสินค้า โดยแพลตฟอร์มนี้จะวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและให้คำแนะนำในการลดผลกระทบดังกล่าว นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความโปร่งใสในกระบวนการห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
  • Majoo: สตาร์ทอัพจากอินโดนีเซีย ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการธุรกิจแบบครบวงจรสำหรับ SMEs Majoo ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเข้าถึงบริการทางการเงินที่จำเป็น เช่น ระบบจัดการบัญชี ระบบขายหน้าร้าน และระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์
  • Avaana Capital: กองทุน VC ด้านความยั่งยืนชั้นนำในประเทศอินเดีย มุ่งเน้นการลงทุนใน Climate Tech เช่น การจัดการพลังงานและทรัพยากร การคมนาคมที่ยั่งยืน และการเกษตรแบบยั่งยืน การลงทุนใน Avaana Capital ช่วยให้ Beacon VC สามารถขยายเครือข่าย เข้าถึงโอกาสการลงทุน และเพิ่มพูนความเชี่ยวชาญในตลาดอินเดีย
  • ION Energy: สตาร์ทอัพสัญชาติไทย ที่นำเสนอโซลูชั่นโซลาร์เซลล์ ทั้งการลงทุนติดตั้งโซลาร์ฟรีผ่านสัญญาซื้อขายไฟฟ้า การรับเหมาและติดตั้งแผงโซลาร์สำหรับที่อยู่อาศัยและการพาณิชย์ รวมถึงพัฒนา Application สำหรับการบริหาร ติดตาม การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และการชำระเงินออนไลน์

การลงทุนในปีนี้เป็นการการขยายขอบเขตการลงทุนไปยังตลาดใหม่ๆ ที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค เช่น อินเดีย และส่งเสริมการพัฒนาโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ กองทุน Beacon Impact Fund ได้ลงทุนไปแล้วกว่า 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 455 ล้านบาท นับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนโดยมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการขยายผลและขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนผ่านการลงทุนในสตาร์ทอัพทั่วโลก

ย้อนกลับไปในปี 2566 Beacon Impact Fund ได้ดำเนินการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพที่มุ่งเน้นการสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกทั้งในด้านการเงิน สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านการลงทุนโดยตรงและกองทุนร่วมลงทุน (Venture Capital) โดยมีไฮไลท์ที่สำคัญใน 4 ธุรกิจที่มีเป้าหมายในเรื่องของความยั่งยืน ได้แก่ 

  • Algbra (สหราชอาณาจักร): ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเงินที่พัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการทางการเงินที่สอดคล้องกับหลักศาสนาอิสลาม ซึ่งมุ่งเน้นให้ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามในอังกฤษสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้สะดวกขึ้น และตั้งใจขยายไปยังตลาดอื่น ๆ ที่มีชุมชนมุสลิม เพื่อสร้างความเสมอภาคทางการเงินในระดับโลก
  • Wavemaker Impact: กองทุนร่วมลงทุนที่เน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสนับสนุนธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม (Climate Tech) โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกลงร้อยละ 10 ภายใน 5 ปี และช่วยสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 
  • Quona Opportunity Fund: กองทุนที่มุ่งเน้นการสร้างการเข้าถึงบริการทางการเงินในตลาดเกิดใหม่ โดยการลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีโซลูชันการเงินสำหรับกลุ่มที่ยังไม่ได้รับบริการทางการเงินอย่างทั่วถึงหรือไม่เพียงพอในหลายพื้นที่ของเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ 
  • Siam Capital: กองทุนที่ก่อตั้งโดย คุณสิตา จันทรมังคละศรี นักลงทุนหญิงชาวไทย โดยมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่ส่งเสริมการบริโภคอย่างยั่งยืน ผ่านการลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีโซลูชันที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น วัสดุที่ไม่เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม หรือโซลูชันการซื้อขายที่ลดการปล่อยคาร์บอน รวมถึงการสนับสนุนธุรกิจที่มุ่งสร้างผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม

Beacon Impact Fund การลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและโลกในระยะยาว การลงทุนของ Beacon Impact Fund จึงเป็นการมองไปข้างหน้าในการสร้างผลกระทบในเชิงบวก ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นในอนาคต

และไม่ใช่แค่การลงทุน แต่คือการสร้างระบบนิเวศเพื่อความยั่งยืน

นอกจากการลงทุนโดยตรงแล้ว Beacon VC ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพ และการสร้างความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เพื่อส่งเสริมธุรกิจด้านความยั่งยืน โดยมีโครงการที่น่าสนใจ ดังนี้

  • ความร่วมมือกับ GGGI: Beacon VC ได้ร่วมมือกับสถาบัน Global Green Growth Institute (GGGI) เพื่อส่งเสริม Climate Tech ในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนสตาร์ทอัพในระยะเริ่มต้น และการพัฒนาผู้ประกอบการด้านความยั่งยืน
  • กิจกรรมส่งเสริมเครือข่ายสตาร์ทอัพ: จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงสตาร์ทอัพ นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญในแวดวง Climate Tech เช่น Climate Tech Connect และ Green Gather เพื่อแบ่งปันความรู้ สร้างเครือข่าย และส่งเสริมความร่วมมือ
  • เวิร์กช็อป ESG Essential Reporting: จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ด้านการรายงาน ESG แก่สตาร์ทอัพ เพื่อส่งเสริมความโปร่งใส และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
  • การสนับสนุนผู้ประกอบการสตรี: Beacon VC ได้ร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน Cartier Women’s Initiative 2024 ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกที่สนับสนุนธุรกิจสตรี โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

Beacon VC กับทิศทางในอนาคต มุ่งสู่การเติบโตที่ยั่งยืนในตลาดใหม่

Beacon VC วางแผนขยายการลงทุนใน Climate Tech และ Financial Inclusion อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นโซลูชันที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน และเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงิน โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ Beacon Impact Fund ยังเตรียมขยายสู่ตลาดใหม่ในภูมิภาคอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว

บทบาทของ Beacon Impact Fund ในการขับเคลื่อน ESG

สุดท้าย Beacon VC จะเดินหน้าสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหา ESG ด้วยการลงทุนผ่าน Beacon Impact Fund กองทุนนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างผลตอบแทนทางการเงิน แต่ช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทยและของโลก

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Willow ชิปควอนตัมจาก Google แรงทะลุจักรวาล ประมวลผลเรื่องยากได้ในเวลา 5 นาที เร็วกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ล้านล้านเท่า

Willow คือชื่อชิปควอนตัมใหม่ที่ Google พัฒนาสำเร็จ โดยแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในเทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวติ้ง ชิปตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป้าหมายในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้เร็ว...

Responsive image

ไทยตื่นตัวเซมิคอนดักเตอร์ ปิดดีลไปแล้วกว่า 22,000 ล้าน ภายในระยะเวลา 4 เดือนก่อนสิ้นปี

ไทยก้าวสู่ยุคเซมิคอนดักเตอร์เต็มตัว! 4 เดือนก่อนสิ้นปี ปิดดีลลงทุนไปกว่า 22,000 ล้านบาท เสริมฐานการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมผลักดันบุคลากรสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต...

Responsive image

ลิซ่า ซู จาก AMD คว้า CEO แห่งปี 2024 จากนิตยสาร TIME

ลิซ่า ซู ซีอีโอ AMD ได้รับเลือกให้เป็นซีอีโอแห่งปี 2024 จากนิตยสาร TIME โดยได้รับการยกย่องในวิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำที่สามารถพลิกฟื้น AMD จากการเกือบล้มละลายเมื่อ 10 ปีก่อน กลายเ...