BYD เปิดโรงงานผลิตรถแห่งแรกในไทย ตั้งเป้าส่งออกอาเซียน กำลังผลิต 150,000 คันต่อปี | Techsauce

BYD เปิดโรงงานผลิตรถแห่งแรกในไทย ตั้งเป้าส่งออกอาเซียน กำลังผลิต 150,000 คันต่อปี

BYD บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ และ Rêver Automotive ผู้จัดจำหน่าย และให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดโรงงาน BYD ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ อุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ จังหวัดระยอง มุ่งเป็นฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวาเพื่อจำหน่ายในไทย และส่งออกอาเซียน

โรงงาน BYD แห่งแรกในประเทศไทย มีพื้นที่กว่า 948,000 ตารางเมตร ใช้เวลาสร้างเพียง 16 เดือน มาพร้อมแนวคิดการลดใช้พลังงาน และคาร์บอนต่ำ ครบครันด้วยเครื่องจักรกลอัตโนมัติ และครอบคลุม 4 ขั้นตอนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ การขึ้นรูป การเชื่อม การทำสี และการประกอบ โดยมีกำลังการผลิตสูงสุด 150,000 คันต่อปี ได้แก่ BYD DOLPHIN, BYD ATTO 3, BYD SEAL และ BYD SEALION 6 รวมทั้งยังสามารถผลิตแบตเตอรี่ และระบบส่งกำลังได้ด้วย ซึ่งเมื่อโรงงานดำเนินการเต็มรูปแบบแล้ว คาดว่าจะสร้างงานให้กับคนในประเทศได้มากกว่า 10,000 ตำแหน่ง

โรงงานแห่งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญสู่เป้าหมายของ BYD ในการขยายธุรกิจครอบคลุมทั่วโลก แสดงถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสนับสนุนนโยบายภาครัฐไทยในการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า มุ่งสู่เป้าหมาย 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2573

ในพิธีเปิดโรงงานในประเทศไทย BYD ได้มอบรถยนต์ไฟฟ้า BYD DOLPHIN ซึ่งเป็นคันที่ 8 ล้าน ผลิตจากโรงงานใหม่ล่าสุด ให้กับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยได้รับเกียรติจาก นายหวัง ชวนฟู่ ประธานกรรมการและประธานบริษัท BYD Group มอบรถให้กับตัวแทนมูลนิธิ หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์

BYD ได้ขยายการเติบโตในตลาดต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยในปี พ.ศ. 2566 บีวายดีส่งออกรถยนต์ 243,000 คัน เพิ่มขึ้นถึง 334% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ปัจจุบัน BYD มีการจำหน่ายยานยนต์พลังงานใหม่ใน 88 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก โดยมีฐานการผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศไทย บราซิล ฮังการี และอุซเบกิสถาน

นายหวัง ชวนฟู่ ประธานกรรมการและประธานบริษัท บีวายดี กรุ๊ป กล่าวว่า “บีวายดีได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วหลังจากเข้าสู่ตลาดประเทศไทยได้เพียง 2 ปี โดยประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้านยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าติดต่อกันถึง 18 เดือน ในอนาคต บีวายดีวางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเพิ่มเติมในประเทศไทย เราจะผสานความเป็นเลิศด้านการผลิตในประเทศเข้ากับเทคโนโลยีพลังงานใหม่ขั้นสูงของบีวายดี เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”

นายหลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า “การเปิดโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งใหม่ของบีวายดีในประเทศไทย เป็นก้าวสำคัญที่ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัท ที่มีต่อลูกค้าชาวไทย ควบคู่ไปกับการสานต่อเป้าหมายระดับโลก โรงงานแห่งนี้ไม่เพียงจะช่วยให้เราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ผลิตในไทย แต่ยังตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำแถวหน้าของโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ ที่สำคัญ เราเชื่อมั่นว่าโรงงานแห่งนี้จะสามารถสร้างโอกาสในการทำงานให้แก่ชาวไทยได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาแรงงานที่มีทักษะให้กับวงการยานยนต์และพลังงานทดแทนได้อีกด้วย นอกจากนี้ โรงงานบีวายดีประเทศไทยจะช่วยดึงดูดการลงทุนและส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อประเทศอย่างมหาศาล"

นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “ในปี พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา ทั่วโลกมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้ารวมถึงรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดประมาณ 14.2 ล้านคัน เราจึงมั่นใจว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจะยังคงเติบโตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่ง กลุ่มธุรกิจเรเว่ยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานตามพันธกิจในการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยพลังงานไฟฟ้า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น การเปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ของบีวายดีในประเทศไทยจะช่วยให้เราสานต่อวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ ‘NEW FUTURE, YOUR WAY’ ที่มุ่งมั่นผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น NEV Nation และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปีพ.ศ. 2608 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืนพร้อมกับขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ"

นางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวเสริมว่า “เราเชื่อว่าการเปิดโรงงานบีวายดีประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จะมีบทบาทสำคัญในการรองรับความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของเราในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทยและอาเซียน ทั้งยังตอกย้ำวิสัยนางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวเสริมว่า “เราเชื่อว่าการเปิดโรงงานบีวายดีประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จะมีบทบาทสำคัญในการรองรับความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของเราในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทยและอาเซียน ทั้งยังตอกย้ำวิสัยทัศน์ร่วมกันระหว่างบีวายดีและกลุ่มธุรกิจเรเว่ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพสูงที่ตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอของลูกค้าในไทยและประเทศอื่นๆ ที่ใช้รถยนต์พวงมาลัยขวา ขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจเรเว่จะยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายโชว์รูมให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้แข็งแกร่ง รวมถึงมอบประสบการณ์การขายและบริการหลังการขายเหนือระดับ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์แบบครบวงจรที่ราบรื่นและคุ้มค่า แทนคำขอบคุณสำหรับความไว้วางใจของผู้ใช้งานชาวไทยที่มอบให้กับเรามาโดยตลอด"

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สภาดิจิทัลฯ สกสว. บพข. ร่วมทำ MOU ดัน ‘วิจัย-นวัตกรรม-ดิจิทัล-AI’ มุ่งสู่ผู้นำเศรษฐกิจดิจิทัล

สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย (DCT) จัดงาน MOU ลงนามความร่วมมือกับ สกสว. (TSRI) และ บพข. (PMUC) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลด้วยงานวิจัย นวัตกรรม ดิจิทัล และปัญญาป...

Responsive image

รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศชัยชนะ เลิกใช้ ‘Floppy Disk’ ได้สักที

ประกาศชัยชนะเหนืออดีต และปักธงสู่ยุคใหม่ รัฐบาลญี่ปุ่นเลิกใช้ Floppy Disk ได้แล้ว ถือเป็นก้าวสำคัญในการปฏิรูประบบราชการให้ทันสมัย...

Responsive image

ปิดดีล! LG เข้าซื้อหุ้น 80% ของ Athom บริษัทแพลตฟอร์มสมาร์ทโฮม Homey พร้อมเร่งขยายธุรกิจ LG ThinQ ที่ขับเคลื่อนด้วย Gen AI

บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ จำกัด เข้าซื้อหุ้น 80% ของ Athom บริษัทแพลตฟอร์มสมาร์ทโฮมสัญชาติดัตช์ Homey พร้อมตั้งเป้าเข้าซื้อหุ้นที่เหลืออีก 20% ภายใน 3 ปีข้างหน้า และขยายธุรกิจ LG ...