แน่นอนว่าหากใครที่ตามเทรนด์ ตามกระแสของ Cryptocurrency มาอย่างต่อเนื่อง ก็คงจะคุ้นเคยกันดีกับ Bitkub แพลตฟอร์มเทรดเหรียญชั้นนำของประเทศไทย ที่ล่าสุดได้ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญแห่งวงการบล็อกเชน ผ่านงานใหญ่ที่ถูกจัดขึ้นภายใต้ชื่อ Bitkub Chain “THE NEXT CHAPTER” ที่จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ในประเทศไทย
โดย บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด ผู้สร้างและดำเนินการ Bitkub Chain เครือข่ายบล็อกเชนที่ได้รับความนิยมและมีการใช้งานอย่างแพร่หลายที่สุดในประเทศไทย ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ Erawan Hard Fork ที่จะยกระดับประสิทธิภาพของบล็อกเชนขึ้นไปอีกขั้น เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นเครือข่ายบล็อกเชนระดับโลกในอนาคต
เริ่มด้วยการแสดงวิสัยทัศน์ในประเด็นเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนและการเกิดขึ้นของ Bitkub Chain จากจุดเริ่มต้น สู่อนาคต ในการเป็นโครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีบล็อกเชนของประเทศไทย ทั้งมุมมองธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต
ตามด้วยการเปิดตัวเครือข่ายพันธมิตรที่ร่วมกันเป็น Node Validator ของ Bitkub Chain ภายหลังจากเสร็จสิ้น Erawan Hard Fork ที่มีการอัพเกรดจำนวน Node Validator จาก 11 Node เป็น 21 Node ซึ่งประกอบด้วยบริษัทและเครือข่ายธุรกิจชั้นนำ ที่นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของวงการธุรกิจและเทคโนโลยี
ทั้งนี้ คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เปิดเผยว่า เทคโนโลยีได้เข้ามาปลดล็อกอะไรหลาย ๆ อย่างให้กับเศรษฐกิจและชีวิตประจำวันของเรา อย่างแรกเลยคืออินเทอร์เน็ต ที่ได้เข้ามาปลดล็อก Free Flow of Data ทำให้เราสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตกันได้ง่ายขึ้น ซึ่งทำให้เศรษฐกิจบนโลกดิจิทัลมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตอันใกล้นี้เศรษฐกิจดิจิทัลจะมีขนาดใหญ่มากขึ้น
เนื่องจากการมาของเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Internet from the sky ที่จะเป็นการยิงสัญญาณอินเทอร์เน็ตลงมาจากดาวเทียม ทำให้พื้นที่ทุรกันดารสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันเทคโนโลยีบล็อกเชนกำลังเข้ามาปลดล็อก Free Flow of Capital ทำให้เม็ดเงินในเศรษฐกิจสามารถหมุนเวียนได้ง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องผ่านตัวกลาง ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือ Micro Entrepreneurship มากขึ้น ซึ่งทางกลุ่ม Bitkub กำลังพัฒนาเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อมาสนับสนุนประเทศไทยให้สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีได้”
คุณภาสกร ปานนอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า Bitkub chain มีความต้ังใจคืออยากจะมี Blockchain Infrastructure ที่เป็นคนของคนไทยที่จะสามารถนำ Business Use Case ต่างๆ เข้ามาพัฒนา Ontop อยู่บนระบบ Bitkub chain ให้ได้ ดังนั้นสิ่งที่เราทำจะเน้นในกลุ่มที่เป็น Mass Adoption ที่จะดึงผู้คนให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ง่ายที่สุด ด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด จึงเป็นที่มาของโปรเจกต์ Bitkub chain
“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะสามารถเพิ่มศักยภาพต่อผู้ใช้งาน พร้อมยกระดับ Bitkub Chain ให้ก้าวไปสู่การใช้งานระดับโลก รวมทั้ง Ecosystem ที่จะสนับสนุนให้ Bitkub Chain กลายเป็นบล็อคเชนที่น่าภาคภูมิใจของคนไทย โดย Bitkub NEXT จะเปรียบเสมือนประตูเชื่อมผู้ใช้งานระหว่างโลกความจริงและโลกดิจิทัลเข้าด้วยกัน”
รวมทั้งล่าสุด Bitkub Chain ได้เปิดตัวเครือข่ายพันธมิตรที่ร่วมเป็น Node Validator ภายหลังจากเสร็จสิ้นโปรเจกต์ Erawan Hard Fork ซึ่งทำให้ Bitkub Chain เติบโตต่อไปได้ในอนาคต
โดยมีรายชื่อ ดังนี้ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน), บริษัท ทีพีซีเอส จำกัด (มหาชน), บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน), บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน), บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน, บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน), บริษัท ทีพีซีเอ็กซ์ จำกัด
บริษัท อินสเปค จำกัด,ไดมอนด์ ไฟแนนซ์, บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท มัลติพลาย เทคโนโลยี จำกัด, บริษัท สมาร์ทคอนแทรค บล็อกเชน สตูดิโอ, บริษัท วิลล่า มาร์เก็ท เจพี จํากัด, บริษัท เก็ทลิงส์ จำกัด, บริษัท เอ บี เอ็กซ์ จำกัด, บริษัท ซิคซ์ เนทเวิร์ค, บริษัท ฟิน สเตเบิ้ล จำกัด, บริษัท ชินเอ เซอร์วิส จำกัด, บริษัท ดิ๊ก ดิ๊ก จำกัด, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อาชว์ 2021 (ประเทศไทย) จำกัด
รวมทั้ง Erawan Hard Fork ได้วางแพลนไว้ 3 เสต็ปโดยเริ่มจาก POA เป็น POSA ก่อนจะไป POS ในระดับถัดไป
จากนั้นมีแผนที่จะเพิ่ม Transaction จากเดิมรับได้ประมาณ 2,000 ต่อวินาที เป็น 100,000 และจะเพิ่มไปเรื่อยๆ ซึ่งการเพิ่มตรงนี้โดยที่ 21 Node อยู่ที่ 60 ล้าน Transaction สุดท้ายจะนำพา Node ไปสู่ Global โดย Erawan Hard Fork จะเริ่มวันที่ 1 เมษายน 2565 ภายใต้ No.5519559
โดยทั้งหมดนี้มีวัตถุประสงค์คือ ต้องการที่จะให้ภาคธุรกิจ ผู้ใช้ สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายที่สุด แต่ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่จะทำให้ Bitkub Chain เติบโตในระดับที่เป็น Global ได้เราจำเป็นต้องขยาย Ecosystem และ Performance เพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น โดยมุ่งหวังว่า Bitkub Chain และ Node Validator จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่จะช่วยผลักดันให้ก้าวสู่โลกดิจิทัลได้อย่างแท้จริง
1.Bitkub Next กระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ มีทั้ง Web และ Mobile Application โดย IOS กำลังจะลอนซ์ พร้อมกับใช้ได้ทั่วโลกผ่านเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถใช้ได้ทุกที่
2.Bitkub NFT
3.Creator Studio โดยที่ทุกคนจะสามารถสร้างแพลตฟอร์ม NFT ได้เอง ภายในเดือนเมษายน 2022
4.Social DAO การทำให้ NFT มีมูลค่ามากขึ้นโดยการบอกว่า NFT เป็นตัวแทน หลักฐานว่าเป็นส่วนหนึ่งของ Community โดยจะลอนซ์ภายในเดือนพฤษภาคม 2022
5.More Store เพิ่มไม่ว่าจะเป็น LINE รวมทั้งมี NFT Easy Payment
6.Metaverse
7.Earn KUB คือ Multiverse Tracking & Reward Platform โครงสร้างพื้นฐานที่ถูกสร้างขึ้นเป็นแพลตฟอร์มเพื่อโอกาส ทำให้โลกจริงและโลกเสมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน
1.โฟกัสการดึง Community การดึง Developer เข้ามาพัฒนาโปรเจกต์ต่างๆบน Bitkub Chain ให้มากขึ้น
2.Bitkub Tech Challenge 2022 รวมถึงการจัดงาน Hackathon
3.Blockchain Consortium เพื่อสร้างให้ Ecosystem ของ Bitkun Chain แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
4.Project Investment via Bitkub Venture
5.Blockchain Development Course via Bitkub Academy หลักสูตรผ่านบิทคับ Academy
6.Bitkub M Gallery ที่จะเชื่อมโยงจริงกับโลกดิจิทัล
ทั้งหมดนี้จะเป็นการผลักดันในรูปแบบ Official, Verified และ Registered
1.NFTs
2.Defi
3.Gamefi
4.Metaverse
โดยทั้งหมดคือส่วนประกอบหนึ่งเดียวของ Bitkub Chain Ecosystem และ Bitkub Next ที่เป็นประตูในการเชื่อมเข้าสู่โลกทั้งหมดทั้ง NFTs, Defi, Gamefi, Metaverse
คุณภาสกร ปานนอก เปิดเผยว่า เราจะเน้นการขยายอีโคซิสเต็ม ทำเรื่องของ NFTs ในส่วนของ Defi จะมีโปรเจกต์ใหม่ๆทั้ง Social DAO ในส่วนของ Gamefi มีเกมใหม่เพิ่มอีก 4 เกม
นอกจากนี้ในส่วนของ Metaverse นอกจาก Bitkub Metaverse ซึ่งเป็น Official จะมี Metaverse Thailand ที่จะย้าย Chain มาอยู่บน Bitkub Chain โดยจะมีการขาย Land โดยสามารถใช้เหรียญ Kub ในการจับจองพื้นที่บน Metaverse Thailand ได้ คาดว่าจะเริ่มในเร็วๆนี้ และทั้งหมดนี้จะเป็นโรดแมปของ Bitkub Chain ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้
รวมทั้งในเร็วๆนี้ในส่วนของ POSA จะดำเนินเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ ส่วนบิทคับเน็กซ์บนโมบายที่มีเวอร์ชั่นบน Andriod ส่วนใน IOS จะเปิดตัวในเร็วๆนี้เช่นกัน รวมทั้ง Bitkub Next KYC จะเกิดใน Q1 เช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีโปรเจกต์ต่างๆ ของ Bitkub Chain ที่จะเกิดขึ้นอีกมากมายตั้งแต่ Q1 ไปจนถึง Q4 ของปี 2022 ที่จะเข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับวงการ Blockchain ได้อย่างน่าสนใจ
ทั้งนี้ภายในงานยังมีการเชิญผู้พัฒนาโปรเจกต์ต่าง ๆ ใน Ecosystem ของ Bitkub Chain ขึ้นมาร่วมพูดคุยพร้อมอัพเดทข้อมูลการพัฒนาโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่กำลังจะเปิดใช้งานจริงในเร็ว ๆ นี้ อย่าง Defi, GameFi, NFT และ Metaverse
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด