ประเทศจีนกำลังวางแผนที่จะลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ครอบคลุมภาคการผลิตลง 3% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวในที่ประชุมสมัชชาประชาชนแห่งชาติจีนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจ กำหนดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศตลอดจนวัตถุประสงค์สำหรับนโยบายการคลังและการเงิน การลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มถึง 3 เปอร์เซ็นต์นั้นจะสามารถเพิ่มอัตราการเติบโตสูงถึง 600 พันล้านหยวน (90 พันล้านดอลลาร์) หรือ 0.6 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ตามการประเมินของ Morgan Stanley
ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็นแหล่งรายได้ภาษีที่ใหญ่ที่สุดของรัฐบาลโดยมีมูลค่า 6.15 ล้านล้านหยวน (917 พันล้านเหรียญสหรัฐ) จากเมื่อปีที่แล้ว
การเดินหน้าในครั้งนี้จะช่วยให้ผลกำไรของบริษัทขยับตัวขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจเผชิญแรงกดดันจากความกดดันทางการค้าของสหรัฐฯ และผลจากภาระหนี้ โดยการลดภาษียังเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนทางการเงินเชิงรุก โดยการลดภาษีของผู้ผลิตจาก 16 % เป็น 13% และลดภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมก่อสร้างและขนส่งลงจาก 10% เหลือ 9% นอกจากนี้ยังประกาศเพิ่มงบประมาณรายจ่าย โดยตั้งงบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 2.8% ในปีนี้ เทียบกับปีก่อนหน้าที่ 2.6 %
Ding Shuang หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่าจะประหยัดเงินได้ประมาณ 5 แสนล้านหยวนแก่อุตสาหกรรมการผลิต
ที่มา: Bloomberg, South China Morning Post
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด