จีนกำลังก้าวกระโดดอีกครั้ง ล่าสุดเอาศูนย์คอมพิวเตอร์ระดับท็อปจากทั่วประเทศกว่า 40 แห่งมาเชื่อมรวมกัน ให้ทำงานพร้อมกันเหมือนเป็น Supercomputer เครื่องเดียวที่เชื่อมตัวกันทั่วประเทศ ภายใต้โครงการชื่อ Future Network Test Facility (FNTF) ที่เพิ่งเปิดใช้งาน และกำลังถูกจับตามองว่าอาจเปลี่ยนเกมการแข่งขัน AI ของโลก

FNTF (Future Network Test Facility) ไม่ใช่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ และไม่ใช่อินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้นธรรมดา ๆ แต่มันคือ ระบบที่ทำให้คอมพิวเตอร์ยักษ์หลายแห่งสามารถทำงานเหมือนเป็นเครื่องเดียว
เพราะโดยปกติแล้ว ถ้าเราเอาศูนย์คอมพิวเตอร์หลายที่มาเชื่อมกัน แม้แต่ละที่จะแรงมาก แต่พอทำงานร่วมกันจริง ๆ จะช้าลงทันที เพราะต้องเสียเวลาส่งข้อมูลไปมา เหมือนเวลาเราต้องประชุมออนไลน์แล้วดีเลย์ตลอด
แต่ FNTF แก้ปัญหานี้ด้วยเครือข่ายใยแก้วนำแสงความเร็วสูงพิเศษ ที่เชื่อมศูนย์ประมวลผลกว่า 40 เมืองทั่วจีน เข้าด้วยกันบนตารางเวลาที่แม่นยำมาก ทำให้คอมพิวเตอร์ทุกแห่งรู้จังหวะกันตลอดเวลา ว่าใครกำลังคิดอะไร ส่งข้อมูลตอนไหน และต้องรอแค่กี่เสี้ยววินาที
ผลลัพธ์คือ แม้จะเป็นคอมพิวเตอร์จำนวนมหาศาลที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่กลับทำงานร่วมกันได้ลื่นไหล จนยังรักษาประสิทธิภาพได้ถึง 98% ของการใช้ศูนย์คอมพิวเตอร์เครื่องเดียว ซึ่งเรียกได้ว่าแทบไม่เสียพลังไปกับการรอข้อมูลเลย
นี่แหละคือเหตุผลที่ FNTF ไม่ธรรมดา เพราะมันไม่ใช่แค่การต่อสายให้ยาวขึ้น แต่เป็นการทำให้พลังสมองของทั้งประเทศรวมกันได้จริง และกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนา AI ระดับชาติ ตั้งแต่โมเดล AI ขนาดใหญ่ ไปจนถึงเทคโนโลยีอนาคตอย่าง 5G, 6G และอุตสาหกรรมอัจฉริยะ
จากการทดสอบส่งไฟล์ใหญ่ขนาดมหาศาลแบบกล้องโทรทรรศน์วิทยุ ซึ่งมีข้อมูลรวม 72 เทราไบต์ (ใหญ่ขนาดประมาณข้อมูลของหนัง HD หลายหมื่นเรื่อง) ผ่านระบบ FNTF จะใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง แต่ถ้าส่งผ่านอินเทอร์เน็ตทั่วไป อาจต้องใช้เวลา เกือบ 2 ปี
ความต่างขนาดนี้ไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลข แต่เป็นสิ่งที่เปลี่ยนวิธีการทำงานของ AI และเทคโนโลยีทันที นี่คือเหตุผลว่าทำไม FNTF ถึงสำคัญ เพราะการฝึก AI โมเดลขนาดใหญ่ หรือการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เช่น การแพทย์ทางไกล หรือโรงงานอัจฉริยะ ต้องการ ความเร็วและความแม่นยำสูงมาก ถ้าข้อมูลส่งช้าระบบก็ใช้ไม่ได้จริง
นอกจากนี้ FNTF ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยีเฉย ๆ แต่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการใหญ่อย่าง East Data, West Computing ที่นับเป็นยุทธศาสตร์ระดับชาติ มีแนวคิดคือ
จีนเลยเอาข้อมูลจากฝั่งตะวันออกไปประมวลผลในฝั่งตะวันตก แล้วส่งผลลัพธ์กลับมาภายในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้เหมือนว่าคอมพิวเตอร์อยู่ที่เดียวกัน แม้กระจายอยู่หลายพันกิโลเมตร
ระบบนี้ใช้ Deterministic Network คือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ ควบคุมการส่งข้อมูลทุกชิ้นให้ตรงเวลาเหมือนรถไฟความเร็วสูง ข้อมูลแต่ละส่วนต้องถูกกำหนดเวลาไว้ชัดเจน ว่าต้องไปถึงเมื่อไหร่ ทำให้หลายศูนย์คอมพิวเตอร์สามารถทำงานพร้อมกันได้เหมือนอยู่เครื่องเดียว
ข้อดี คือ ความเร็วสูงและแม่นยำ เหมาะกับงานที่ต้องการเรียลไทม์ เช่น AI ขนาดใหญ่ โรงงานอัจฉริยะ การแพทย์ทางไกล แต่ก็มีข้อเสียที่น่ากังวล เพราะถ้าการส่งข้อมูลสะดุด หรือระบบไฟฟ้าล่มเพียงบางส่วน อาจกระทบทั้งเครือข่าย ดังนั้นจึงต้องดูแลความเสถียรและพลังงานอย่างเข้มงวด
แต่จีนมองว่าคุ้มค่า เพราะระบบนี้ช่วยให้ทำงานวิจัย 5G / 6G ได้เร็วขึ้นมาก และในอนาคตจะใช้ขยายไปยัง อุตสาหกรรม พลังงาน และเทคโนโลยีการบิน
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด