JD และ CENTRAL ตั้งบริษัท 'CENTRAL JD Fintech' เตรียมนำระบบชำระเงินด้วยใบหน้าเข้าไทย

CENTRAL Group และ JD Group เปิดตัวบริษัท CENTRAL JD Fintech เตรียมนำระบบการชำระเงินด้วยใบหน้า (Payment with Facial Recognition) เข้ามาใช้ในการชำระเงินในห้างเครือเซ็นทรัลและผ่านเว็บ JD.co.th ในอนาคต พร้อมเปิดตัว Wallet ในปีหน้า Photo: Techsauce

ก่อนหน้านี้กลุ่มเซ็นทรัล (CENTRAL GROUP) ห้างค้าปลีกรายใหญ่ของไทย ร่วมทุนกับ JD.com เว็บ E-Commerce รายใหญ่จากจีน มูลค่า 17,500 ล้านบาท ตั้งบริษัท JD CENTRAL Commerce ภายใต้ชื่อเว็บไซต์ JD.co.th พร้อมประกาศยุทธศาสตร์ “NEW CENTRAL, NEW ECONOMY” มุ่งหน้าสู่การเป็นสุดยอด Tech Company และเป็นผู้นำด้าน Digi-Lifestyle Platform แห่งแรกของประเทศไทย

โดยได้เปิดเว็บไซต์ JD.co.th หรือ JD CENTRAL ในประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันเกิดของ JD.com ที่มีอายุครบ 20 ปีแล้ว รวมถึงทาง JD.com ก็ได้เปิดทดลองร้าน JD.ID X-Mart ร้านค้าไร้พนักงานที่อินโดนีเซียแห่งแรกเป็นร้านค้าแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในประเทศอินโดนีเซีย

ล่าสุดทาง CENTRAL Group และ JD Group (ซึ่งบริษัทมี JD.com และ JD Finance อยู่ในภายใน) เปิดตัวบริษัท CENTRAL JD Fintech เตรียมนำระบบการชำระเงินด้วยใบหน้า (Payment with Facial Recognition) เข้ามาใช้ในการชำระเงินในห้างเครือเซ็นทรัล โดยได้เปิดบูธสาธิตการใช้งานในงาน Thailand Digital Big Bang 2018 ซึ่งเราอาจจะได้เห็นร้านแบบเดียวกับที่ประเทศอินโดนีเซียในเร็ววันนี้

Photo: Techsauce

โดย Kai Huang, Senior Manager แผนก Oversea Department ของ JD Finance ระบุว่าการเปิดตัวไม่อาจเข้ามาในไทยได้แบบโดดเดี่ยว ต้องอาศัยผู้ประสบการณ์ในการทำธุรกิจในประเทศนั้น ซึ่งทางเซ็นทรัลก็มีประสบการณ์ในเรื่องของการทำธุรกิจค้าปลีก จึงได้ให้ทางเซ็นทรัลเข้ามาร่วมดูแลในเรื่องของการขายสินค้าบนออนไลน์และออฟไลฯ์ รวมถึงระบบ Payment ด้วย โดยมีเทคโนโลยี JD Finance เป็นตัวสนับสนุน

ส่วนคุณรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ CEO ของ CENTRAL JD Fintech ระบุว่าการเปิดตัวบริษัท CENTRAL JD Fintech ก็เพื่อนำเทคโนโลยีจากบริษัท JD Finance ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท CENTRAL JD Fintech ซึ่งมีความแม่นยำสูงถึง 99.99 เปอร์เซ็นต์ มาใช้ในการระบบการชำระเงินของห้างเครือเซ็นทรัลในอนาคต ซึ่งหลังจากนี้ทางจะเปิดตัว Wallet ตามมาในภายหลังด้วยเช่นกัน

โดยจะนำเทคโนโลยี 2 ตัวมาใช้งาน ได้แก่ เทคโนโลยีการวิเคราะห์ใบหน้า (Face Analysis) และ เทคโนโลยีการชำระสินค้าด้วยการสแกนใบหน้า (Face Payment) โดย CEO ของ CENTRAL JD Fintech ระบุว่าตัวเทคโนโลยี อัลกอริทึม และระบบประมวลผลมีความพร้อมเกือบสมบูรณ์ เหลือเพียงแค่การทดสอบการใช้งานในประเทศไทยเท่านั้น

"ตอนนี้เทคโนโลยีของเราพร้อมกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ตอนนี้เหลือขั้นตอนการขออนุญาตทางจากภาครัฐ คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งตอนนี้เราก็อยู่ใน Regulartory Sandbox เพื่อรอการอนุมัติให้ใช้งานจริงได้ต่อไป" คุณรุ่งเรืองกล่าว

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะดีล Netflix เข้าซื้อ Warner Bros ทำไมถึงยอมจ่ายมากถึง 8.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำไมหลายคนไม่เห็นด้วย

นับเป็นข่าวใหญ่ที่สะเทือนวงการบันเทิงหนัง Netflix เจ้าตลาดสตรีมมิ่งประกาศเข้าซื้อกิจการ Warner Bros. ซึ่งนับรวมถึงสตูดิโอสร้างภาพยนตร์-โทรทัศน์ และธุรกิจสตรีมมิ่ง HBO Max และ HBO ด...

Responsive image

ซีอีโอ AWS ชี้ AI Agents จะเปลี่ยนโลกยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ต เราอาจได้เห็น AI Agent พันล้านตัวรันองค์กร

AWS ซีอีโอประกาศชัด AI Agents จะสร้างผลกระทบต่อโลกธุรกิจยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ตและ Cloud พร้อมเปิดยุคที่ ‘AI Agent พันล้านตัว’ ทำงานอัตโนมัติอยู่หลังองค์กรทั่วโลก เร่งผลตอบแทนทางธุรกิ...

Responsive image

วิกฤตสมองไหลใน Apple ไม่จบ ! ล่าสุด Meta ดึงตัว Alan Dye หัวหน้าทีมดีไซน์ Apple ผู้คุมออกแบบ Liquid Glass ใน iOS26

เจาะลึกสมองไหลใน Apple ปี 2025 เมื่อผู้เชี่ยวชาญ AI หลายคนย้ายไป Meta, OpenAI และ Cohere ส่งผลต่ออนาคต Apple Intelligence...