เศรษฐกิจแย่ Gen Z จีนแห่บอกลาแบรนด์เนม หันซบผิงตี้ Dupe สัญชาติจีนดันเทรนด์พุ่งแรง | Techsauce

เศรษฐกิจแย่ Gen Z จีนแห่บอกลาแบรนด์เนม หันซบผิงตี้ Dupe สัญชาติจีนดันเทรนด์พุ่งแรง

Dupe สัญชาติจีนมาแรง! เมื่อเศรษฐกิจจีนชะลอตัวไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปและกำลังผลักดันให้วัยรุ่นจีนแห่รัดเข็มขัด ลดการช็อปของแบรนด์เนม แต่หันมาดันเทรนด์สินค้า “ผิงตี้” หรือ Dupe สินค้าเลียนแบบแบรนด์หรูคุณภาพสูง สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวของคนรุ่นใหม่ ที่หันมาให้ความสำคัญกับ "ความคุ้มค่า" มากกว่า "ชื่อเสียง" ของแบรนด์

เศรษฐกิจจีนตกต่ำ ประชาชนขาดความเชื่อมั่น

ประเทศจีนกำลังเข้าสู่ยุคตกต่ำของเศรษฐกิจในประเทศ เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวอย่างต่อเนื่องซึ่งกระทบกับสภาพวะทางการเงินของประชาชนในประเทศอย่างมาก จากประเทศที่มีประชาชนใช้จ่ายฟุ่มเฟือยมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก กลับกลายเป็นประเทศที่ประชาชนหาทางประหยัดค่าใช้จ่ายทุกทางตั้งแต่ของฟุ่มเฟือยไปถึงสินค้าในชีวิตประจำวัน

ชาวจีนจำนวนมากกำลังเผชิญกับอัตราจ้างงานต่ำ แม้แต่ผู้ที่ประกอบอาชีพที่ดูมั่นคงก็ต้องเผชิญกับการลดเงินเดือนและความไม่มั่นคงในตำแหน่งงาน รวมถึงราคาหุ้นที่ลดลง ล้วนส่งผลให้ความเชื่อมั่นของประชาชนอยู่ในจุดต่ำสุด เป็นเหตุให้ GenZ จีนปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตที่ประหยัดและดันเทรนด์ผิงตี้ (平替) ทางเลือกสินค้าเลียนแบบสินค้าราคาแพงในราคาประหยัดและคุณภาพดีขึ้นมาเพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

ผิงตี้: Dupe แต่ไม่ด้อยคุณภาพ

การชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่เห็นได้ชัดส่งผลให้การค้นหาสินค้าลอกเลียนแบบบนโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นสามเท่าตั้งแต่ปี 2022 ถึงปี 2024 Laurel Gu กรรมการของ Mintel บริษัทวิจัยตลาดในเซี่ยงไฮ้กล่าว

ตามคำกล่าวของนักวิเคราะห์ กระแสสินค้า “ผิงตี้” หรือที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า Dupe กำลังเป็นที่นิยมโดยเฉพาะในหมู่ Gen Z จีนที่กำลังปรับตัวและใช้เงินที่มีอยู่จำกัดผ่านการแลกเปลี่ยนเคล็ดลับเกี่ยวกับการใช้เงินอย่างชาญฉลาดบนโซเชียลมีเดีย

สินค้าผิงตี้บางชิ้นแทบจะแยกจากของจริงไม่ออกทั้งหน้าตาและคุณภาพ ขณะที่บางชิ้นได้รับแรงบันดาลใจจากแบรนด์แท้แต่มีสีสันหรือเนื้อสัมผัสที่หลากหลายกว่า นอกจากนี้ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ที่มาจากโรงงานเดียวกันกับสินค้าแบรนด์เนม หรือ OEM ซึ่งให้ราคาที่ถูกกว่ากันมากในคุณภาพที่ใกล้เคียงกัน

จากโพสต์หนึ่งของ Xiaohongshu โซเชียลมีเดียที่คล้าย Instagram ของจีน ได้แสดงให้เห็นว่าการใช้สินค้าเครื่องสำอางแบบผิงตี้ทั้งหมดสามารถช่วยประหยัดเงินได้เกือบ 1,000 หยวนจีน หรือราว 4614 บาท

เทรนด์ผิงตี้ส่งผลให้แพลตฟอร์มขายส่งอย่าง 1688 ของ Alibaba ได้รับประโยชน์อย่างมาก โดยการค้นหาคำว่า “ผิงตี้” เพิ่มขึ้นเกือบ 2,000% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีก่อนหน้า 

เทรนด์สินค้าผิงตี้ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่วงการแฟชั่น

จากกระแสบนโลกออนไลน์ จะเห็นได้ว่าผิงตี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวงการแฟชั่นอย่างเดียว แต่ขยายตัวครอบคลุมสินค้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอาง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ของใช้ในบ้าน อาหารและเครื่องดื่ม การศึกษา ไปจนถึงการดูแลสุขภาพ

นอกจากนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนยังเลือกจุดหมายปลายทางภายในประเทศที่คล้ายกับต่างประเทศ เช่นเมืองอีหลี ในมลฑลซินเจียง ซึ่งมีทุ่งลาเวนเดอร์เหมือนกับในแคว้นโพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศส รวมถึงเมืองสิบสองปันนาที่มีสถาปัตยกรรมที่คล้ายกับในประเทศไทย และภาษาของกลุ่มชาติพันธุ์ไทที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนี้ฟังดูเหมือนภาษาไทย ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในประเทศไทย" 

สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมใหม่ของ Gen Z ที่ให้ความสำคัญกับ "ฟังก์ชัน" และ "ราคา" มากกว่า "ชื่อเสียง" ของแบรนด์หรือสินค้านั้นๆ ผิงตี้จึงค่อยๆ กลายเป็นกลยุทธ์หลักการขายในสินค้าแทบทุกประเภท MingYii Lai ที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์จากบริษัทวิจัยตลาด Daxue Consulting ซึ่งตั้งอยู่ในปักกิ่งกล่าว

อนาคตเศรษฐกิจจีนกับการรับมือจากรัฐบาล

ปรากฏการณ์ “ผิงตี้” ไม่ใช่แค่เทรนด์แฟชั่นชั่วคราว แต่เป็นสัญญาณเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในพฤติกรรมผู้บริโภคจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง ตั้งแต่ยอดขายของแบรนด์เนมที่ลดลง เช่นยอดขายของ LVMH ลดลงอย่างมากในจีน ไปจนถึงการเติบโตของตลาดสินค้า Dupe ซึ่งเป็นความท้าทายที่รัฐบาลจีนต้องเร่งหาทางรับมือ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

ธนาคารกลางของจีนได้ออกมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและลดข้อกำหนดการสำรองของธนาคารเพื่อส่งเสริมการปล่อยสินเชื่อ แม้จะมีความพยายามเหล่านี้ แต่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงต่ำ โดยหลายคนประสบกับการลดค่าจ้างหรือการสูญเสียงาน โดยเฉพาะในกลุ่มคนหนุ่มสาว อัตราการว่างงานของผู้คนในช่วงอายุ 18 ถึง 24 ปี พุ่งสูงถึง 18.8% ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

แม้จะยังไม่มีใครสามารถฟันธงได้ว่าเทรนด์สินค้าผิงตี้จะคงอยู่ต่อไปนานแค่ไหน แต่ปรากฏการณ์นี้ได้ทิ้ง โจทย์ใหญ่ไว้ให้กับแบรนด์ต่างๆ ในการปรับตัว สร้างมูลค่าเพิ่ม และสื่อสารกับ Gen Z กลุ่มผู้บริโภคที่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจจีนต่อไปในอนาคต ผิงตี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในพฤติกรรมผู้บริโภคจีน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว

อ้างอิง: edition.cnn, businessinsider

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สรุปงาน Techsauce Global Summit 2024 Ho Chi Minh กับการเยือนเวียดนาม พาไทยสู่การเป็น Tech Gateway แห่งภูมิภาค

สรุปงาน Techsauce Global Summit 2024 Ho Chi Minh กับการเยือนเวียดนาม พาไทยสู่การเป็น Tech Gateway แห่งภูมิภาค...

Responsive image

Lawrence Wong นายกฯ สิงคโปร์ นั่งเครื่องบินชั้นประหยัดจากงานประชุมอาเซียนกลับบ้าน มีอะไรน่าคิดว่าที่เห็น!

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา สื่อต่างๆ ในสิงคโปร์รายงานว่า นายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง (Lawrence Wong) ได้เดินทางกลับจากการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ลาว ด้วยเที่ยวบิน TR351 ของสายการ...

Responsive image

อินโดนีเซียสั่งแบน Temu แอปขายของจากจีน หวั่นกระทบ SME ในประเทศ

อินโดนีเซียสั่งแบน Temu แพลตฟอร์ม E-Commerce ยักษ์ใหญ่จากจีน โดยสั่งให้ Google และ Apple ลบแอปพลิเคชันออกจาก Play Store และ App Store เพื่อปกป้องธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ในป...