"ไม่ได้แบน" แต่ "ขอความร่วมมือ" : ธปท. ขอสถาบันการเงินไม่ให้ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency | Techsauce

"ไม่ได้แบน" แต่ "ขอความร่วมมือ" : ธปท. ขอสถาบันการเงินไม่ให้ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกหนังสือหนังสือเวียนถึงสถาบันทางการเงินทุกแห่ง ระบุ "ขอความร่วมมือ" ไม่ให้ทำธุรกรรมหรือมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency ให้เหตุผล Cryptocurrency มีความผันผวนสูง ระบุผู้ออกไม่ได้อย่างชัดเจน และอาจถูกใช้เป็นช่องทางในการกระทำผิดกฎหมายได้ เช่น การฟอกเงิน หรือ การสนับสนุนการก่อการร้าย

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกหนังสือจดหมายเวียนถึงสถาบันการเงินทุกแห่งในประเทศไทย โดยเนื้อหาระบุว่า "ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เล็งเห็นถึงประเด็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Cryptocurrency ที่ไม่สามารถระบุผู้ออกได้อย่างชัดเจน หรือไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกันตามมูลค่าหรือไม่มีสินทรัพย์อ้างอิง"

ธปท. จึงขอความร่วมมือสถาบันการเงินทุกแห่ง ไม่ให้ทำธุรกรรมหรือมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency ใน 5 กรณี ได้แก่

  1. การเข้าไปลงทุนหรือซื้อขายใน Cryptocurrency เพื่อผลประโยชน์ของสถาบันการเงินเองหรือผลประโยชน์ของลูกค้า
  2. การให้บริการรับแลกเปลี่ยน Cryptocurrency  ผ่านช่องทางให้บริการของสถาบันการเงิน
  3. การสร้างแพลตฟอร์ม (platform) เพื่อเป็นสื่อกลางให้ลูกค้าเข้าไปทำธุรกรรมเกี่ยวกับ Cryptocurrency ระหว่างกัน
  4. การให้ลูกค้าใช้บัตรเครดิตในการซื้อคริปโตเคอเรนซี
  5. การสนับสนุนหรือให้คำปรึกษากับลูกค้าเกี่ยวกับการลงทุนหรือการแลกเปลี่ยน Cryptocurrency

โดยในแถลงการณ์ระบุถึงปัญหาที่ ธปท. มองเห็น คือ

  1. Cryptocurrency ไม่สามารถระบุผู้ออกได้อย่างชัดเจน
  2. Cryptocurrency ไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกันตามมูลค่าหรือไม่มีสินทรัพย์อ้างอิง
  3. Cryptocurrency มีความผันผวนสูงเนื่องจากเกิดการเก็งกำไร มีความเสี่ยงจากการขาดทุนสูง
  4. Cryptocurrency ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว
  5. ประเทศไทยยังไม่ได้กำหนดให้ Cryptocurrency เป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย
  6. Cryptocurrency อาจถูกใช้เป็นช่องทางในการกระทำผิดกฎหมายได้ เช่น การฟอกเงิน หรือ การสนับสนุนการก่อการร้าย
  7. กังวลเรื่องความปลอดภัยของ Cryptocurrency เพราะทำธุรกรรมบนเทคโนโลยีทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ ธปท. ขอให้สถาบันการเงินทุกแห่งเพิ่มความระมัดระวังการให้บริการด้านเงินฝากและด้านสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชี หรือการใช้บัญชีที่อาจนำไปสู่การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency โดยขอให้สถาบันการเงินถือปฏิบัติในเรื่องการรู้จักตัวตนของลูกค้า (Know Your Customer : KYC) และดำเนินการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence : CDD) อย่างเคร่งครัด ตามกฎหมายและประกาศที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนแนวปฏิบัติที่ทางการอาจกำหนดเพิ่มเติมต่อไปอีกด้วย

อ้างอิงข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (1) และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (2)

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ลาออกแล้ว ไปทำงานกับคู่แข่งได้ สหรัฐฯ ออกกฎใหม่ห้ามบริษัททำสัญญา Non Compete

ลาออกแล้ว ไปทำงานบริษัทคู่แข่งได้ สหรัฐฯ เตรียมใช้กฎใหม่ ห้ามบริษัททำสัญญา Non Compete มองปิดโอกาสคนทำงาน ฉุดรั้งเศรษฐกิจประเทศ...

Responsive image

Money20/20 Asia ยกระดับวงการฟินเทคเอเชีย ยักษ์ใหญ่ตบเท้าเข้าร่วมงานคับคั่ง

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับงาน Money20/20 Asia ครั้งแรกที่ประเทศไทยและเอเชีย ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 23 - 25 เมษายน 2567 งานทยกระดับอุตสาหกร...

Responsive image

ประกวดนางงาม Miss AI ครั้งแรกของโลก ที่ส่วนใหญ่สร้างตาม Beauty Standard

ตอนนี้มี Miss AI หรือนางงามปัญญาประดิษฐ์ที่จะมาประชันความงามกันบนโลกดิจิทัลแล้ว ด้านผู้จัดการประกวดหวังช่วยผลักดันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี...