เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จีนได้ออกมาประกาศแบนบริษัทที่ระดมทุนด้วย ICO โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พร้อมกับให้บริษัทต่างๆที่ได้มีการระดมทุนด้วย ICO คืนเงินให้กับนักลงทุน
ธนาคารกลางแห่งประเทศจีน (People’s Bank of China) ได้ประกาศแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ว่า ‘ICO (Initial Coin Offerings)’ การระดมทุนที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้เป็นการระดมทุนที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งธนาคารและสถาบันการเงินไม่ควรทำธุรกิจใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย ICO นอกจากนี้มีคำสั่งให้บริษัทหรือ Startup หรือบุคคลที่มีการระดมทุนด้วย ICO จะต้องคืนเงินที่ระดมทุนได้ให้กับนักลงทุนทั้งหมด โดยคืนเป็นรูปแบบเงินดิจิทัลคือ Bitcoin และ Ethereum
โดยจีนกล่าวว่า การแบน ICO เป็นการปกป้องสิทธิของนักลงทุน และป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น โดยมองว่าวิธีการลงทุนในลักษณะนี้อาจเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง หรือถูกโกงได้ ในแถลงการณ์กล่าวว่าองค์กรและบุคคลที่ได้รับการระดมทุนผ่าน ICOs ควรจัดเตรียมการคืนเงิน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของนักลงทุนและจัดการกับความเสี่ยงอย่างเหมาะสม พร้อมกับเสริมอีกด้วยว่าจากนี้อาจจำเป็นต้องมีการจัดการที่เพิ่มขึ้นในแพลตฟอร์มการระดมทุนของเงินดิจิทัล
ที่ผ่านมา Startup ทั่วโลกระดมทุนมากกว่าพันล้านดอลลาร์ในปีนี้จากการซื้อขายของ ICO ในขณะที่ในจีนสามารถระดมทุนได้ไม่ต่ำกว่า 2.62 พันล้านหยวนหรือประมาณ 400 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบัน ICO กลายเป็นขุมทรัพย์ที่ช่วยให้ผู้พัฒนาเงินดิจิทัลทั่วโลก ได้เงินลงทุนเพิ่มได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีการกำกับดูแล ซึ่งนั่นก็อาจเป็นช่องโหว่ที่สร้างความไม่ปลอดภัยให้กับนักลงทุน โดยการแบนของจีนในครั้งนี้อาจเป็นตัวอย่างให้กับประเทศอื่นๆ
ซึ่งหลังจากข่าวการแบน ICO แพร่ออกไป ก็ส่งผลให้ราคาของ Bitcoin ล่วงลงมากว่า 5% ในวันจันทร์ โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 4,376.42 ดอลลาร์ ในขณะที่ Ethereum มีราคาล่วงลงมากว่า 12% ในขณะที่แพลตฟอร์มที่เกี่ยวกับ ICO ในจีนได้หยุดให้บริการเป็นทีเรียบร้อย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด