เมื่อวันพฤหัสบดี (4 พฤษภาคม 2566) ที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาประกาศลงทุนวิจัยและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ภายใต้งบประมาณ 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,715 ล้านบาท ท่ามกลางความนิยมและตื่นตัวทั่วโลกของเทคโนโลยีใหม่นี้
งบประมาณดังกล่าวจะมาจากมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ โดยส่วนหนึ่งจะใช้สร้างสถาบันวิจัย AI แห่งชาติใหม่อีก 7 แห่ง ทำให้สหรัฐฯ จะมีสถาบันวิจัยด้านนี้รวมแล้ว 25 แห่งด้วยกัน ซึ่งสถาบันวิจัยเหล่านี้จะทำงานร่วมกับรัฐบาลกลาง ธุรกิจในอุตสาหกรรม และสถานศึกษาระดับอุดมศึกษา เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ เช่น ปัญหาสภาพอากาศ การเกษตร สาธารณสุข
ในเร็วๆ นี้ สำนักงานการจัดการและงบประมาณของสหรัฐฯ จะจะออกคำแนะนำเชิงนโยบายเกี่ยวกับการใช้ AI สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลาง
นอกจากนั้นบริษัทที่กำลังพัฒนา AI อย่าง Google, Microsoft และ OpenAI ได้ให้คำมั่นสัญญาจะเข้าร่วมการประเมินผลระบบ AI สาธารณะด้วย ว่าเป็นไปตามพิมพ์เขียวที่รัฐบาลวางไว้หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อลดผลกระทบและอันตรายจากระบบอัตโนมัติ โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลยังเผยว่าอนาคตอาจจะร่วมมือกับชาติอื่นๆ ในยุโรปต่อไปหากมีความจำเป็น
อย่างไรก็ตามการประชุมครั้งนี้ไม่มีชื่อของ Meta อยู่บนโต๊ะ แม้บริษัทเพิ่งจะประกาศลงทุนสร้างเครื่องมือ AI ในทุกๆ ผลิตภัณฑ์ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารบอกกับ CNN ว่าการประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้นำในการพัฒนา โดยเฉพาะการสร้างผลิตภัณฑ์บริการสำหรับผู้บริโภค
ในวันเดียวกันนี้เหล่าผู้บริหารจาก Alphabet, Anthropic, Microsoft และ OpenAI ถูกเชิญให้ไปประชุมร่วมกับ Kamala Harris รองประธานาธิบดีฯ ที่ทำเนียบขาว เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างนวัตกรรมอย่างรับผิดชอบและลดความเสี่ยงจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่ง Joe Biden ได้กล่าวกับ CEO บริษัทเทคฯที่ร่วมประชุมว่าสิ่งที่พวกเขาทำมีศักยภาพมหาศาลรวมถึงอันตรายด้วย
สำหรับข้อกังวลจากการใช้งาน AI ที่ผู้เข้าร่วมประชุมเปิดเผยนั้นมีหลากหลาย เริ่มตั้งแต่การสร้างข้อมูลเท็จที่อาจบ่อนทำลายกระบวนการในระบอบประชาธิปไตย การแย่งตำแหน่งงานมนุษย์ให้ระบบอัตโนมัติ การตัดสินใจด้วยอัลกอริทึมที่มีอคติ การที่ AI ไปอยู่ในมือผู้ไม่หวังดี จนไปถึงการใช้ AI กับระบบขับอัตโนมัติในรถยนต์
ตอนนี้รัฐบาลทั่วโลกกำลังจับตามอง AI อย่างใกล้ชิด ทั้งเตรียมออกมาตรการกำกับดูแล หาแนวทางการใช้อย่างปลอดภัย สร้างระบบ AI เพื่อใช้ในภาครัฐ เป็นต้น
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด