Believe Digital Thailand ฉีกกรอบท้าทายค่ายเพลงยักษ์ ชูกลยุทธ์ Digital Artist Streaming ทำงานร่วมกับ AI | Techsauce

Believe Digital Thailand ฉีกกรอบท้าทายค่ายเพลงยักษ์ ชูกลยุทธ์ Digital Artist Streaming ทำงานร่วมกับ AI

Believe Digital Thailand ฉีกกรอบท้าทายค่ายเพลงยักษ์ ชูกลยุทธ์ Digital Artist Streaming ใช้ AI ดันศิลปินอิสระผ่านพาร์ทเนอร์ Music Streaming Platforms พร้อมเปิดตัว ‘Sentric’ อีกหนึ่งธุรกิจใหม่เพื่อช่วยเก็บรายได้ด้านลิขสิทธิ์ให้ศิลปิน

กรุงเทพมหานคร, 12 ธันวาคม 2566: ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว วงการเพลงทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยมีเพียงค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ครองตลาดอยู่เพียงไม่กี่ราย เท่านั้น แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ศิลปินอิสระหน้าใหม่เริ่มผุดขึ้นมามากมาย กลายเป็นปรากฏการณ์ ใหม่มาพลิกบทบาทของค่ายเพลงยักษ์ที่เคยเป็นผู้เล่นหลักในวงการอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

การปรากฏตัวของศิลปินอิสระเหล่านี้ เกิดขึ้นใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่ Believe Digital Thailand เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยพอดี ซึ่งนับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการเพลงไทย และหลายๆ คนอาจไม่เคยรู้ว่า Believe Digital เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการดูแลศิลปินตัวปังในไทยทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น YOUNGOHM, SARAN, UrboyTJ, TIMETHAI, โบกี้ ไลอ้อน, fellow fellow, ก้อง ห้วยไร่, เบิ้ล ปทุมราช, จินตหรา พูลลาภ และรวมไปถึงค่ายต่างๆ เช่น What The Duck, Loveis, Small Room, YUPP และอีกมากมาย

เห็นได้ชัดว่าปัจจุบันประเทศไทยมีศิลปินอิสระที่มีประสบการณ์และทักษะสูงขึ้น พวกเขาเชี่ยวชาญทั้งการผลิตเพลง ใช้เครื่องมือดิจิทัลและเข้าใจการตลาด ในอนาคต ศิลปินอิสระจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนและสร้างสรรค์ผลงานดนตรีที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของผู้ฟังอย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

คุณสมวลี ลิมป์รัชตามร - Country Director Believe Digital ประเทศไทย กล่าวว่า “Believe Digital Thailand เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการบริหารจัดการเพลงในระบบ Digital Streaming มานานถึง 17 ปี โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส และเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่ลักเซมเบิร์ก ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์เฉพาะบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ Tech Company สำหรับประเทศไทย Believe Digital Thailand ดำเนินงานมาถึงปีที่ 10 แล้ว” 

“Believe Digital Thailand เกิดจากความมุ่งมั่นที่อยากสร้างความโปร่งใสในการบริหารจัดการผลประโยชน์ รวมถึงการมอบอิสระในการสร้างผลงานให้กับศิลปิน โดยมีการวางระบบหลังบ้านผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า ‘Backstage’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อกับระบบ online store มี AI ทำงานร่วมกับระบบจัดการเทคโนโลยี ช่วยส่งเพลงให้ไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้เร็วและตรงที่สุด ซึ่ง Backstage ทำหน้าที่ทั้งเป็นจุดเชื่อมต่อ จัดเก็บและอ่านข้อมูล รวมถึงช่วยคำนวณรายได้ให้กับศิลปินในกลุ่ม Digital Streaming” คุณสมวลี กล่าวเสริม

A red pyramid with black text 
Description automatically generated

สำหรับ Believe Digital มีโครงสร้างการบริหารจัดการออกเป็น 3 ส่วนคือ

TUNECORE 

ขั้นแรกเริ่มที่ศิลปินสามารถเข้ามาเปิดบัญชีสมาชิก (Subscription) เพื่อใช้บริการแพลตฟอร์มส่งเพลงขึ้นระบบ Online Store กับ Believe Digital หลังจากนั้นจะเป็นการทำงานของระบบเทคโนโลยี 100% ที่จะจับความเคลื่อนไหว เก็บข้อมูลของผู้ฟัง และจัดส่งรายได้ให้ศิลปิน โดยขั้นตอนนี้เรียกว่าเป็นช่วง ‘Entry Level’ ซึ่งจะยังไม่มีการโปรโมทใดๆ บน Online Store ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ tuneCORE มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกา Believe Digital ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาและตอนนี้ได้นำมาใช้ในประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดอุตสากรรมเพลงที่เติบโตและมีศักยภาพ โดยดูจากศิลปินอิสระมีความรู้ความเข้าใจในการใช้เครื่องมือดิจิทัลในสายงานดนตรี พร้อมกับมีผู้ฟัง digital streaming เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

BELIEVE LABEL & ARTIST SOLUTIONS 

ขั้นนี้จะเป็นการยกระดับศิลปิน หลังจากที่ระบบ tuneCORE มีข้อมูลบ่งชี้มากพอว่าจำนวนและสไตล์เพลงของศิลปินท่านนี้ ได้รับความสนใจจากผู้ฟังในระบบและมีแนวโน้มพัฒนาต่อยอดได้ ในขั้นตอนนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างระบบ AI 70% ในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล ช่วยเพิ่มยอด Streaming พร้อมทั้ง pitching หาพื้นที่โปรโมทบน online store ให้ส่งตรงถึงกลุ่มเป้าหมาย ส่วนอีก 30% เป็นการตีโจทย์ทิศทางการต่อยอดให้กับศิลปินโดยทีมงาน ซึ่งขั้นที่ 2 นี้ Believe Digital ให้บริการได้ทั้งสเกลแบบบุคคล เช่น ศิลปินอิสระ และสเกลระดับค่ายที่มีศิลปินในการดูแลอยู่แล้ว เช่น What the Duck, Small Room, Loveis, Yupp, High Cloud หรือกลุ่มที่เรียกว่า Independent Label 

BELIEVE ARTIST SERVICES

ขั้นนี้นับเป็นการปั้นยูนิคอร์นที่ทาง Believe Digital Thailand จัดให้กับศิลปินที่มีคุณลักษณะที่ค่อนข้างพร้อม ทั้งความสามารถในเรื่องเพลง ความรับผิดชอบในการผลิตผลงาน วินัยในการทำงานและความสม่ำเสมอ หน้าที่หลักของขั้นตอนนี้คือดันศิลปินกลุ่มนี้ให้เป็น ‘Top Artist’ คือ ติดอันดับ 1-20 ศิลปินเบอร์ต้นของประเทศ โดยมีสัดส่วนการบริหารจัดการระหว่างระบบ AI 30% และอีก 70% เป็นทีมงาน Digital Marketing เฉพาะเจาะจงสำหรับศิลปินแต่ละราย ช่วยดูว่าศิลปินท่านนี้ เหมาะกับตำแหน่งในตลาดแบบไหน สามารถเป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์แนวไหนได้บ้าง ออกคอนเสิร์ตลักษณะไหนที่ตอบโจทย์ นอกจากนี้ Believe ยังมีทุนให้ศิลปินไปทำ MV โดยไม่ได้เข้าไปควบคุมหรือจำกัดความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินอีกด้วย โดยมีข้อแม้ว่าพวกเขาต้องทำผลงานออกมาให้มีคุณภาพ ทั้งหมดนี้จะมีทีมงานช่วยวางแผนครบทั้งระบบ 

และบริการล่าสุดคือ ระบบ ‘Sentric’ เป็นการดูแลผลประโยชน์ช่วยเก็บรายได้ด้านลิขสิทธิ์ เมื่อเพลงของศิลปินถูกนำไปใช้ในช่องทางอื่นใด จากบุคคลกลุ่มใดก็ตามทั้งในและนอกประเทศ

“ข้อแตกต่างที่ทำให้ Believe Digital Thailand แตกต่างจากผู้เล่นอื่นในวงการธุรกิจดนตรี คือ รากฐานของ Believe มาจากบริษัทเทคโนโลยี เรามีเทคโนโลยีของตัวเอง จัดการข้อมูลด้วยความแม่นยำในการบริหารให้กับศิลปิน นอกจากจะใช้ความชำนาญและประสบการณ์ของมนุษย์ Believe ยังใช้ Data เป็นข้อมูลบ่งชี้และวิเคราะห์ทิศทางการพัฒนาและวางกลยุทธ์ให้กับศิลปิน เพื่อความเข้าใจที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน ซึ่ง ณ ตอนนี้ Believe Digital มีเครือข่ายอยู่ถึง 54 ประเทศทั่วโลก และยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้หัวใจหลักในการดำเนินงานของ Believe Digital คือ การให้เกียรติความเป็นตัวตนของศิลปิน หมายถึง เราจะไม่ตีกรอบหรือมีเช็คลิสต์ว่าศิลปินต้องทำกิจกรรมโปรโมทแบบเดียวกัน ถึงจะแปลว่าทำครบและสำเร็จ แต่ Believe จะมองบุคลิก ลักษณะ ความพอใจและความสบายใจของศิลปินเป็นหัวใจในการวางแผนงาน” คุณสมวลี กล่าวเพิ่มเติม

3Cs + 1T’ หลักการดูแลศิลปินของ Believe Digital Thailand กับการดันศิลปินผ่าน Generative AIทุกวันนี้ คือยุคของ AI เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่มีผลต่อทั้งศิลปินและค่ายเพลง ถ้าพูดให้ชัดกว่านี้คือ Generative AI คือ AI ที่สามารถบริหารจัดการทุกสิ่ง รวมทั้งตัวมันเองได้ด้วย สิ่งที่ Believe มักจะสื่อสารกับศิลปินและค่ายเสมอคือ AI จะสร้างประโยชน์มหาศาลกับคนที่เข้าใจ แต่ในขณะเดียวกัน AI ก็สามารถสร้างความเสี่ยงมหาศาลให้กับคนที่ไม่เข้าใจได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น สิ่งหนึ่งที่ Believe ตั้งใจทำคือการให้ความรู้กับวงการว่าการเข้ามาของ Generative AI มีสิ่งที่ต้องเรียนรู้ ใช้ประโยชน์ และพึงระวังอะไรบ้าง ดังนั้นคำว่า Digital Marketing ของ Believe จะไม่ใช่นิยาม Marketing แบบเก่า แต่เรามักจะใช้ Marketing ที่มีผลต่อการกระตุ้น AI จึงเป็นที่มาของหลักการ ‘3Cs + 1T’เพื่อดูแลศิลปินและค่ายให้ได้รับการคุ้มครองสิทธิ และได้ผลประโยชน์อย่างโปร่งใสที่สุด

  • CONSENT ทุกกิจกรรมและการกระทำใดๆ ทาง Believe ต้องได้รับการยินยอมจากศิลปินก่อน
  • CONTROL ศิลปินจะมีอำนาจในสิทธิการตัดสินใจ รวมถึงการดูแลผลประโยชน์จากผลงานที่เป็นสินทรัพย์ของตัวเอง
  • COMPENSATION จากการผลิตผลงานและการขับเคลื่อนผ่านระบบ AI ของ Believe จะเป็นไปเพื่อให้ศิลปินได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม
  •  TRANSPARENCY นับเป็นคุณค่าหลักของ Believe นับตั้งแต่วันแรก ที่ต้องการสร้างความโปร่งใสในการดูแลผลประโยชน์ให้กับศิลปิน ดังนั้นไม่ว่ากระบวนการทำงานจะผ่านกี่ขั้นตอน ทุกอย่างต้องโปร่งใสต่อศิลปินที่สุด โดยเฉพาะเรามีเทคโนโลยีช่วยตรวจจับ fake streaming ได้อย่างแม่นยำ

“เรียกได้ว่าเป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก สำหรับอุตสาหกรรมเพลงไทย ที่ทุกวันนี้ศิลปินหันไปใช้ Streaming ในการเผยแพร่ผลงาน แต่ทว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มเอาตัวเองเข้าเข้าสู่ระบบ Streaming อย่างไร และหารายได้จากมันได้แค่ไหน ดังนั้น Believe จึงเกิดมาเพื่อเป็น Distributor ช่วยเชื่อมศิลปินเข้าสู่ Streaming Platform ด้วยระบบ AI ที่แม่นยำ

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทาง Believe อยากฝากไว้คือ ความรับผิดชอบและวุฒิภาวะของศิลปิน ซึ่งเป็นเรื่องที่ระบบช่วยจัดการให้ไม่ได้ แต่ต้องอาศัยใจของศิลปินล้วนๆ ว่ารักในสิ่งที่ตัวเองเลือกทำให้ต่อเนื่องและยั่งยืนได้แค่ไหนเท่านั้นเอง” คุณสมวลี กล่าวปิดท้าย 


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

CHANGAN Automobile เปิดตัว NEVO E07 : SUV พร้อมฟังก์ชันกระบะเปิดท้ายในงาน “ปักกิ่ง ออโต้ โชว์ 2024”

CHANGAN เปิดตัว NEVO E07 ในงานแสดงรถยนต์นานาชาติปักกิ่งครั้งที่ 18 ซึ่งเป็นยานพาหนะแปลงโฉมคันแรกของโลก ที่ผลิตขึ้นเป็นจำนวนมาก NEVO E07 เป็นรถยนต์รุ่นใหม่คันแรกของบริษัทในโฉม SUV ...

Responsive image

ลาออกแล้ว ไปทำงานกับคู่แข่งได้ สหรัฐฯ ออกกฎใหม่ห้ามบริษัททำสัญญา Non Compete

ลาออกแล้ว ไปทำงานบริษัทคู่แข่งได้ สหรัฐฯ เตรียมใช้กฎใหม่ ห้ามบริษัททำสัญญา Non Compete มองปิดโอกาสคนทำงาน ฉุดรั้งเศรษฐกิจประเทศ...

Responsive image

Money20/20 Asia ยกระดับวงการฟินเทคเอเชีย ยักษ์ใหญ่ตบเท้าเข้าร่วมงานคับคั่ง

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับงาน Money20/20 Asia ครั้งแรกที่ประเทศไทยและเอเชีย ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 23 - 25 เมษายน 2567 งานทยกระดับอุตสาหกร...