เป็นข่าวอีกครั้งเมื่อบริษัทที่มี Unfair Advantage อย่างกลุ่ม CP และบริษัท True มีแผนตั้งตู้เติมเงินในชื่อ "ตู้เติม ทรู" พัฒนาซอฟแวร์โดยบริษัท ascend group (บริษัทในเครือเช่นกัน) โดยนำมาเผยในงานสัมมนาของกลุ่มคู่ค้าเมื่อไม่นานมานี้ พร้อมเปิดให้มีการจองตู้ไปด้วย โดยตั้งเป้าว่าต้องกระจายตู้ไปได้กว่า 40,000 ตู้ด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันมีคู่ค้าจองไปแล้วกว่า 1,000 ตู้ ถ้าอ่านมาถึงแค่ตรงนี้อาจไม่ได้เป็นประเด็นร้อนแรงอะไร แต่ถ้ามองย้อนกลับไปว่า ถ้าตู้ดังกล่าวไปตั้งที่ 7-Eleven จะเกิดอะไรขึ้น
ก่อนหน้านี้มีข่าวเรื่อง 7-Eleven ได้ยกเลิกการจำหน่ายบัตรเติมเงิน One-2-Call ของกลุ่ม AIS ซึ่งมีผู้ใช้กว่า 33.5 ล้านเลขหมาย ส่งผลให้เหมือนส้มหล่นมาที่ ตู้เติมเงินบุญเติม มียอดเติมเงินเพิ่มขึ้น 20% โดยประมาณการเป็นตัวเงินอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท อันมาจากการเทมาของกลุ่มผู้ใช้ One-2-Call ที่มาเติมเงินที่นี่
โดยตู้บุญเติมนั้นดำเนินการโดยบริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (Forth Smart Service Public Company Limited) ซึ่งเป็นบริษัทที่คลุกคลีอยู่ในวงการโทรคมนาคมมาอย่างยาวนานทั้งโครงข่ายและตู้ PABX แต่หลังจากที่บริษัท True เปิดตัวตู้เติมเงินของตนเองขึ้นมา ราคาหุ้นของ ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส ก็ร่วงจาก 22 บาทลงมาที่ 18 บาททันที
แม้สมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด กล่าวกับสื่อว่า ไม่ได้กังวล หรือมีผลกระทบ เพราะปัจจุบันมีตู้กว่า 9 หมื่นตู้ทั่วประเทศ และอยู่หน้าร้าน 7-Eleven กว่า 8,000 ตู้ และยังคงเป็นพันธมิตรที่ดีกับ True ซึ่งทาง True จะไปตั้งตู้ในจุดที่ ตู้บุญเติม ไม่มี
คงต้องดูกันต่อว่า ตู้บูญเติม หน้า 7-Eleven กว่า 8,000 ตู้เหล่านี้จะเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่ "ตู้ เติม ทรู" มา จะเกิดกรณีเดียวเฉกเช่นกับ One-2-Call หรือไม่?
ในขณะที่ 7-Eleven ทุกวันนี้แปลงโฉมติดอาวุธไม่ใช่แค่ร้านสะดวกซื้อทั่วไปแล้ว แต่กำลังจะเริ่มกลายเป็นสาขาธนาคารเข้าไปทุกที...อ่านบทวิเคราะห์เพิ่มเติมธุรกิจ CP ได้ที่นี่
อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด