Binance ประกาศจับมือ SM Entertainment ลุยโลก NFT ให้แฟน Kpop ทำรายได้จากศิลปินที่ชอบ | Techsauce

Binance ประกาศจับมือ SM Entertainment ลุยโลก NFT ให้แฟน Kpop ทำรายได้จากศิลปินที่ชอบ

หลังจากที่ Binance แพลตฟอร์มซื้อขาย Crypto รายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศจับมือกับ YG Entertainment Inc. (YG) ค่ายเพลงชั้นนำของเกาหลีใต้ไปได้ไม่นาน ล่าสุดก็ไปต่อกับอีกหนึ่งค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีอย่าง SM Entertainment (SM) ผ่านการทำ MoU เพื่อสร้างความร่วมมือกับ SM Brand Marketing (SMBM) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ SM

หลังจากที่ Binance แพลตฟอร์มซื้อขาย Crypto รายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศจับมือกับ YG Entertainment Inc. (YG) ค่ายเพลงชั้นนำของเกาหลีใต้ไปได้ไม่นาน ล่าสุดก็ไปต่อกับอีกหนึ่งค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีอย่าง SM Entertainment (SM) ผ่านการทำ MoU เพื่อสร้างความร่วมมือกับ SM Brand Marketing (SMBM) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ SM

ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ ทาง Binance และ SMBM จะสร้างระบบนิเวศ Play-to-Create (P2C) ในระดับโลก โดยจะเริ่มจากการทำงานร่วมกันในเรื่อง NFT ซึ่งเป็นแนวคิดของ ลี ซูมาน (Soo-Man Lee) ผู้ก่อตั้ง SM ที่ให้ผู้ใช้สามารถผลิตคอนเทนต์และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ขึ้นมา ในรูปแบบของเกม ดนตรี การเต้น ไปจนถึงสินค้า 

โดยในระบบนิเวศของ P2C ผู้ใช้สามารถทำรายได้จากการผลิตคอนเทนต์และผลิตภัณฑ์ออกมาในรูปแบบ NFT ซึ่งเป็นอีกความก้าวหน้าหนึ่งของโมเดล Play-to-Earn (P2E) ที่มีอยู่ในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นการยกระดับความสร้างสรรค์ภายในอุตสาหกรรม Kpop ด้วยการมีส่วนร่วมของทั้งแฟนคลับ บริษัท และศิลปิน

สำหรับความร่วมมือในการสร้างระบบนิเวศ ทาง Binance จะเป็นผู้ดูแลในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสำหรับ Blockchain และ NFT ในขณะที่ SMBM จะดูแลในเรื่องของลิขสิทธ์ิศิลปินในสังกัดที่มีทั้ง SJ, Girls' Generation, SHINee, EXO, Red Velvet, NCT, aespa และอีกมากมาย รวมถึงสนับสนุนในด้านการวางเนื้อหาและการสร้างแพลตฟอร์ม

ทั้งนี้ Global Head ของ Binance NFT อย่าง Helen Hai ได้กล่าวว่า Binance ดีใจที่ได้ทำงานร่วมกับ SMBM เพื่อพัฒนาระบบนิเวศ P2E ไปสู่ P2C ทั้งยินดีเป็นผู้จัดหาเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพให้กับ SMBM เพื่อสนับสนุนแฟนๆ Kpop ทั่วโลก ที่หลงใหลในการสร้างคอนเทนต์จากศิลปินที่ตนชื่นชอบและต้องการสร้าง Passive Income จากงานอดิเรก

ทางด้าน Sung-su Lee ซีอีโอของ SMBM กล่าวว่า SM กำลังสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับ Metaverse อย่างหลากหลายผ่าน SMCU (SM Culture Universe) รวมไปถึง Metaversal Origin Stories และด้วยการผสานความสามารถทางการผลิตของ SM และประสิทธิภาพในแพลตฟอร์ม e-Commerce จาก SMBM เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีของ Binance จะทำให้เกิดนวัตกรรมเพื่อสร้างระบบนิเวศ P2C ไปจนถึงการขยับขยายของธุรกิจต่างๆ เข้าสู่อุตสาหกรรม Blockchain

อ้างอิง Binance

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะลึก Sovereign AI สำคัญอย่างไร ? จากปาก Jensen Huang ในวันที่ ‘ข้อมูลไทย’ คือทรัพยากรใหม่

สำรวจบทบาทของ Sovereign AI ในการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย พร้อมคำอธิบายจาก Jensen Huang CEO ของ NVIDIA เกี่ยวกับ AI ไทยและ Open Thai GPT ที่จะเปลี่ยนอนาคตของเทคโนโลยีในประเทศไทย...

Responsive image

สรุป 3 ความร่วมมือ Jensen Huang ร่วมงาน AI Vision for Thailand ไทยได้อะไรบ้าง ?

Jensen Huang เดินทางเข้าร่วมงาน AI Vision for Thailand จัดขึ้นโดย SIAM.AI CLOUD โดยได้เผยวิสัยทัศน์การขับเคลื่อน AI ในประเทศไทย ทั้งนี้ Siam.AI ได้เปิดตัวโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ...

Responsive image

Apple เสนอลงทุนในอินโดฯ เพิ่ม 10 เท่า มูลค่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐ สู้ปลดแบน iPhone 16

Apple ทุ่มสุดตัว! เพิ่มเงินลงทุนในอินโดนีเซีย 10 เท่า เป็น 1,000 ล้านดอลลาร์ จากเดิม 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังข้อเสนอเดิมถูกปัดตก เป้าหมายปลดแบนการขาย iPhone 16 ในอินโดฯ ให้สำเร็จ...