Beacon Venture Capital บริษัทเงินร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย ร่วมลงทุนในบริษัทแอสไพร์ ไฟแนนเชียล เทคโนโลยี โฮลดิ้ง (Aspire Financial Technologies Holding, Inc.) พร้อมนักลงทุนแนวหน้าจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุโรป และสหรัฐฯ อาทิ Y Combinator, MassMutual Ventures SEA, Insignia Ventures Partners, Hummingbird Ventures, Picus Capital ซึ่งเป็นการระดมทุนรอบซีรี่ส์เอ ที่มีมูลค่ารวม 32.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยธนาคารกสิกรไทยมีความตั้งใจที่จะร่วมมือกับแอสไพร์ในการนำเทคโนโลยีมาให้บริการทางการเงินผ่านระบบดิจิทัลแก่ลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์
แอสไพร์เป็นแพลตฟอร์มการเงินแบบดิจิทัล (Neo bank platform) ที่ให้บริการทางการเงินแก่เอสเอ็มอี ไม่ว่าจะเป็นการให้สินเชื่อ การจ่ายเงิน หรือการรับเงินและการชำระเงินผ่านช่องทางของพาร์ทเนอร์
ผลิตภัณฑ์หลักของแอสไพร์ คือ AspireAccount ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถขอสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน 6 เดือน เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ 100% และใช้เวลาในการโอนเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังสามารถรองรับการจ่ายเงินหรือการรับเงินระหว่างคู่ค้าในประเทศไทยและในต่างประเทศ พร้อมเครื่องมือจัดการกระแสเงินสด นอกจากนี้ แอสไพร์วางแผนที่จะออกบัตรเครดิตภายในปีนี้เพื่อช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถซื้อวัตถุดิบหรือสินค้ามาขายได้ง่ายยิ่งขึ้น ขณะนี้แอสไพร์ดำเนินธุรกิจในหลายประเทศ อาทิ ประเทศไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม
นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล กล่าวว่าการให้บริการทางการเงินแก่ผู้ที่ยังเข้าไม่ถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (Underbanked) และกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการลงทุนของ Beacon VC ซึ่งแอสไพร์มีทีมงานที่เก่งและเพรียบพร้อมมาก สามารถขยายธุรกิจ ซึ่งขณะนี้มีการให้บริการถึง4 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยใช้เวลาเพียงปีครึ่งเท่านั้น นอกจากนี้ ทีมงานยังมีประสบการณ์ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาก่อน ทำให้เข้าใจความต้องการของพ่อค้าเเม่ค้าออนไลน์และเอสเอ็มอีขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี แอสไพร์สามารถตอบโจทย์เรื่องการกู้ยืมรวมถึงการชำระเงินออนไลน์ของลูกค้ากลุ่มนี้ได้มากเพราะลูกค้าสามารถรับบริการทางการเงินในการดำเนินธุรกิจได้จากแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือของตนเอง
มีสเตอร์แอนเดรีย บารอนเชลลี่ หนึ่งในผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอสไพร์ กล่าวว่า เนื่องจากแอสไพร์และธนาคารกสิกรไทยมีวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการให้บริการทางการเงินผ่านระบบดิจิทัลที่สอดคล้องกัน และธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารที่มีฐานลูกค้าเอสเอ็มอีมากที่สุดในประเทศไทย แอสไพร์และธนาคารกสิกรไทยมีความตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์ทางการเงินที่แตกต่างให้ลูกค้า ในขณะนี้ยังมีเอสเอ็มอีอีกมากที่ไม่สามารถเข้าถึงการขอสินเชื่อของธนาคารได้ แอสไพร์หวังว่าจะเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้าเหล่านี้ รวมทั้งลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยจากการลงทุนและการร่วมมือกันในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านสินเชื่อ ด้านการจ่ายเงินหรือรับเงิน และด้านการชำระเงิน
แอสไพร์ถือเป็นการลงทุนโดยตรงครั้งที่ 8 ของ Beacon VC โดยที่ผ่านมา Beacon VC ได้ลงทุนใน “จิตตะ” ผู้ให้บริการบริหารกองทุนโดยใช้เทคโนโลยี AI, InstaReM ผู้ให้ให้บริการโอนเงินข้ามประเทศ, Grab ผู้ให้บริการเรียกรถและบริการทางการเงินชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้ แอสไพร์มีจุดมุ่งหมายเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด