Bluebik เปิดแผนธุรกิจต่างประเทศ เตรียมเปิดตลาดอาเซียนปีนี้ พร้อมมองไกล ขยายไปยุโรปและอเมริกาภายในปี 67 | Techsauce

Bluebik เปิดแผนธุรกิจต่างประเทศ เตรียมเปิดตลาดอาเซียนปีนี้ พร้อมมองไกล ขยายไปยุโรปและอเมริกาภายในปี 67

บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK (Bluebik) ที่ปรึกษาชั้นนำผู้ให้บริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันครบวงจร พร้อมลุยตลาดต่างประเทศเริ่มจากอาเซียน ต่อด้วยยุโรปและสหรัฐอเมริกา ผ่านบริษัทในเครือ “บลูบิค โกลบอล” ที่จัดตั้งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา 

Bluebik เปิดแผนรุกตลาดต่างประเทศ ปักธงอาเซียนเป็นที่แรก เตรียมจัดตั้ง Academy สร้างทักษะแห่งอนาคต

โดยในปีนี้ปักหมุดเปิดตลาดประเทศเศรษฐกิจแข็งแกร่งในอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม พร้อมเตรียมขยายสู่ยุโรปและสหรัฐอเมริกาในปี 2567 ชูจุดแข็งด้านคุณภาพบุคคลากรและการให้บริการมาตรฐานสากล มั่นใจขีดความสามารถการบริการแก่ลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นรวมทั้งศักยภาพด้านบุคลากรจากต่างชาติที่เข้ามาจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้องค์กร โดยตั้งเป้าเทียบชั้นบริษัทที่ปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันระดับโลกในตลาดอื่นๆภายใน 5 ปี 

คุณพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ภาคธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนหลายๆ ประเทศมีความตื่นตัวต่อกระแสดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันและการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ โดยพบว่ามีความต้องการในการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคดิจิทัลค่อนข้างมาก 

ทำให้งานด้านบริการที่ปรึกษาด้านดิจิทัลและพัฒนาเทคโนโลยีภายในองค์กร (Digital Excellence & Delivery) รวมไปถึงงานบริการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง (Big Data & Advanced Analytics) ของบลูบิคสามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นบริษัทฯยังมั่นใจอีกด้วยว่าประสบการณ์ของพนักงานบลูบิคซึ่งล้วนแต่เคยผ่านงานในบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกมาแล้ว และความได้เปรียบด้านราคาจะสามารถเข้าไปเจาะตลาดในภูมิภาคนี้ได้ไม่ยาก  

“ทั่วโลกกำลังรับมือกับกระแสดิจิทัลดิสรัปชัน ดังนั้นการขยายบริการไปยังต่างประเทศช่วงเวลานี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมเพราะมีโอกาสเติบโตอย่างมหาศาลเนื่องจากตลาดต่างประเทศมีขนาดใหญ่และมีความต้องการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้สูง ยกตัวอย่างเช่น ประเทศอินโดนีเซียที่เราได้เข้าไปทำตลาดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว มีบริษัทสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นหลายแห่งและมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ดำเนินธุรกิจในสัดส่วนที่มากกว่าประเทศไทย อีกทั้งเศรษฐกิจของอินโดนีเซียยังมีขนาดใหญ่กว่าประเทศไทยเกือบสองเท่า และเป็นประเทศที่มีการลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย ด้วยเหตุนี้ตลาดต่างประเทศจะเป็นอีกกลไกสำคัญขับเคลื่อนอนาคตให้กับบลูบิค (Growth Engine) ทั้งในมิติการสร้างความแข็งแกร่งเชิงรายได้ในระยะยาว และมิติของการเพิ่มองค์ความรู้และประสบการณ์ทำงานที่ท้าทายให้กับบุคลากร” 

สำหรับตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่กว่าตลาดอาเซียนมากและมีความต้องการในการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันสูงมากเช่นกัน ประกอบกับกระแสการทำงานแบบ Remote Work ที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น ทำให้การจ้างทีมงานมืออาชีพจากองค์กรภายนอกที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านได้รับความนิยมสูงตามไปด้วย ดังนั้นบริษัทฯเห็นโอกาสขยายบริการไปยังภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะการให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศขนาดใหญ่ 

เตรียมจัดตั้ง Bluebik Academy มุ่งเสริมสร้าง ทักษะแห่งอนาคตในด้านต่างๆ

สำหรับแผนรองรับการขยายตัวในตลาดต่างประเทศนั้น บริษัทฯยังได้วางแผนบริหารความเสี่ยงเกี่ยวกับค่าเงินไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงมีแผนพัฒนาบุคคลากรผ่านโครงการ Bluebik Academy ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเสริมสร้าง ทักษะแห่งอนาคตในด้านต่างๆ อาทิ Data Science หรือ Advanced Analytics เป็นต้น  อีกทั้งยังมี Bluebik Technology Center ที่จัดตั้งขึ้นในประเทศอินเดีย ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมและความรู้ทางเทคโนโลยี และเป็นศูนย์กลางฝึกอบรมและเฟ้นหาบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีมาเสริมทัพในการให้บริการทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ 

คุณพชร กล่าวว่า ประสบการณ์การทำงานในตลาดที่มีการแข่งขันสูงและท้าทายความสามารถอย่างตลาดต่างประเทศที่มีความก้าวหน้าในการนำเทคโนโลยีมาใช้งานและความต้องการที่หลากหลายจะช่วยดึงดูดความสนใจของคนทำงานด้านไอทีและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ ยกตัวอย่างเช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันขนาดใหญ่ในประเทศไทยอาจจะทำเพื่อรองรับการใช้งานราว5-10 ล้านคน แต่ในต่างประเทศการพัฒนาแอปพลิเคชันอาจต้องรองรับการใช้งานตั้งแต่หลายสิบล้านจนถึง 100 ล้านคน 

ดังนั้นการออกแบบและพัฒนาจะยากและซับซ้อนกว่ามาก ด้วยเหตุนี้การบ่มเพาะประสบการณ์การทำงานต่างประเทศจะเป็นการยกระดับความสามารถให้แก่พนักงานบลูบิคโดยเฉพาะสายไอที (Tech Talents) และสามารถนำองค์ความรู้เหล่านั้นมาปรับใช้กับโครงการต่างๆ ในประเทศ เป็นการสร้างมาตรฐานงานและการให้บริการที่สามารถตอบสนองความต้องการอย่างเหนือความคาดหมายให้กับลูกค้า และจุดนี้จะเป็นการสร้างความแตกต่างในแง่คุณภาพงานระหว่างบลูบิคและคู่แข่งในประเทศ

“ปัจจุบันบริษัทมีรายได้เป็นสัดส่วนประมาณ 14% จากตลาดต่างประเทศ ซึ่งรายได้จากต่างประเทศนับจากนี้จะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพไปพร้อมกับรายได้รวมที่ตั้งเป้าไว้ โดยบริษัทได้วางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 50% ซึ่งการขยายธุรกิจในครั้งนี้จะทำให้อีก 5 ปีนับจากนี้ บลูบิคจะเป็นหนึ่งในบริษัทที่ปรึกษาผู้ให้บริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันชั้นนำที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกตามแผนที่วางไว้” 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Burnout ใครว่าเรื่องเล็ก พนักงานหมดไฟ 1 คน บริษัทจะเสียเงินเท่าไหร่?

ภาวะหมดไฟ หรือ Burnout Syndrome ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่คอยกัดกินสุขภาพกายและใจของเรา แต่มันคือ 'ระเบิดเวลา' ที่ถูกมองความและสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับหลายองค์กรทั...

Responsive image

Techsauce - สภาหอการค้าไทย - มหาวิทยาลัยหอการค้า จับมือเตรียมยกระดับภาคการศึกษาและธุรกิจไทย

Techsauce สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (Harbour.Space@UTCC) ลงนาม MOU ส่งเสริมองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพของเยาวชนและผู้ประกอบการไทย...

Responsive image

OpenAI เปิดตัว Responses API เร่งพัฒนา AI Agents ใช้จริงในโลกธุรกิจ

OpenAI ได้ประกาศเปิดตัวเครื่องมือใหม่ล่าสุดในชื่อ Responses API ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันการพัฒนา AI Agents หรือระบบอัตโนมัติที่สามารถปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง โดย...