บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ที่ปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันครบวงจร ประกาศปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่โดยใช้ AI เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ผ่านแนวคิด AI Transformation ที่เน้นการนำ AI ผสานเข้ากับบริการหลักทั้งหมด (Bundled Services) เพื่อลดความเสี่ยงของโครงการด้าน AI และช่วยให้องค์กรปรับใช้เทคโนโลยีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทรนด์การใช้ AI ในภาคธุรกิจยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ดังนั้น AI Transformation จะยังอยู่ในช่วงขาขึ้นนับจากนี้ รายงานล่าสุดของการ์ทเนอร์ ระบุว่า ความต้องการใช้ AI สำหรับองค์กรทั่วโลกเติบโตเฉลี่ย 16.9% ต่อปี (ตั้งแต่ปี 2566 - 2570) และจะทะยานแตะ 4.43 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2570
โดยบริษัทฯ ประเมินว่าองค์กรที่เริ่มปรับใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนจะสามารถสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง และกดดันให้ธุรกิจต้องมุ่งปรับใช้ AI อย่างมีกลยุทธ์ในที่สุด จากโอกาสดังกล่าวนี้ผนวกกับศักยภาพของบลูบิค ทั้งในแง่ความพร้อมด้านกำลังพลผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเฉพาะด้านมากกว่าพันคน ประสบการณ์ และกลยุทธ์ Bundled Services ที่มีบริการด้าน AI เป็นแกนหลัก จะสามารถสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจและบรรลุวัตถุประสงค์การดำเนินโครงการด้านดิจิทัลขององค์กรลูกค้าได้
แม้ว่า AI จะเป็นเทคโนโลยีที่องค์กรต้องเร่งนำมาใช้ในธุรกิจ แต่การทำให้ AI Transformation ประสบความสำเร็จยังถือเป็นความท้าทายสำคัญ มีอุปสรรคหลายอย่าง เช่น การลงทุนใน AI ที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร โครงสร้างไอทีที่ยังไม่พร้อมรองรับในระยะยาว หรือการพัฒนาโมเดล AI ที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์และการขาดแนวทางชัดเจนในการนำ AI ไปใช้งานจริง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่องค์กรต้องจัดการให้ได้
บลูบิค ชูกลยุทธ์การให้บริการด้วยการนำ AI เป็นแกนกลางผสานทุกบริการหลัก (Bundled Services) เพื่อสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจจาก AI ให้เกิดขึ้นจริง ครอบคลุมทั้ง 5 ด้านหลัก
Bluebik มองเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาด Digital Transformation ของไทย ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท และเติบโตปีละประมาณ 20% โดยปัจจุบัน Bluebik มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ราว 10% และตั้งเป้าเติบโตปีหน้า 20% ด้วยจุดแข็งคือการให้บริการแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การวางกลยุทธ์ AI การพัฒนา AI โมเดล การสร้างแอปพลิเคชัน ไปจนถึงการดูแลเรื่องธรรมาภิบาล AI ซึ่งช่วยลดความผิดพลาด เพิ่มความรวดเร็ว และควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าการใช้บริการจากหลายๆ ที่
ในปีหน้า Bluebik มีแผนจะรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยตั้งเป้ารายได้จากต่างประเทศไว้ที่ 15% และโฟกัสที่ตลาด South East Asia โดยเฉพาะเวียดนาม รวมถึงมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
บลูบิคได้วางกลยุทธ์การให้บริการแบบ Bundled Services เพื่อรองรับกระแส AI Transformation โดยมีเป้าหมายหลักในการช่วยลดความเสี่ยงขององค์กรลูกค้าในโครงการที่เกี่ยวข้องกับ AI พร้อมทั้งช่วยให้ธุรกิจสามารถนำ AI ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมาย นอกจากนี้ยังมุ่งยกระดับธุรกิจในประเทศไทยให้ทันสมัยและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในยุคเศรษฐกิจไร้พรมแดน นายพชร กล่าวทิ้งท้าย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด