ศึกระหว่างธนาคารพาณิชย์ในจีนและ Alipay ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Alipay บรรลุข้อตกลงร่วมกันกับธนาคาร China Everbright Bank ในการพัฒนา FinTech เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สะท้อนให้เห็นว่าอาลีเพย์เปิดกว้างต่อความร่วมมือกับธนาคารอื่นๆ มากขึ้น
หากกล่าวถึงบริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในยุคนี้ คนส่วนใหญ่ในประเทศจีน(และทั่วโลก)คงจะนึกถึง Alipay (อาลีเพย์) แทนที่จะเป็นบริการของธนาคารในประเทศไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้ธนาคารใหญ่ๆ ในจีนไม่พอใจต่อสถานการณ์เช่นนี้
ธนาคารจึงพยายามสู้ด้วยการจ้างบุคลากรทางเทคนิคให้มากขึ้น เพื่อสร้างบริการออนไลน์ของตนเองและดึงผู้ใช้ให้กลับมาใช้บริการอีกครั้ง แต่ลูกค้าหลายๆ คนกลับไม่พอใจกับประสบการณ์ที่ได้รับขณะใช้งาน
ขณะนี้มีธนาคารพาณิชย์ที่ยอมแพ้ในศึกนี้มากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาหยุดมองอาลีเพย์เป็นศัตรู และเริ่มแสวงหาความร่วมมือแทน โดยธนาคารที่จับมือกับอาลีเพย์ล่าสุด คือ China Everbright Bank
เรียกได้ว่ามีอีกหนึ่งสมาชิกที่แยกตัวออกมาจาก "กลุ่มพันธมิตรต่อต้าน Alibaba" ในบรรดาธนาคารของจีนเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียน Alibaba
จากแถลงการณ์ของ Ant Financial เจ้าของบริษัทอาลีเพย์ ระบุว่าทั้งสองบริษัท พร้อมด้วยบริษัทย่อยของธนาคาร Everbright ได้ประกาศความร่วมมือเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยมีความร่วมมือในหลายด้าน เช่น การสร้าง Cloud Platform, สถาปัตยกรรมทางการเงินต่างๆ ที่เปิดกว้าง เช่น ระบบการเงินบนอินเทอร์เน็ต และระบบการเงินบนมือถือ
ดูเหมือนว่าอาลีเพย์จะเปิดกว้างกับการร่วมมือในลักษณะดังกล่าวมากขึ้น โดย Eric Jing ซีอีโอของอาลีเพย์กล่าวว่า "สำหรับเรา หลักเกณฑ์เดียวสำหรับหุ้นส่วนที่ร่วมมือกับเรา คือ หุ้นส่วนต้องมีความสามารถมากพอในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะมอบคุณค่าให้กับผู้ใช้ได้"
ส่วนทางธนาคาร Everbright ที่กำลังจะสร้างห้องปฏิบัติการนวัตกรรมร่วมกับอาลีเพย์ กล่าวว่า
FinTech กำลังกลายเป็นคุณสมบัติหลักสำหรับสถาบันการเงิน ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมต่างๆ
นอกจากนี้ยังมีกรอบความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) และการตรวจสอบข้อมูลทางชีวภาพ (Biometric Verification) ด้วยเช่นกัน
ล่าสุด
Ant Financial ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Alibaba ที่่บริหารโดย 'แจ็คหม่า' เคยสัญญาไว้ว่า "ถ้าธนาคารไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เราจะเป็นคนช่วยให้พวกเขาเปลี่ยนเอง"
คำสัญญานี้เริ่มค่อยๆ กลายเป็นความจริงแล้ว เพราะก่อนหน้าที่อาลีเพย์จะร่วมมือกับ Everbright เมื่อปี 2017 อาลีเพย์ก็เคยลงนามร่วมมือกับธนาคารอื่นๆ เช่นธนาคารเพื่อการก่อสร้างของจีนหรือ China Construction Bank (CCB)
ทั้งนี้อาลีเพย์ไม่ใช่ยักษ์ใหญ่เจ้าเดียวที่มีความร่วมมือกับธนาคาร Everbright เพราะเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (24 พ.ค.) ธนาคารได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือด้านการสร้างนวัตกรรมกับ Tencent เจ้าของ WeChat Pay คู่แข่งเบอร์หนึ่งของอาลีเพย์อีกด้วย
อ้างอิงข้อมูลจาก CGTN
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด